10 ความมหัศจรรย์เพื่อสุขภาพของ อะโวคาโด สุดยอดผลไม้ที่คุณจะต้องทึ่งกับประโยชน์มากมาย
คุณเคยรู้หรือไม่ว่า อะโวคาโด คือผลไม้ที่ติดเทรนด์ปี 2020 แล้วแบบนี้ ประโยชน์ของอะโวคาโด คืออะไร ทำไมสุดยอดผลไม้ชนิดนี้ ถึงกลายเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก Hello! จะมาช่วยเพิ่มความเข้าใจได้มากขึ้น

แต่ก่อนอื่นมาทำความรู้จัก อะโวคาโด ให้มากขึ้นกันดีกว่า ซึ่ง อะโวคาโด หรือ ลูกเนย เป็นผลไม้ที่มีเนื้อมันเป็นเนย เนื้อมีตั้งแต่เหลืองอ่อนจนถึงเหลืองเข้ม รสมัน เนื้อละเอียด ไม่มีกลิ่น มีเมล็ดเดียว มีรกหุ้มเมล็ด
ส่วนของต้นนั้น อะโวคาโด เป็นต้นไม้ยืนต้นที่โตเต็มที่ได้ถึง 18 เมตร มีเปลือกน้ำตาลอ่อน ผิวขรุขระ ใบสีเขียวสด ดอกขนาดเล็ก สีเขียวอมเหลือง ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่งผลกลมรี
ในส่วนของยังสามารถแยกแบ่งประเภท ได้เป็น 3 เผ่า คือ
- เผ่ากัวเตมาลา ผลเขียว เนื้อหนาไขมันสูง ชอบอากาศหนาว
- เผ่าเวสต์อินเดียน ผลสีเขียวอมเหลือง เปลือกจะหนา ๆ หน่อย มีไขมันน้อย และ ชอบอากาศร้อน
- เผ่าเวสต์อินเดียน ผลเล็ก เปลือกหุ้มเมล็ดบาง จะมีความหนาน้อยกว่า 2 เผ่า มีไขมันมาก และ ยังทนอากาศหนาวเย็นได้ทนที่สุด
ซึ่งหลังจากที่เรารู้ความเป็นมาเบื้องต้นของ อะโวคาโด แล้ว มาดูกันว่า 10 ประโยชน์ และ ความมหัศจรรย์ของ อะโวคาโด มาดูกันได้เลย ว่ามีอะไรกันบ้าง
มีคุณสมบัติต้านการอักเสบของร่างกายได้

ด้วยความที่อะโวคาโด มีเนื้อที่มัน มีคุณสมบัติในการลดอาการอักเสบภายในร่างกาย ซึ่งแหล่งที่มานั้นที่เรารู้จักกันดีคือ กรดไขมัน โอเมก้า-3, สารไฟโตเสตอรอล (Phytosterols) เป็นสารธรรมชาติที่พบเฉพาะในพืช คือช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลในร่างกาย และ ฮอร์โมนพืช (Plant Hormone) คือสารอินทรีย์ที่พืชสร้างขึ้นเองตามธรรมชาติในบริเวณอวัยวะหรือเนื้อเยื่อส่วนใดส่วนหนึ่งของต้นพืช ซึ่ง 3 คุณสมบัตินี้ช่วยควบคุมอาการอักเสบของร่างกายให้อยู่หมัด แถมยังช่วยฟื้นฟูอาการบาดเจ็บต่างๆ ของข้อต่อด้วย
ช่วยลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี

น่าจะเป็นหัวข้อที่ยอดนิยมที่สุดสำหรับการช่วยลดน้ำหนักให้แก่ทุก ๆ คน เนื่องจากใยอาหารของ อะโวคาโด ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด มีผลต่อระดับน้ำตาล ลดอัตราเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจ แถมยังช่วยควบคุมน้ำหนัก และทำให้คุณอิ่มนานขึ้น รวมถึงการกินก็ทำให้แคลอรี่ต่อวันก็น้อยมาก
ทำให้สุขภาพหัวใจแข็งแรง

อะโวคาโด ประกอบไปด้วย แพลนท์สเตอรอล (Plant sterol) สารประกอบที่เรียกว่า เบต้า-ซิโตสเตอรอล (Beta-Sitosterol) คือ สสารที่พบในพืช โดยทั่วไปถูกใช้เพื่อโรคหัวใจและควบคุมระดับโรคคอเลสเตอรอล ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน โรคมะเร็งลำไส้ ซึ่งทั้งหมดนั้น ดีต่อสุขภาพของหลอดเลือดหัวใจ
ควบคุมความดันโลหิต

อะโวคาโด เป็นแหล่งแร่ธาตุชั้นดี โดยเฉพาะโพแทสเซียม และ โซเดียม ซึ่งช่วยทำให้ ความดันโลหิตในร่างกายนั้นมีความเสถียร ช่วยขจัดความเสี่ยงของอาการหัวใจวาย หรือ โรคหลอดเลือดสมอง
เป็นอาหารบำรุงสายตา

