ใครเล่าจะไม่ชอบคนตัวหอม เมื่อกลิ่นหอมเหล่านี้ ช่วยอัพลุค เสริมความมั่นใจ ให้เราได้ง่าย ๆ ด้วยการใส่น้ำหอม อีกหนึ่งเครื่องประทินผิว ที่ช่วยขับเสน่ห์ และสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้กับแต่ละคน เพราะกลิ่นหอมนั้น คืออีกสิ่งที่บ่งบอกรสนิยม ดึงดูด สร้างความประทับใจให้คนที่พบเจอ มาดู 5 อันดับ น้ำหอมผู้หญิง ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ก็ยังคงฮอตฮืต ครองใจติดชาร์จ อยู่ทุกยุคสมัยกัน5 อันดับน้ำหอมสุดคลาสสิคของผู้หญิง

Chanel No.5
น่ำหอมสุดคลาสสิคในตำนาน ตัวแม่แบบใครก็เถียงไม่ได้ กลิ่นหอมหวานเย้ายวน หรูหรา โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ใครได้กลิ่นก็รู้ทันทีว่านี่คือ Chanel No.5 วางจำหน่ายครั้งแรกตั้งแต่ปี 1921 ซึ่ง Coco ได้เลือก น้ำหอมหมายเลข 5 จากทั้งหมด 80 กลิ่น มาวางขายเป็นน้ำหอมกลิ่นแรกของแบรนด์ ชูกลิ่นหอมนำด้วยกลิ่นของ ดอกมะลิ ไอริส กุหลาบ เนโรลี เติมความสดชื่นด้วย เลม่อน มะกรูด พร้อมเบสโน้ตที่หอมละมุน ลุ่มลึก นุ่มนวล ด้วยกลิ่นมัสก์ วานิลลา แพทชูลี่ เหมาะกับคนที่ชอบกลิ่นแบบหรูหรา ดูเป็นผู้ใหญ่
ราคาประมาณ 6,400 บาท (ขนาด 100 ml.)

Miss Dior Blooming Bouquet
น้ำหอมกลิ่นยอดฮิต ขวัญใจมหาชนของแบรนด์ Dior กลิ่นนี้ ถือกำเนิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 1947 ซึ่งได้มัการแตกไลน์ออกมาอย่างหลากหลาย แต่ตัวท็อปฮิตติดลมบน ก็ยังคงเป็น Blooming Bouquet อยู่ดี และยังถูกออกแบบมาให้เหมาะกับสภาพอากาศของเอเชีย ด้วยเนื้อที่ไม่หนักเกินไป มีความสดชื่น หอมกลิ่นดอก Peony กุหลาบ และส้ม มีความฟรุ๊ตตี้ หวานอมเปรี้ยว สดใส ขี้เล่น เฟมินีน หวานกำลังพอเหมาะ พอดี และยังมีความนุ่มนวล ละมุนละไม จาก ไวท์มัสก์ จึงไม่แปลกที่จะกลายเป็นกลิ่นยอดนิยม ยอดฮิต ของแบรนด์ Dior ได้ไม่ยาก
ราคาประมาณ 4,900 บาท (ขนาด 100 ml.)

Chloé Eau De Parfum
Chloé Eau De Parfum หรือ ที่ทุกคนเรียกชื่อเล่นกันอย่างติดปากว่า Chloé รุ่นโบว์ครีม แค่รูปลักษณ์การออกแบบดีไซน์ขวดก็ให้ความรู้สึกหรูหราเหมือนคุณหนูสุด ๆ Chloé Eau De Parfum ถูกผลิตขึ้นในปี 2008 และก็ยังเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดของแบรนด์ Chloé มาจนทุกวันนี้ ด้วยความที่ใช้ง่าย เป็นกลิ่นที่สาว ๆ มีติดตู้ไว้ นึกอะไรไม่ออกแค่หยิบเจ้าโบว์ครีมออกมาฉีดก็พร้อมที่จะออกไปเฉิดฉายแล้ว ชูเด่นนำมาด้วยกลิ่นกุหลาบ หอมหวาน และกลิ่นดอกไม้ฟลอรัล ๆ แทรกด้วยผลไม้หวานอมเปรี้ยวอย่างลิ้นจี่ ให้ความเรียบหรู ดูมีรสนิยม เข้าถึงง่าย และมีความเบา ไม่หนักจนเกินไป
ราคาประมาณ 4,900 บาท (ขนาด 75 ml.)

Jo Malone London
แบรนด์น้ำหอมแห่งเมืองผู้ดีอังกฤษนี้ เปิดตัวในปี 1994 มีกลิ่นให้เลือกค่อนข้างเยอะ และมีความเป็นเอกลักษณ์สูง ด้วยเทคนิค “Fragrance Combining” ที่ผสมผสานโคโลญสองกลิ่นเข้าด้วยกัน ทำให้เกิดการรังสรรค์กลิ่นใหม่ ๆ ออกมาได้อย่างสร้างสรรค์ จะจับคู่ตามที่แบรนด์ไกด์ หรือเลือกสูตรของตัวเอง ให้ออกมาเป็นกลิ่นที่ไม่เหมือนใคร ก็ได้เช่นกัน และมีกลิ่นที่เบา ไม่ฉุนมาก ใช้ง่าย แน่นอนว่ากลิ่นยอดฮิตอันดับ 1 เลย ต้องยกให้ English Pear & Freesia ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสวนผลไม้ในหน้าร้อนที่กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่ใบไม้ร่วง หอมฉ่ำกลิ่นลูกแพร์ ผสมผสานความอ่อนหวานจากดอกฟรีเซียสีขาว และแพทชูลี
ราคาประมาณ 5,200 บาท (ขนาด 100 ml.)

Kenzo Flower by Kenzo
อีกหนึ่ง น้ำหอมผู้หญิง เรียกว่าเป็นน้ำหอมอีกกลิ่น ที่เป็นตำนานสำหรับคนที่ชื่นชอบกลิ่นแป้งเด็กเลยก็ว่าได้ คุ้นชินตากันดีด้วยรูปลักษณ์ขวดทรงสูงใส และประทับลายดอกป๊อปปี้สีแดง เป็นเอกลักษณ์ Kenzo Flower นั้นถูกผลิตขึ้นในปี 2000 เป็นน้ำหอมที่เหมาะกับผู้ที่เริ่มใช้น้ำหอมในครั้งแรก ๆ มีความบางเบา สบาย ไม่ฉุน ใช้ง่ายได้ทุกโอกาส หอมนวลละมุน คล้ายกลิ่นแป้งเด็ก จากวานิลลา และมัสก์ เจือความหอมหวานของกลิ่นดอกไม้ แบบฟลอรัลอ่อน ๆ จากดอกไวโอเล็ต ให้ความรู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวา อย่างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ยากจะหาใครเหมือน เหมาะกับวันสบาย ๆ ทำให้ Kenzo Flower ขึ้นแท่นน้ำหอมกลิ่นยอดฮิตสุดคลาสสิค ที่สาว ๆ ทุกคนมักต้องมี ได้ไม่ยากเลย
ราคาประมาณ 5,100 บาท (ขนาด 100 ml.)
อ่านเรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับราชวงศ์ ทั้งไทย และ ต่างประเทศ เซเลบริตี้ ข่าวสารใหม่ ๆ และ เรื่องราวเกี่ยวกับแฟชั่น สุขภาพ และความงามได้ที่ Hello!