ในบทความนี้เราจะมาไขข้อข้องใจของสาว ๆ ชาว HELLO! กันว่า กัวซา ที่เราได้ยินชื่อ และ เห็นคนอื่นใช้อยู่บ่อย ๆ นี่คืออะไร ใช้แล้วหน้ายกกระชับได้จริงไหม แล้วมีข้อควรรู้อะไรบ้าง ?
กัวซา อันที่จริงแล้ว เป็นวิธีบำบัดรักษาโรค ตามแพทย์แผนจีน โดยแพทย์จะใช้อุปกรณ์ที่มีลักษณะ มน โค้ง เรียบลื่น และ ไม่มีขอบรอยต่อ อาทิ หยก หิน และ เซรามิกต่าง ๆ ขูด กด และ รีดไปตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทางแพทย์แผนจีนเชื่อว่า การทำขูดรีดไปตามร่างกายเช่นนี้ เป็นเหมือนการ detox สารพิษ ออกจากร่างกาย ผ่านทางผิวหนัง และ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของ น้ำเหลือง และ โลหิต ได้ ทำให้ร่างกายมีออกซิเจนเข้าไปหล่อเลี้ยงเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ แพทย์แผนจีนยังเชื่อว่า การกดรีดไปยังส่วนที่ร่างกายมีอาการผิดปกติ จะปรากฎจุดแดง หรือ รอยแดงขึ้น ซึ่งเฉดสี สามารถบ่งบอก ความรุนแรง ของความเจ็บป่วยได้ ถ้าร่างกายเราสุขภาพดี ไม่มีปัญหา ไม่ว่าจะทำกี่ครั้งผิวก็จะยังเนียนสวยเป็นปกติดังเดิม

แล้ว กัวซา ช่วยอะไรเกี่ยวกับผิวหน้าได้บ้าง
อย่างที่เล่าให้ฟังไปแล้วว่า วิธีนี้เป็นการช่วย detox สารพิษในร่างกายได้ การกวาดถูบริเวณใบหน้า อย่างสม่ำเสมอ และ ถูกวิธี จึงมีส่วนช่วยในการไหลเวียนเลือด และ ไล่น้ำเหลืองบริเวณใบหน้า เมื่อระบบภายในของเราดี ใบหน้าของเราก็จะตึงกระชับ กระจ่างใส ลดอาการบวม เพิ่มความยืดหยุ่น แถมยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน บนใบหน้า ได้นั่นเอง แต่เราต้องทำอย่างสม่ำเสมอนะ ทำทุกคืน ประมาณ 10-15 นาที และ ควรใช้กับ ออยล์บำรุงผิว เพื่อให้การกวาด นวด กดบางจุดเป็นไปอย่างราบรื่นไม่ติดขัด
สำหรับคนที่มีปัญหาสิว หรือ ผิวหน้าไม่เรียบเนียน แนะนำให้พักการดูแลผิวหน้าด้วยวิธีนี้ไปก่อน เพราะอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองเพิ่มขึ้นได้ หากปัญหาผิวหน้าเหล่านั้นลดลงแล้วก็สามารถใช้วิธีบำบัดหน้าแบบนี้เพื่อดูแลรักษาผิวหน้าต่อไปได้

ข้อควรรู้ก่อนลงมือปฏิบัติ
การนวด รีด และ ขูดผิวแบบนี้ เราสามารถทำได้ด้วยตัวเอง รวมไปถึงใช้บริการตามสถานเสริมความงามต่าง ๆ แต่ก่อนเราจะลองคอร์ส หรือ เลือกซื้อหินต้องใจมาใช้สักชิ้น มีข้อควรรู้ที่ไม่ควรมองข้ามดังต่อไปนี้
1. หินที่ใช้ควรทำความสะอาด และ ฆ่าเชื้อก่อนทุกครั้ง หากไปตามสถานเสริมความงามต่าง ๆ ควรสอบถาม และ ตรวจสอบให้มั่นใจว่าหินที่จะใช้นวดหน้าสะอาดดีแล้ว หากหินไม่ได้รับการดูแลอย่างดี อาจทำให้เราติดเชื้อโรคต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกายเราทางผิวหนังระหว่างนวดได้นั่นเอง
2. หลังจากใช้งานแล้ว หากรู้สึกเจ็บ หรือ มีรอยแดงเป็นจ้ำบนใบหน้า ให้พักการทำไปก่อนประมาณ 2-3 วันจนกว่าจะหายเจ็บแล้วจึงกลับมานวดต่อ สิ่งเหล่านี้เกิดจากการปรับตัวของร่างกาย แต่หากยังรู้สึกเจ็บเรื้อรัง ไม่หายสักที หรือ เริ่มเจ็บมากขึ้น แนะนำให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน
3. หลังจากนวดกระตุ้นเลือดลมแล้ว อย่าเพิ่งไปอาบน้ำล้างตัวทันที ให้เว้นระยะไว้สัก 30 นาที เพื่อให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะในระหว่างการนวด เลือดลมได้รับการกระตุ้นให้ไหลเวียนดีขึ้น และ รวดเร็วขึ้น หากเราอาบน้ำเลยอาจไปขัดการทำงานของการไหลเวียนเหล่านั้นได้นั่นเอง แนะนำให้นวดก่อนนอนจะดีที่สุด เพราะร่างกายจะได้พักผ่อน ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนสะดวกขึ้น

4.การถูหิน แนะนำให้ถูไปในทิศทางเดียวกัน เช่น ถ้าถูบริเวณกราม ควรถูขึ้นเพื่อให้ใบหน้าตึงกระชับ ให้เลือดไหลเวียนขึ้นสู่ด้านบน ไม่กองอยู่บริเวณลำคอ ไม่ควรถูขึ้น ๆ ลง ๆ เพราะอาจทำให้ใบหน้าระคายเคืองโดยใช่เหตุ
5. การเลือกอุปกรณ์สำหรับนวดหน้า ถ้าเป็นหินชิ้น ๆ ทรงพระจันทร์เสี้ยว แนะนำให้เลือกหินที่มีขนาดพอดีมือ จับถนัดไม่ลื่น ไม่ล้นมือ และ ควรเลือกหินที่มีความเรียบลื่นเสมอกันทั้งชิ้น ไม่มีรอย และ ไม่บิ่น เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นขณะใช้งาน
อ่านเรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับราชวงศ์ ทั้งไทย และ ต่างประเทศ เซเลบริตี้ ข่าวสารใหม่ ๆ และ เรื่องราวเกี่ยวกับแฟชั่น สุขภาพ และความงามได้ที่ HELLO!
Feature Image by @senivpetro/freepik