ด้วยความที่ครีมรองพื้นในยุคนี้มีให้เลือกซื้อหลากหลายเฉดสี หลายเนื้อสัมผัส และหลายระดับการปกปิด การเดินเข้าไปซื้อครีมรองพื้นซักขวดนึงจึงไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณสาวๆ เหล่านั้น ยังไม่ประสีประสากับครีมรองพื้นซักเท่าไหร่ Hello! จึงขออาสาบอกเคล็ดลับดีๆ ที่จะช่วยให้ การเลือกซื้อครีมรองพื้น ได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะช่วยให้คุณมีผิวหน้าที่ดูเนียนสวยและเป๊ะปังไปตลอดกาล!
1. เลือกเฉดสีให้แมตช์กับสีผิวจริง
ถึงแม้เหล่าบิวตี้บล็อกเกอร์มากมายมักจะสวอชสีครีมรองพื้นในบริเวณท้องแขนให้เราเห็นกันบ่อยๆ แต่สีผิวของร่างกายในบริเวณนี้มักจะมีสีคล้ำกว่าสีผิวบริเวณใบหน้าเยอะ ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้ลองเทสสีรองพื้น ในบริเวณหน้าอกหรือแนวขากรรไกรจะดีกว่า โดยไม่ต้องพยายามควานหาเฉดสีครีมรองพื้นให้ดูเป็นสีเดียวกับสีผิวเป๊ะๆ เลือกเฉดสีให้ดูมีสีอ่อนกว่านิดถึงก็ได้ เนื่องจากครีมรองพื้นเมื่อทำปฎิกิริยากับอากาศและน้ำมันบนผิวหน้า ก็มักจะมีสีดรอปลงในช่วงระหว่างวันได้ ส่วนถ้าสาวคนไหนมีผิวบริเวณคอที่ดูอ่อนกว่าผิวหน้า ก็ควรเลือกสีครีมรองพื้นให้มีสีอ่อนกว่าผิวหน้าด้วย แล้วใช้บรอนเซอร์ช่วยแต่งเติมไม่ให้ผิวหน้าดูขาวโพลนหรือซีดเซียวจนเกินไป และไม่ว่าคุณจะเทสสีรองพื้นในบริเวณไหน ก็อย่าลืมเทสในบริเวณที่มีแสงสว่างตามธรรมชาติด้วย
2. คำนึงถึงโทนสีใต้ผิวหนังด้วย
แม้เราจะสามารถเลือกโทนสีครีมรองพื้นให้ดูอ่อนหรือสว่างกว่าสีผิวจริงได้เล็กน้อย แต่ไม่ควรเลือกเฉดสีให้ต่างจากโทนสีใต้ผิวหนังเด็ดขาด ซึ่ง ‘โทนสีที่ปรากฎใต้ผิวหนัง’ มักจะแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ นั่นก็คือ ‘โทนอบอุ่น’ ซึ่งมักจะอมเหลือง และ ‘โทนเย็น’ ซึ่งมักจะอมชมพู ฉะนั้นจึงควรเลือกโทนสีครีมรองพื้นให้สอดคล้องกับโทนสีที่ปรากฎใต้ผิวหนังด้วย เพื่อที่ครีมรองพื้นจะได้ไม่ดู ‘หลอกตา’ หรือทำให้ดูเหมือนใส่หน้ากาก ส่วนสาวคนไหนยังไม่รู้ว่าโทนผิวใต้ผิวหนังของตัวเองเป็นสีอะไร ก็ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หรือเลือกโทนสีอบอุ่นหรือเฉดสีกลางๆ ซึ่งจะแมตช์กับโทนสีผิวต่างๆ ได้ง่ายกว่า

3. เลือกระดับการปกปิดที่ต้องการ
