ไขเคล็ดลับความอ่อนเยาว์ กับ ‘พญ.รสิตา – พญ.ศุภวงษ์ อัศดามงคล’ แห่งศูนย์ศัลยกรรมความงาม โรงพยาบาลบางมด
เพราะความสวยรอไม่ได้ ยิ่งเทคโนโลยีในปัจจุบันพัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้นวัตกรรมความงามพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนต้องยอมรับว่า ‘ความอ่อนเยาว์’ เป็นสิ่งที่หลายๆคนตามหา และภายใต้ประสบการณ์อันยาวนานกว่า 40 ปี ของศูนย์ศัลยกรรมความงาม โรงพยาบาลบางมด (Bangmod Aesthetic Center) ที่พร้อมด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย ผสานกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่ร่วมกันพัฒนาเทคนิคการรักษา นำมาซึ่ง ‘เทคนิคบางมด’ ซึ่งถือเป็นเทคนิคเฉพาะทาง ที่มีให้บริการแค่ที่นี่แห่งเดียวเท่านั้น ถือเป็นเครื่องการันตีในความเป็นเบอร์หนึ่งในฐานะศูนย์ศัลยกรรมความงามแบบครบวงจรของประเทศไทย ที่มีชื่อเสียงได้รับการยอมรับในระดับสากล
วันนี้ HELLO! ได้มีโอกาสพูดคุยถึง ‘เคล็ดลับความอ่อนเยาว์’ กับสองแพทย์หญิง ผู้สืบสานนิยามความงามอันอ่อนเยาว์ เป็นธรรมชาติของศูนย์ศัลยกรรมความงาม โรงพยาบาลบางมด ‘แพทย์หญิงรสิตา – แพทย์หญิงศุภวงษ์ อัศดามงคล’ ถึงนวัตกรรมคืนความอ่อนเยาว์ แบบไม่ต้องเจ็บตัว

“แนวคิดหลักที่เรายึดถือมาโดยตลอด ก็คือความงามอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ โดยผ่านกระบวนการวิเคราะห์คนไข้ในแต่ละคนเพื่อช่วยแก้ปัญหาให้ตรงจุด และเน้นการทำแค่พอดี แต่ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนาน” พญ.รสิตา อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านอายุรศาสตร์ และตจวิทยา รองผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงาม โรงพยาบาลบางมด ขยายความถึงนิยามความงามตามแบบฉบับของที่แห่งนี้
พญ.รสิตา ยังเล่าว่าปัจจุบันเทรนด์ความงามนั้นเน้นไปที่การดูแลแบบองค์รวม (Holistic) โดยผสมผสานศาสตร์การดูแลทั้งภายนอกและภายในที่ลึกลงไปถึงระดับโครงสร้างและเซลล์ เพื่อผลลัพธ์แห่งความงามที่เปล่งประกายความสดใสจากภายในสู่ภายนอก โดยนวัตกรรมดูแลความงามภายนอกที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันคือ ‘Facial Contouring’ เป็นเคล็ดลับความอ่อนเยาว์ ด้วยการดูแลรูปหน้าที่เกิดริ้วรอย และความหย่อนคล้อยตามวัย ให้กลับมามีความอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องใช้การผ่าตัด

“ริ้วรอยและความหย่อนคล้อยเกิดได้จากหลายปัจจัย รวมถึงโครงสร้างของชั้นผิวที่แตกต่างกันไปในแต่ละคนด้วย เช่น ถ้ามีปัญหาจากบริเวณผิวหนังชั้นบน หรือคอลลาเจนที่เสื่อมสภาพไป การใช้โบท็อกซ์ (Botulinum Toxin Lifting) ก็จะช่วยยกกระชับ ทำให้โครงหน้าชัดเจนมากขึ้น ถ้าในกรณีที่ผิวหน้าเริ่มหย่อนคล้อยจากโครงสร้างที่ค่อนข้างลึก อย่างเช่น กระดูกเริ่มเสื่อมสภาพ เอ็นเริ่มหย่อน หรือไขมันคล้อยตัว การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับ (Filler Lifting) จะช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดจากโครงสร้างด้านลึกเหล่านี้ เพราะนอกจากจะช่วยเติมเต็มแล้ว ฟิลเลอร์ยังช่วยพยุงผิวหน้าให้ยกกระชับขึ้น ซึ่งทั้งสองวิธีเราสามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับความต้องการ และโครงสร้างพื้นฐานใบหน้าของคนไข้ได้ รวมถึงสามารถใช้ผสมผสานกันก็ได้ เพื่อช่วยให้ผลลัพธ์ออกมามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เหตุผลที่นวัตกรรมทั้งสองประเภทได้รับความนิยมมาก ก็เพราะว่าเป็นหัตถการที่เจ็บน้อย พักฟื้นสั้น เห็นผลทันทีหลังทำ ตอบโจทย์คนยุคนี้ที่ต้องการผลลัพธ์รวดเร็ว”

