Home > Beauty & Health > Beauty > Skin > ‘คิมแทรี’ ทำยังไงให้ยังหน้าเด็กเหมือนอายุ 18 ในวันที่ก้าวสู่วัย 31 ปี?

ใครที่เป็นคอซีรีส์เกาหลีต้องไม่พลาดที่จะได้ชม Twenty Five, Twenty One ซีรีส์โรแมนติกคอเมดี้ชวนอบอุ่นหัวใจที่กำลังมาแรงสุดๆ บน Netflix ขณะนี้ โดยซีรีส์ได้เล่าเรื่องราวช่วงเวลาปัจจุบันในยุคโควิด-19 ของ นาฮีโด อดีตนักกีฬาฟันดาบสาวที่กลายมาเป็นคุณแม่ลูกหนึ่ง สลับกับช่วงเวลาวัยรุ่นในยุควิกฤตเศรษฐกิจ IMF ของตัวเธอเอง และคนที่มารับบทนำในครั้งนี้ไม่ใช่ใครอื่นไกลแต่เป็น ‘คิมแทรี’ นักแสดงสาวมากฝีมือที่การันตีด้วยผลงานคุณภาพคับจอทุกเรื่อง

'คิมแทรี'
คิมแทรีกับบท นาฮีโด ในซีรีส์ Twenty Five, Twenty One

สำหรับตัวละคร นาฮีโด ต้องบอกว่าเป็นบทที่คิมแทรีเล่นออกมาได้อย่างมีเสน่ห์และเปล่งประกายมัดใจคนดูไว้อยู่หมัดจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงสุดสมจริงในทุกอารมณ์ ทั้งสุข เศร้า สมหวัง เสียใจ ไปจนถึงรูปลักษณ์ภายนอกที่ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็เชื่อได้อย่างสนิทใจว่าเธอยังเป็นเด็กสาววัยมัธยมปลายเต็มตัว วันนี้เราเลยจะขอพาแฟนๆ ที่ตกหลุมรักนาฮีโดมาสืบเบื้องหลังกันเสียหน่อย ว่าคิมแทรีทำอย่างไรถึงมีใบหน้าสวยใสอ่อนเยาว์ราวกับอายุ 18 ปี แม้วันนี้เธอจะก้าวเข้าสู่เลข 31 แล้วก็ตาม

'คิมแทรี'
นาฮีโด ในซีรีส์ Twenty Five, Twenty One

Less is More น้อยแต่มาก

ถึงแม้ว่านักแสดงสาววัย 31 ปีจะเป็นชาวเกาหลีใต้เต็มตัว แต่เธอไม่ได้มีสกินแคร์รูทีน 10 สเต็ปอย่างที่ใครหลายคนนิยมกัน ในทางตรงกันข้ามคิมแทรีให้สัมภาษณ์กับสื่อ Her World Singapore ว่าเธอดูแลผิวแบบเบสิกและน้อยขั้นตอนที่สุด โดยเธอให้ความใส่ใจกับขั้นตอนการทำความสะอาดเครื่องสำอางมากที่สุด

'คิมแทรี'

การล้างหน้าคือขั้นตอนสำคัญ

หลังจากที่ใช้ผลิตภัณฑ์เมกอัพรีมูฟเวอร์และโฟมล้างหน้าเรียบร้อยแล้ว เธอจะไม่ลืมใช้ “โทนเนอร์หยดบนสำลี” เช็ดอย่างเบามือทั่วใบหน้าและลำคอเป็นอันดับแรกก่อนการบำรุงผิวเสมอ ทั้งนี้ก็เพื่อปรับสภาพผิวให้สมดุลพร้อมรับสกินแคร์ในขั้นถัดไป และยังเป็นการทำให้แน่ใจอีกด้วยว่าไม่มีสิ่งสกปรกตกค้างอยู่บนผิว

'คิมแทรี'

3 Step Skincare Routine ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน

เมื่อจบขั้นตอนการทำความสะอาดและเตรียมผิวแล้ว คิมแทรีเลือกใช้ เอสเซนส์ บำรุงผิวหน้าแทนเซรั่ม เนื่องจากมีความอ่อนโยนและเน้นให้ความชุ่มชื้นมากกว่า เสร็จเรียบร้อยแล้วจึงลง มอยส์เจอร์ไรเซอร์ เป็นสเต็ปสุดท้าย และถ้าหากเป็นช่วงเวลากลางวันเธอเน้นย้ำว่าต้องไม่ลืมทา ครีมกันแดด ทุกครั้งไม่ว่าจะออกจากบ้านหรือไม่ก็ตามอีกด้วย

'คิมแทรี'
คิมแทรี นั่งแท่นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Prada

ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ

อีกหนึ่งเคล็ดลับก็คือในช่วงการถ่ายทำที่เธอต้องออกกองตั้งแต่เช้าจนดึก เธอจะใช้ มาสก์ใต้ตา (Eye Mask) เพื่อบำรุงเฉพาะจุดอย่างล้ำลึก เติมความชุ่มชื้นให้ผิวบริเวณรอบดวงตา นอกจากการใช้มาสก์ใต้ตาจะช่วยฟื้นบำรุงความหมองคล้ำแล้วยังช่วยป้องกันริ้วรอยและสัญญาณแห่งวัยทั้งหลายได้ดีอีกด้วย

'คิมแทรี'
นาฮีโด ในซีรีส์ Twenty Five, Twenty One

แต่งหน้าเผยผิวลดอายุ

เคล็ดลับสุดท้ายของการแต่งหน้าให้ดูเหมือนเด็กสาวมัธยมปลายวัย 18 ปีก็คือ คิมแทรี แทบจะไม่แต่งหน้าเลยก็ว่าได้ โดยเธอเน้นดูแลผิวให้สวยเปล่งปลั่งเพื่อที่จะได้ไม่ต้องใช้รองพื้นหรือคุชชั่นเยอะเกินไปจนดูไม่เป็นธรรมชาติ ปัดแก้มแค่ให้มีสีระเรื่อ และเติมสีคิ้วตามทรงเดิมด้วยฝุ่นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยเธอให้สัมภาษณ์ว่าไอเท็มที่ต้องมีติดตัวทุกวันคือ ลิปบาล์มมีสี (Tinted Lip Balm) นั่นก็เพราะสีปากธรรมชาติของเธอค่อนข้างซีด การใช้ลิปบาล์มแบบมีสีอ่อนๆ จะช่วยทำให้ดูสดใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาตินั่นเอง

'คิมแทรี'
คิมแทรีจากซีรีส์ Mr. Sunshine

สำหรับใครที่ชื่นชอบฝีมือการแสดงอันแสนมีเสน่ห์ของนักแสดงสาวคนนี้ สามารถไปย้อนชมผลงานเก่าๆ ของเธอกันได้ ไม่ว่าจะเป็น ซีรีส์พีเรียดแนวดราม่าเข้มข้นอย่าง Mr. Sunshine ที่เธอได้ประกบคู่นักแสดงรุ่นใหญ่มากมาย อาทิ อีบยองฮอน และ ยูยอนซอก หรือจะเป็นภาพยนตร์ไซไฟผจญภัยอย่าง Space Sweepers ที่ได้พระเอกหนุ่มหน้าหยกขวัญใจสาวๆ ทั่วโลกอย่าง ซงจุงกิ มาร่วมรับบทนำด้วยกัน

คิมแทรีในภาพยนตร์ Space Sweepers

ซีรีส์เรื่อง Twenty Five, Twenty One นี้ เล่าเรื่องราวถึงความรัก ความฝัน และการเติบโตของเหล่าแก๊งเพื่อนในยุค 90 ซึ่งล้วนได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ IMF ปี 1998 ในมิติที่แตกต่างกัน และต้องสูญเสียความฝันให้กับวิกฤตแห่งยุคสมัย โดย คิมแทรี รับบทเป็น นาฮีโด นักกีฬาฟันดาบหญิงที่มีความมุ่งมั่นและความทะเยอทะยาน

นัมจูฮยอก รับบทเป็น แพคอีจิน ลูกชายคนโตของครอบครัวที่แสนวุ่นวาย และได้กลายมาเป็นนักข่าวท่ามกลางช่วงเวลาที่ยากลำบากของครอบครัว, คิมจียอน (โบนา) รับบทเป็น โกยูริม นักกีฬาฟันดาบคู่แข่งของนาฮีโด, ชเวฮยอนอุค รับบทเป็น มุนจีอุง หนุ่มป๊อปน่ารักคนดังแห่งปี 1998 และ อีจูมยอง รับบทเป็น จีซึงวาน นักเรียนหัวรั้นที่เรียนเก่งเป็นอันดับหนึ่งของโรงเรียน

และด้วยประโยคเด็ดตอนเปิดเรื่องว่า “ยุคสมัยได้พรากความฝันของเราไป” ทำให้เราเชื่อว่าซีรีส์ครบรสเรื่องนี้จะถูกใจทั้งเด็กๆ ที่ต้องใช้ชีวิตวัยรุ่นในยุคโควิด-19 ไปจนถึงผู้ใหญ่อีกหลายคนที่ถ้าได้รับชมแล้วคงจะหวนนึกไปถึงช่วงเวลาที่ต้องตั้งตัวท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจโลกอย่างแน่นอน สามารถติดตามชมได้ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ บนแพล็ตฟอร์ม Netflix

ข้อมูล : Courtesy of KDramaStars and Metro.Style / รูปภาพ : Courtesy of Celebrity’s Instagram and tvN

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.