ถ้าสาวคนไหนไม่ค่อยชอบแต่งหน้า ก็อาจจะคิดว่าครีมรองพื้นแบบปกปิดมิดชิดนั้น อาจจะทำให้รู้สึกหนักหน้าเกินไปก็ได้ ฉะนั้นการเข้าใจถึงระดับการปกปิดที่เหมาะสม ก็จะช่วยให้เราเลือกครีมรองพื้นที่เหมาะกับความต้องการจริงๆ ได้ โดยถ้าเราเลือกครีมรองพื้นชนิดเบาบางจนถึงปานกลาง ก็จะทำให้เราสามารถมองเห็นผิวจริงๆ ผ่านครีมรองพื้นได้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เลือกครีมรองพื้นชนิดนี้ ถ้าสาวคนนั้นยังไม่แน่ใจว่าตัวเองต้องการระดับการปกปิดขนาดไหน เนื่องจากครีมรองพื้นชนิดนี้สามารถทาทับให้มีระดับการปกปิดที่เพิ่มมากขึ้นได้ ส่วนถ้าใครต้องการครีมรองพื้นแบบติดทนยาวนาน โดยไม่ต้องทัช-อัพในระหว่างวัน หรือมีปัญหาเรื่องสิวหรือสีผิวที่ดูไม่สม่ำเสมอ ก็ควรเลือกครีมรองพื้นแบบปกปิดได้เต็มสตรีมไปเลย!
4. คำนึงถึงสภาพผิวหน้าด้วย
เลือกครีมรองพื้นแบบแมตต์หรือฉ่ำวาวดี? นี่คือคำถามที่ควรถามตัวเองก่อนถึงขั้นตอนการเลือกเฉดสีด้วยซ้ำไป เนื่องจากสภาพผิวของเรานับว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก เราจึงควรใช้สภาพผิวเป็นตัวกำหนดเนื้อสัมผัสของครีมรองพื้น โดยครีมรองพื้นเนื้อฉ่ำวาวมักจะเหมาะกับผิวแห้งหรือผิวปกติมากกว่า แต่การเพิ่มความโกลว์ให้กับสภาพผิวแบบนี้มากเกินไป ก็อาจทำให้ผิวหน้าดูเป็นมันเยิ้ม หรือรู้สึกรบกวนสายตาได้ ฉะนั้นจึงต้องระวังให้ดี ส่วนครีมรองพื้นเนื้อแมตต์ก็มักจะเหมาะกับคนที่มีผิวผสมหรือผิวมันมากกว่า ซึ่งผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เลือกซื้อครีมรองพื้นเนื้อซาติน สำหรับผู้หญิงที่ค่อนข้างมีอายุ เนื่องจากผิวของสาวสูงวัยมักจะดูแมตต์เป็นทุนอยู่แล้ว การเพิ่มความฉ่ำวาวลงไปเล็กน้อยก็จะช่วยให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้

5. ปรับเฉดสีให้เขากับซีซั่น
ผู้เชี่ยวชาญไม่แนะนำให้ใช้ครีมรองพื้นโทนสีที่เทสกับสีผิวจริงแล้วนั้นไปตลอดปีตลอดชาติ เนื่องจากโดยธรรมชาติแล้ว โทนสีผิวของคนเรามักจะเปลี่ยนแปลงไปฤดูกาลเสมอ ซึ่งในหน้าร้อนมักจะมีสีเข้มขึ้น เนื่องจากมักต้องอยู่กลางแจ้งนานๆ ยามไปเที่ยวพักร้อน ถึงแม้จะโปะครีมกันแดดเป็นประจำแล้วก็ตาม ฉะนั้นจึงควรตรวจสอบสีผิวของตัวเองเป็นระยะๆ เพื่อให้แน่ใจว่าครีมรองพื้นมีโทนสีเดียวกับสีผิวจริงๆ หรือถ้าต้องการความอุ่นใจก็ควรลงทุนซื้อครีมรองพื้นที่มีสีเข้มกว่าสีผิวจริงไว้อีกหนึ่งขวด เพื่อใช้ผสมกับครีมรองพื้นสีเดิม ในยามที่ผิวหน้ามีสีเข้มขึ้น