ประโยชน์ของการบริโภค อะโวคาโด คือ ทำให้ดวงตาสดใส เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระ และ เบต้าแคโรทีน (Beta Carotene) คือ สารที่ทำให้เกิดสีแดง สีส้ม และสีเหลืองในผักและผลไม้ อีกทั้งยังมีสาร ลูทีน (Lutein) และ ซีแซนทีน (Zeaxanthin) มีคุณสมบัติช่วยชะลอการเกิดโรคต้อกระจก และ โรคจอตา รวมถึง ช่วยลดการสะท้อนของแสง ป้องกันรังสีจากแสงแดดที่เป็นอันตรายต่อดวงตาได้เป็นอย่างดี ซึ่งจำนวนของวิตามินเอ ในอะโวคาโด ช่วยลดความเสี่ยง โรคจอตาเสื่อมในผู้สูงอายุ ได้อีกด้วย
ปกป้องจากมะเร็ง

อะโวคาโด ปกป้องทั้งมะเร็งลำไส้ใหญ่, มะเร็งตับ, มะเร็งปากมดลูก และ มะเร็งกระเพาะอาหาร นั้นหมายถึง ผลไม้นี้มีประโยชน์ในการรักษามะเร็ง และ ยับยั้งการเติบโตของเซลส์มะเร็ง ที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิต อีกด้วย
ระบบการย่อยอาหารดีขึ้น

อะโวคาโด เต็มไปด้วยเส้นใยอาหารทำให้ระบบลำไส้ทำงานได้ดี และ ทำให้ระบบการถ่ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น มากกว่านั้น ยังลดอาการท้องผูก ซึ่งเป็นสาเหตุของมะเล็งลำไส้อีกด้วย
สุขภาพที่ดีสำหรับผู้หญิงที่ตั้งครรภ์

อะโวคาโด มอบแหล่งสารอาหารที่สำคัญ คือ โฟเลต (folate) เป็นวิตามินชนิดที่ละลายได้ในน้ำ มีความสำคัญในปฏิกิริยาการขนส่งคาร์บอนหนึ่งหน่วยไปยังเนื้อเยื่อต่างๆ ของร่างกาย ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงเพื่อการเจริญของลูกในครรภ์และเตรียมสำรองเลือดเผื่อไว้ตอนคลอด อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการแท้งบุตร และ Neural tube defect (NTDs) หรือ ภาวะหลอดประสาทไม่ปิด เป็นความผิดปกติตั้งแต่กำเนิดของระบบประสาทส่วนกลาง และ ไขสันหลัง พบได้บ่อยเป็นอันดับสองรองจากโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด เกิดจากการที่ท่อระบบประสาท (neural tube) ปิดตัวไม่สมบูรณ์ในช่วง 3-4 สัปดาห์หลังปฏิสนธิ (อายุครรภ์ 5-6 สัปดาห์)
ลดอาการซึมเศร้า

ในยุคที่คนเครียดกันมากมายจาก อาการซึมเศร้า ที่เราได้เห็นตามข่าว ซึ่งตัวของ อะโวคาโด ก็เป็นผลไม้ที่ประสิทธิภาพในการช่วยลดอาการซึมเศร้าได้ และป้องกันระดับของสารโฮโมซิสเทอีน (Homocysteine) คือ สารที่เกิดจากการย่อยสลายของอาหารประเภทโปรตีน ซึ่งสารที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผนังด้านในของหลอดเลือดโดยตรง ทำให้ส่งผลเสียต่อหลอดเลือดทั่วร่างกาย อาจจะเกิดอาการนอนไม่หลับ และ อารมณ์เสียหรือที่ไม่คงที่ตามมา
ช่วยทำให้ผิวกายเปล่งปลั่ง

อะโวคาโด เปรียบดั่งเสมือนโรงไฟฟ้าใหญ่ที่ปล่อยกระแสไฟให้กับบ้านคนต่าง ๆ เพราะตัวของผลไม้นี้ ก็มอบสารอาหารที่สำคัญต่างๆ ทั้ง วิตามิน, แร่ธาตุ, สารต้านอนุมูลอิสระ และไขมันดี ซึ่งที่ได้กล่าวไปนั้น เป็นส่วนสำคัญ สำหรับผิวหนังของมนุษย์เรา อีกทั้งยังเต็มไปด้วยวิตามินซี และ วิตามิน อี ที่ทำให้ผิวพรรณเปล่งประกายมากขึ้น
มากกว่านั้น อะโวคาโด คือสุดยอดผลไม้ที่ยอดเยี่ยมสำหรับในช่วงลดไขมัน ไม่ว่าคุณจะใช้กรรมวิธีในการทำอาหารแบบไหน ประโยชน์ของอะโวคาโด ก็ยังสุดยอดไม่มีเปลี่ยนแปลง เพราะฉะนั้นเราจึงอยากให้แฟนๆ HELLO! ได้มีสุขภาพดีกันทุกคน
Feature Image by Pexel
อ่านเรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับราชวงศ์ ทั้งไทย และ ต่างประเทศ เซเลบริตี้ ข่าวสารใหม่ ๆ และ เรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพและความงามได้ที่ HELLO!
Reference
https://edition.cnn.com/2021/05/31/health/avocado-benefits-wellness/index.html
https://www.healthline.com/nutrition/avocado-nutrition
https://www.bbcgoodfood.com/howto/guide/health-benefits-avocado