การเลือก ‘น้ำหอม’ ต้องใช้ความพิถีพิถันอย่างมาก เพราะเมื่อฉีดลงบนผิวแต่ละคนก็ให้กลิ่นออกมาแตกต่างกัน นอกจากนี้น้ำหอมยังช่วยบ่งบอกตัวตนของแต่ละคนได้อย่างดีอีกด้วย วันนี้ HELLO! เลยขอพาสาวๆ ไปเปิดกรุน้ำหอมของ Gucci ที่มั่นใจเลยว่าขนมาให้เลือกกันแบบจัดเต็ม ครบทุกสไตล์ เลือกใช้ได้ทุกโอกาส ตอบโจทย์ผู้หญิงทุกแนวแน่นอน
Gucci Guilty Pour Femme

เริ่มกันที่กลิ่นแรก ‘Gucci Guilty Pour Femme’ เรียกได้ว่าเป็นกลิ่นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ก็ว่าได้ กลิ่นแรกอันสดชื่นมาจาก ส้มแมนโดรา ตามมาด้วยความอ่อนหวานของมวลดอกไม้นานาพรรณ ไม่ว่าจะเป็นดอกไลแลค ดอกกุหลาบ และดอกไวโอเล็ต ปิดท้ายด้วยความอบอุ่นปนเซ็กซี่ของกลิ่นอำพันและพิมเสน นอกจากนี้ยังปรับรูปลักษณ์ใหม่ด้วยขวดสีทองเปล่งประกาย ตัดกับน้ำหอมสีกุหลาบด้านในอย่างลงตัว
Gucci Bloom Eau de Parfum

น้ำหอมกลิ่นแรกของตระกูล Bloom ที่พัฒนาขึ้นโดย อเลสซานโดร มิเคเล ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของ Gucci ซึ่งคอลเลกชั่นนี้ก็กลายเป็นน้ำหอมในดวงใจของสาวๆ หลายคน ด้วยกลิ่นสดชื่นอ่อนหวานสไตล์ Floral ผสมผสานความเย้ายวนของดอกซ่อนกลิ่น ความสดชื่นของดอกมะลิตูม และความหอมเอกลักษณ์ของดอกเล็บมือนาง ซึ่งไม่เคยมีใครนำมาทำเป็นน้ำหอมมาก่อน เพียงแค่ฉีดไม่กี่ครั้งก็ทำให้รู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในทุ่งดอกไม้เลยทีเดียว
Gucci Mémoire d’une Odeur

ต่อกันด้วย น้ำหอมยูนิเซ็กส์ กลิ่นแรกของแบรนด์ ‘Gucci Mémoire d’une Odeur’ หอมละมุนด้วยกลิ่นของคาโมมายล์ ซ้อนด้วยกลิ่นเอกสิทธิ์เฉพาะ Gucci อย่างดอกเข็มสีแดง ตบท้ายด้วยกลิ่นของไม้ซีดาร์วูด น้ำผึ้ง และวนิลา ทำลายข้อจำกัดของคำว่าเพศ ให้ความหอมจำกัดความใหม่ไม่เหมือนใคร บรรจุมาในขวดน้ำหอมสไตล์วินเทจแบบยุค 90s พร้อมกล่องที่ได้รับแรงบันดาลใจจากทะเลดวงดาวตอนกลางคืน
Gucci A Winter Melody

อีกหนึ่งน้ำหอมกลิ่นแรกในไลน์ Haute Perfumery ของแบรนด์ กับกลิ่น ‘A Winter Melody’ ในคอลเลกชั่น The Alchemist’s Garden ที่ได้รับการรังสรรค์ขึ้นจากกลิ่นต้นสนไซเปรส ตัวแทนของฤดูหนาว ผสานกับกลิ่นเย็นสดชื่นของมะกรูด เจือจางลงด้วยความโรแมนติกจากกลิ่นของดอกกุหลาบ นอกจากกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ขวดน้ำหอมยังสวยงามวิจิตรไม่แพ้กัน เริ่มจากการเคลือบสีงาช้างบนขวดแก้ว ให้รูปลักษณ์คล้ายกระเบื้องพอร์ซเลน
Gucci Hortus Sanitatis Eau de Parfum

ส่งท้ายกันด้วย ‘Hortus Sanitatis’ กลิ่นใหม่จากไลน์ Haute Perfumery ที่ผสานความหรูหราและทันสมัยไว้ด้วยกันอย่างลงตัว จากชื่อน้ำหอมภาษาละตินแปลได้ว่า “The Garden of Health” นำเสนอความล้ำลึกอันหรูหราด้วยกลิ่นของต้นปาปิรุสและซีดาร์วูด เจือด้วยกลิ่นควันและอำพัน ก่อนตบท้ายด้วยความสดชื่นของขิง
Courtesy of Gucci