ออทัมน์ หยิง ศิลปินมากความสามารถได้แชร์พระสาทิสลักษณ์อันน่ารักของเจ้าหญิงไดอาน่า ผู่ล่วงลับกับ HELLO! ออทัมน์มีผู้ติดตามในอินสตาแกรมเป็นจำนวนมาก ซึ่งเธอมักจะโพสต์ภาพเขียนเกี่ยวกับภาพงานแฟชั่นไปจนถึงภาพพอร์เทรต แต่ภาพใหม่เหล่านี้อาจจะเป็นงานที่ดีที่สุดของเธอก็ว่าได้
ภาพที่เราเกริ่นไว้ด้านบน เป็นภาพที่เอาทัมน์จินตนาการให้เจ้าหญิงไดอาน่ามีพระชนม์ชีพอยู่ในปัจจุบัน พร้อมกับทรงยืนเคียงข้างสมาชิกพระราชวงศ์พระองค์อื่นๆ หนึ่งในสองพระองค์นั้นเป็นพระสัสสุที่พระองค์มิเคยทรงพบกันมาก่อน ซึ่งก็คือ ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์และดัชเชสแห่งซัสเซ็กส์ และหนึ่งในพระสาทิสลักษณ์ เจ้าหญิงไดอาน่าทรงจับพระหัตถ์และทรงพระดำเนินเคียงข้างดัชเชสทั้งสองพระองค์ที่ทรงอยู่ในฉลองพระองค์ที่เคยทรงไปในพระราชพิธีทางศาสนาเนื่องในวันครบรอบ 100 ปีของการหยุดรบ ยังมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2018 อีกพระสาทิสลักษณ์เป็นพระสาทิสลักษณ์ขณะเจ้าหญิงไดอาน่าทรงยืนดอกดัชเชสเคตและดัชเชสเมนแกน ซึ่งด้านหลังเป็นต้นคริสต์มาสสีขาวขาดใหญ่ ทั้งสามพระองค์ทรงฉลองพระองค์เดรสอย่างงาม
อีกพระสาทิสลักษณ์ที่กระตุ้นน้ำตาเป็นที่สุดเป็นพระสาทิสลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความรักของเจ้าหญิงผู้ล่วงลับที่ทรงมีต่อพระโอรส ขณะทรงอยู่กับพระโอรสทั้งสองพระองค์ โดยมีเจ้าชายวิลเลี่ยมทรงกอดพระมารดาจากทางด้านหลัง ในขณะที่เจ้าหญิงไดอาน่าทรงจับพระหัตถ์ของเจ้าชายแฮร์รี่ พระสาทิสลักษณ์นี้มีต้นแบบมาจากพระรูปครอบครัวที่ทั้งสามพระองค์สำราญพระอิริยาบถอยู่ที่สวนนอกพระตำหนัก ซึ่งถ่ายในปี 1988 ในขณะนั้นเจ้าชายวิลเลี่ยมมีพระชันษา 6 ปี ส่วนเจ้าชายแฮร์รี่มีพระชันษา 3 ปี
ย้อนกลับไปในวันที่เจ้าหญิงไดอาน่าสิ้นพระชนม์ ขณะนั้นเจ้าชายวิลเลี่ยมมีพระชันษา 15 ปี เจ้าชายแฮร์รี่ มีพระชันษา 12 ปี ทั้งสองพระองค์ทรงเปิดเผยถึงความยากลำบากกับการจัดการกับความโศกเศร้าที่เกิดจากความสูญเสีย แต่ในขณะที่พระมารดาไม่เคยเห็นทั้งสองพระองค์ทรงเจริญวัย ทรงเข้าพระราชพิธีเสกสมรส ไปจนถึงในวันที่พระโอรสมีพระทายาทของตัวเอง แต่ก็ชัดเจนแล้วว่าเจ้าชายทั้งสองพระองค์ยังทรงยังทำให้เมือนว่าพระมารดาผู้ทรงเป็นที่รักยังอยู่เคียงข้างเสมอ ทั้งการเสกสมรสของเจ้าชายวิลเลี่ยมและดัชเชสเคตในปี 2010 เจ้าชายวิลเลี่ยมทรงมอบพระธำมรงค์หมั้นแซพไฟร์ของพระมารดาให้กับดัชเชสเคต และเมื่อเจ้าชายแฮร์รี่ทรงหมั้นในปี 2017 พระองค์ยังมีรับสั่งถึงพระมารดาว่า มั่นพระทัยว่าพระมารดา “จะทรงยินดีและจะทรงกระโดดไปกับพวกเรา”