Home > Beauty & Health > Beauty > Skin > วิธีดูแลรักษา ส้นเท้าแตก

ถึงจะเป็นส้นเท้า บริเวณที่ดูเหมือนว่า เราจะไม่ค่อยมีโอกาส ได้สัมผัส หรือยุ่งเกี่ยว ไม่เหมือนผิวส่วนอื่น ๆ แต่ถ้าเราละเลย ไม่ดูแล ปล่อยให้ ส้นเท้าแตก หยาบ แห้งกร้าน นอกจากไม่สวยงาม ไม่สบายผิว แล้ว เกิดปล่อยไว้นาน จนลุกลาม ผิวแห้งแตก ลอกเป็นแผ่น อาจกลายเป็นแผล เลือดออก หรือ ติดเชื้อ มีเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ อย่าปล่อยไว้จนสายเกินไป จะดีกว่าไหม ถ้าเรามาดู วิธีดูแลรักษาส้นเท้า กันตั้งแต่ตอนนี้

สาเหตุของอาการ ส้นเท้าแตก

เกิดการเสียดสี ของผิวฝ่าเท้า อยู่ตลอดเวลา กับสิ่งที่มาทำให้ผิวระคาย เช่น ไม่ชอบใส่รองเท้า เดินเท้าเปล่าบ่อย ๆ หรือ รองเท้าแข็งเกิน รองเท้าขนาดไม่พอดี เดิน หรือ ยืน เป็นเวลานาน

สัมผัสอากาศแห้ง อากาศเย็น อยู่ในสภาวะที่ทำให้ผิวแห้งง่าย เป็นเวลานาน โดยไม่ทาครีมบำรุง เพิ่มความชุ่มชื้นบ้าง

อาบน้ำร้อนบ่อย ทำให้ผิวแห้ง หรือ ใช้สบู่ที่ไม่อ่อนโยนต่อผิว

ดื่มน้ำน้อย ร่างกายขาดน้ำ ขาดความชุ่มชื้น จนผิวแห้งกร้าน

แพ้สารเคมีบางอย่าง ที่มาสัมผัสกับผิว

กรรมพันธุ์ หรือ โรคประจำตัวบางอย่าง เช่น โรคเบาหวาน

อายุที่มากขึ้น เซลล์ผิวเสื่อมลง ขาดความชุ่มชื้น ทำให้ผิวแห้งลอกง่าย

วิธีดูแลรักษา ส้นเท้าแตก

ดื่มน้ำให้เพียงพอ

ร่างกายของเรา ต้องการน้ำสะอาด ในปริมาณที่เพียงพอ 8-10 แก้ว ในแต่ละวัน เพื่อให้ระบบต่าง ๆ สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าร่างกายได้รับน้ำมากพอ จะทำให้ผิวชุ่มชื้น นุ่มเนียน ไม่แห้งกร้าน และ ยังส่งผลไปถึงผิวที่เท้าเราอีกด้วย

ส้นเท้าแตก

บำรุงด้วยการแช่เท้า

ผ่อนคลายผิว และความอ่อนล้า ด้วยการแช่เท้าในน้ำอุ่น ผสมน้ำสบู่ หรือ ผสมเบคกิ้งโซดา สัก 15 นาที เพื่อเท้าที่เนียนนุ่ม อาจเติม น้ำมันหอมอโรม่า กลิ่นโปรด สักเล็กน้อย เป็นการรีแล็กซ์ ทั้งร่างกาย และผิว ในวันที่อ่อนล้า ได้เป็นอย่างดี

ขัดถูส้นเท้า

ใช้แปรง ที่ขนไม่แข็ง ไม่อ่อนเกินไป ค่อย ๆ ขัดถู บริเวณผิวเท้า ที่แห้งแตก  เพื่อขจัดสิ่งสกปรก ที่ติดค้างในรอยแตก ของผิว และผลัดเซลล์ผิวที่ตายออก หรือ อาจใช้หิน สำหรับขัด ส้นเท้าแตก โดยเฉพาะ ก็ได้ แต่ระวัง อย่ารุนแรงเกินไป เพราะผิวส่วนที่แห้ง นั้นมีความบอบบาง อาจทำให้เลือดออก เป็นแผลได้

บำรุงด้วยมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ 

ใช้ผลิตภัณฑ์ สำหรับบำรุงส้นเท้าโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีความเข้มข้น มากกว่า ครีมบำรุงผิวทั่วไป ทาบำรุงหลังอาบน้ำ หลังแช่เท้า ขัดเท้า และก่อนนอน เป็นประจำทุกวัน เพื่อฟื้นฟูผิว ให้กลับมานุ่มเนียน หรือ อาจใช้วาสลีนก็ได้ อย่าลืมทาแล้ว ใส่ถุงเท้า เพื่อถนอมผิว

ส้นเท้าแตก

ใช้น้ำมันช่วยบำรุง

ใช้น้ำมันพืช อย่าง น้ำมันมะกอก หรือ น้ำมันมะพร้าว ที่มีวิตามิน E สูง ดีต่อการ คืนความชุ่มชื้นให้ผิว หลังทำความสะอาดเท้า เช็ดเท้าให้แห้ง แล้วทาด้วยน้ำมันบาง ๆ รอบบริเวณส้นเท้า นิ้วเท้า อาจนวดเบา ๆ ให้น้ำมันซึมเข้าผิว แล้วสวมถุงเท้าไว้ ให้ผิวได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่

เปลือกกล้วยช่วยได้

เปลือกกล้วยหอม กินเสร็จอย่าเพิ่งทิ้ง ให้ใช้ด้านในของเปลือกล้วย ที่นุ่ม ๆ ลื่น ๆ นำมาขัดถู บริเวณส้นเท้าที่แตก ในเปลือกกล้วยนั้น มีวิตามิน E อยู่ ซึ่งมีสรรพคุณเลื่องลือ ในด้านการบำรุงผิว ช่วยเติมความชุ่มชื้น ให้ผิวแห้งกร้านฟื้นคืนกลับมา

รักษาความสะอาดให้ดี

หมั่นรักษาความสะอาดของเท้าเรา ที่ต้องเผชิญกับอะไร ๆ ในทุกวัน ดูแลทำความสะอาดสิ่งสกปรกต่าง ๆ ให้ดี ไม่ให้เป็นที่สะสมเชื้อโรค แบคทีเรีย หรือ เกิดความอับชื้น จนเป็นเชื้อราตามมาได้ เพื่อลดโอกาส เกิดอาการผิดปกติต่าง ๆ กับผิวของเรา

หลีกเลี่ยงน้ำร้อน

การอาบน้ำที่ร้อนจัด หรือ อุณหภูมิสูงเกินไป ก็เป็นเหตุให้ ส้นเท้าแตก ได้เช่นกัน เพราะทำให้ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ควรเลือกแบบที่ถนอมผิวเป็นพิเศษ

อ่านเรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับราชวงศ์ ทั้งไทย และ ต่างประเทศ เซเลบริตี้ ข่าวสารใหม่ ๆ และ เรื่องราวเกี่ยวกับแฟชั่น สุขภาพ และความงามได้ที่ Hello!

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.