หากคุณประทับใจผมลวนสวยสุดเซ็กซี่ของนางฟ้าแคนดิซ หรือชอบสไตล์ผมบลอนแบบพลิ้วๆเป็นธรรมชาติอย่างผมของ จีจี ฮาดิด และสาวเคนดัล เจนเนอร์ แล้วละก็ ลองทำตามไอเดียใหม่สำหรับการเป็นเจ้าของทรงผมไร้ที่ตินี้ดู เพราะมันจะช่วยสร้างสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะที่แข็งแรงและสวยงามขึ้นกว่าเดิมให้คุณแน่นอน
ปล่อยผมให้แห้งเองตามธรรมชาติ?
วิธีการนี้ดูจะเป็นวิธีที่ช่วยให้เส้นผมไม่ต้องเสี่ยงกับการโดนทำร้ายเพราะถูกทำลายด้วยความร้อนจากอุปกรณ์ต่างๆ แต่ต้องมีเคล็ดลับเพื่อความพลิ้วสวยโดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์ จริงอยู่ที่การปล่อยให้ผมแห้งเองตามธรรมชาติโดยไม่ใช้ความร้อนจะช่วยรักษาสุขภาพเส้นผม และถึงแม้ว่าจะมีผู้หญิงบางคนที่สามารถทำเช่นนั้นโดยที่ผมของเธอยังออกมาสวยสมบูรณ์แบบได้ ซึ่งอาจจะเป็นเพียงตำนานที่เล่าขานต่อกันมา แต่ในชีวิตจริงแล้วผู้หญิงอย่างพวกเราทั้งหลายคงต้องอาศัยตัวช่วยกันอยู่บ้างในการจัดแต่งทรงผมให้ออกมาไร้ที่ติ
กฎข้อแรกที่ควรจำไว้ มันไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยที่จะเช็ดถูผมด้วยผ้าขนหนูเพื่อที่จะดึงเอาความเปียกชื้นออกจากเส้นผม การถูผมแรงๆ อย่างที่เรามักจะเห็นกันเป็นประจำในฉากภาพยนตร์จะทำให้ผมของคุณชี้ฟูเหมือนขนเม่นและทำลายเส้นใยผม สิ่งที่คุณควรทำคือการกดซับอย่างนุ่มนวลมากกว่าหาผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่เหมาะสมสามารถช่วยคุณได้มากอย่างไม่น่าเชื่อ กรณีของผมชี้ฟู แก้ไขได้ด้วยการลูบผมด้วยเซรั่มแอนตี้ฟริซซ์ในขณะที่ผมยังเปียกอยู่อาจจะฟังดูแปลกแต่ก็ได้ผล ถ้าคุณอยากให้ผมเงางามคุณก็ต้องใช้แว็กซ์เฉพาะบริเวณปลายผมเมื่อผมแห้งดีแล้ว ส่วนตัวช่วยที่ดีที่สุดสำหรับการแต่งผมให้เป็นลอนคือเกลือสเปรย์ (Sea Salt Spray) เพื่อช่วยสร้างเท็กซ์เจอร์ให้ผมพองสวยอยู่ทรง
ผมดัดก็แห้งเองได้
สำหรับสาวผมดัดต้องเริ่มจากการเปลี่ยนแชมพูและห้ามหวีผมโดยเด็ดขาด โดยธรรมชาติแล้วผมดัดจะแห้งกว่าผมทั่วไปจึงจำเป็นต้องดูแลรักษากันเป็นพิเศษตัวช่วยที่สำคัญคือแชมพูที่ปราศจากซัลเฟตและครีมนวดผมที่มีมาตั้งแต่ยุค 60 อย่าง Crème aux Fleurs ของ Leonor Greyl ที่ปัจจุบันรู้จักกันในนาม co-wash ผลิตภัณฑ์บำรุงผมอย่าง Be Curly ของ Aveda หรือ Cleansing Conditioner ของ Matrix Biolage ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับผมดัด เพราะนอกจากจะทำความสะอาดแล้วยังช่วยบำรุงเส้นผมให้นุ่มสลวยอีกด้วย อีกคำแนะนำสำหรับการดูแลผมดัดคือ ลืมหวีไปได้เลย คุณจะหวีผมได้เฉพาะเวลาที่ใช้ครีมบำรุงผมเท่านั้น แค่นี้ก็ผมของคุณก็พร้อมสวยแล้ว จากนั้นถ้าคุณต้องการให้ผมไม่ชี้ฟู คุณอาจจะใช้นิ้วสางผมได้แต่ต้องทำด้วยความนุ่มนวล
มาส์กผมก่อนสระ
ผู้หญิงหลายคนไม่นิยมมาส์กผมเพราะรู้สึกว่าทำให้ผมเหนอะหนะ นั่นทำให้คุณพลาดของดีไปอย่างน่าเสียดายมาก การใช้มาส์กให้ได้ผลดีเลิศและทำให้ผมเบาสบาย โดยชโลมมาส์กเฉพาะช่วงกลางเส้นผมจนถึงปลายผม ทิ้งไว้ 10 – 15 นาทีจึงสระผมตามปกติ
สระผมทุกวันจะดีไหม
ถ้าคุณอยากจะทำแบบนั้นก็ทำได้ หากคุณมีสภาพเส้นผมมันก็สามารถสระผมได้ทุกวันโดยไม่มีข้อกังขาซึ่งจะช่วยหลีกเลี่ยงอาการอักเสบที่หนังศีรษะที่เกิดจากการสะสมความมัน ลดปัญหาการเกิดรังแค ชโลมแชมพูลงเฉพาะบริเวณโคนผมแล้วใช้ฟองที่เหลือติดมือในการทำความสะอาดส่วนที่เหลือจนถึงปลายผมเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
ใช้ความร้อนในระดับที่พอดี
ความร้อนจากไดร์เป่าผม เครื่องหนีบผมหรือแกนม้วนผมคือหนึ่งในตัวการสำคัญที่ทำร้ายเส้นผมของคุณได้มากที่สุด แล้วจะหลีกเลี่ยงได้อย่างไร?
เก็บความร้อนเอาไว้ใช้ในตอนสุดท้ายของการจัดแต่งทรงคุณควรเริ่มจากการเป่าผมด้วยลมอุ่นๆ จนกระทั่งถึงตอนจัดทรงถึงค่อยใช้ไอร้อนหรือเครื่องหนีบผม อย่าคิดว่าความร้อนจะยิ่งทำให้ทรงผมของคุณดูดี มันขึ้นอยู่กับสภาพเส้นผมของแต่ละบุคคล การใช้ความร้อนในระดับที่พอดี สามารถให้ผลลัพธ์่เป็นที่น่าพอใจได้เหมือนกันถ้าคุณจะรีดปอยผมที่ยังไม่เข้าทรงซ้ำอีกครั้ง ควรจะรอให้ผมปอยนั้นคลายความร้อนลงซะก่อน และอย่าลืมใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยป้องกันความร้อนทุกครั้ง
คอนดิชันเนอร์
เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง แต่ต้องใช้เพียงเล็กน้อยเป็นขั้นตอนที่ไม่ควรข้ามไปโดยเด็ดขาด ถ้าจะให้ดีควรใช้บริเวณปลายผมเท่านั้น คุณยังสามารถใช้คอนดิชันเนอร์ได้แม้ว่าจะไม่ได้ใช้แชมพูสระผม (อย่างเช่นเวลาที่ไปฟิตเนส) โดยใช้ในปริมาณเพียงเล็กน้อยชโลมเฉพาะที่ปลายผมแล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด
……………………………………………………..
PHOTOS: GETTY IMAGES