ในส่วนการดูแลลึกลงไปถึงระดับเซลล์ภายในร่างกาย ซึ่งจะมีบทบาทช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในศาสตร์ของการดูแลความงามด้านแอนไท-เอจจิ้ง (Anti-Aging) พญ.ศุภวงษ์ อัศดามงคล แพทย์ประจำศูนย์ศัลยกรรมความงาม โรงพยาบาลบางมด ด้านเวชศาสตรป้องกัน และฟื้นฟูสุขภาพ ได้แนะนำให้รู้จักกับ ‘NAD+’ (Nicotinamide Adenine Dinucleotide) นวัตกรรมสารอาหาร วิตามินคุณภาพสูง ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในสหรัฐอเมริกา จากงานวิจัยของ Dr.David Sinclaire, Harvard University ที่ขนานนามว่า ‘NAD+ is the fountain of youth’
“NAD+ เป็นอนุพันธ์ย่อยลงมาของวิตามินบี 3 และเป็นสารประกอบธรรมชาติที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดอายุขัยของเซลล์ในร่างกาย โดยมีอยู่ในร่างกายตั้งแต่แรกเกิด แต่เมื่ออายุเข้าวัย 40 มันจะลดลงไปเหลือแค่ประมาณครึ่งเดียว เราก็ต้องเติมเต็มทดแทนโดยการฉีดผ่านทางหลอดเลือดดำ เหมือนเป็นอาหารให้กับเซลล์ มีประสิทธิภาพช่วยบูสต์พละกำลังที่จะไปฟื้นฟูและพัฒนาให้เซลล์ในร่างกายมีคุณภาพมากขึ้น ซึ่งก็จะส่งผลต่อร่างกายแบบองค์รวม นั่นคือสุขภาพแข็งแรงขึ้น ผิวพรรณก็สดใสเปล่งปลั่ง ยืดหยุ่น และอ่อนเยาว์ขึ้น ซึ่ง NAD จะเอาเข้าร่างกายด้วยการ Drip สัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง ครั้งละ 2 – 3 ชม. จะรู้สึกเห็นผล 1 – 2 เดือน ขึ้นกับสภาพของคนไข้แต่ละคน”

อีกทั้ง ยังมีนวัตกรรมการตรวจสุขภาพองค์รวมจากเส้นผมจากประเทศเยอรมนี โดยวิธีการรักษาสะดวกง่ายดาย เพียงแค่ใช้เส้นผมของคนไข้ไม่กี่เส้น นำมาตรวจฟังก์ชั่นของเซลล์ แล้วส่งไปประมวลผลผ่านเครื่องรับสัญญาณออนไลน์ที่เยอรมนีภายในระยะเวลาประมาณ 30 นาที เทคโนโลยีนี้จะช่วยหาค่าวิตามิน เกลือแร่ ไขมัน กรดอะมิโน และสารอาหารต่างๆ ในร่างกาย เพื่อวัดระดับความต้องการของเซลล์ว่าจำเป็นต้องเสริมสารอาหารประเภทใดบ้าง
“เทคโนโลยีนี้มีข้อดีสำหรับคนไข้ที่กลัวเข็ม ไม่อยากเจาะเลือด ถือว่าเป็นการสกรีนนิ่งในระดับภาพรวม และใช้เวลารวดเร็วกว่า ที่สำคัญคือเหมาะกับทุกคน เพราะมันคือตัวช่วยเสริมให้ประสิทธิภาพการทำงานของร่างกายดีขึ้น ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการจะบูสต์ตัวเองตอนไหน ยิ่งบูสต์เร็ว เรายิ่งมีต้นทุนที่สูงกว่า”
ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรม ‘Facial Contouring’ หรือ ‘NAD+’ รวมไปถึงเทคนิคศัลยกรรมตกแต่ง แพทย์หญิงทั้งสองแนะนำว่าต้องดูแลให้สอดประสานไปด้วยกันแบบครบวงจร “ปัจจุบันผู้คนหันมาดูแลตัวเองตั้งแต่ภายในไปจนถึงภายนอก การดูแลจากภายในจะช่วยให้ผิวพรรณอ่อนเยาว์ขึ้น รวมไปถึงชะลอการเสื่อมสภาพของผิวหนังให้ช้าลง เมื่อดูแลจากภายในแล้วหากมีปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยหรือริ้วรอย เราก็สามารถแก้ไขได้โดยการวิเคราะห์อย่างละเอียด และเลือกเทคนิคเฉพาะที่เหมาะสมสำหรับปัญหาของแต่ละบุคคล นอกจากนั้น เนื่องจาก รพ.บางมด มีแพทย์เฉพาะทางครบวงจร เราสามารถผสมผสานเทคนิคในการรักษาได้หลากหลายเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดอีกด้วย” พญ.รสิตา กล่าวปิดท้าย
ปรึกษาปัญหาศัลยกรรม หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ โทร. 0–2867–0606 ต่อ 1200, 08–4456–7777, 06–3770–0968, 06–2257–5499 หรือ www.facebook.com/Bangmodaestheticcenter / LINE ID: @bangmod, Instagram: bangmodaesthetic