คุยกับ ‘ดร.มาร์โค เลนส์’ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Zelens จากความหลงใหลในพฤกษศาสตร์และวิทยาศาสตร์

การใช้สกินแคร์บำรุงผิวไม่ใช่แค่เรื่องผู้หญิงอีกต่อไป และหนุ่มสาวสายบิวตี้เองก็ไม่ได้เชื่อแค่คำโฆษณาผิวเผินอีกแล้ว ในทางตรงกันข้ามหลายคนหันมาศึกษาสกินแคร์ลึกไปจนถึงส่วนผสมและเทคโนโลยีเพื่อเข้าใจอย่างแท้จริงว่าผลิตภัณฑ์แต่ละตัวจะก่อให้เกิดผลอะไรกับผิวหน้าบ้าง HELLO! จึงไม่พลาดพาแบรนด์ความงามสัญชาติอังกฤษ Zelens พร้อมผู้ก่อตั้ง ‘Dr.Marko Lens’ (ดร.มาร์โค เลนส์) มาให้ทุกคนได้รู้จักกันมากขึ้น

ดร.มาร์โค เลนส์ ศัลยแพทย์ความงามและผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งผิวหนังและชะลอวัย เรียนจบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พร้อมต่อปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ตัดสินใจก่อตั้งแบรนด์ Zelens ขึ้นในปี 2000 โดยคุณหมอเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการศึกษาค้นคว้าและคิดค้นสูตรทั้งหมดขึ้นมา

จุดเด่นของแบรนด์คือผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นล้วนผ่านการวิจัยและทดลองมาอย่างยาวนานเพื่อให้มั่นใจว่าส่วนผสมทุกตัวที่อัดแน่นอยู่ในขวดจะทำงานเสริมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงที่สุด ทำให้แม้จะมีสกินแคร์ออกมาไม่มาก แต่ทุกตัวล้วนการันตีได้ถึงผลลัพธ์ที่เป็นเลิศ ตรงกับความตั้งใจของคุณหมอเองที่ไม่ได้แค่ต้องการให้สกินแคร์ได้ผลดี แต่ต้องดีที่สุดเท่านั้น

จุดเริ่มต้นในการหันมาเปิดแบรนด์สกินแคร์

“ผมหลงใหลในพฤกษศาสตร์ตั้งแต่เด็กๆ เพราะได้เห็นคุณย่ามักนำน้ำมันมะกอกและพืชอื่นๆ มาบำรุงผิว” ดร.มาร์โค เลนส์ เล่าถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้เขาสนใจเรื่องวิทยาศาสตร์ในธรรมชาติ ก่อนจะเล่าต่อไปอีกว่าในช่วงที่เรียนปริญญาเอกอยู่ที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด สาขามะเร็งผิวหนัง คุณหมอได้ศึกษาเกี่ยวกับสารต้านอนุมูลอิสระอย่างลึกซึ้ง จนเกิดความตั้งใจที่จะสร้างแบรนด์สกินแคร์และคิดค้นสูตรต่างๆ จากองค์ความรู้ดังกล่าว

ถ้าพูดถึง Zelens จะนึกถึงอะไรเป็นอย่างแรก ?

“ผมคงนึกถึงการผสมผสานเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์เข้ากับส่วนผสมทางพฤกษศาสตร์ เราจะไม่ได้ชูแค่ส่วนผสมฮีโร่เพียงอย่างเดียว เพราะส่วนผสมเดียวไม่สามารถทำให้เกิดผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ได้ เราจึงเน้นการทำงานร่วมกันของส่วนผสมทุกตัวที่ก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด นี่คือจุดที่ต่างจากแบรนด์อื่นๆ”

ดร.มาร์โค เลนส์ เผยว่าเบื้องหลังสกินแคร์แต่ละขวด มีการทำวิจัยอย่างจริงจังและใช้เวลายาวนานตราบเท่าที่ต้องใช้ เพื่อให้แต่ละสูตรได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด หลายครั้งหลายการทดลองก่อให้เกิดผลดี แต่คุณหมอเลือกที่จะทดลองหาสิ่งที่ดีที่สุดต่อไป

นอกจากนี้คุณหมอยังยึดถืออย่างแน่วแน่ว่าจะไม่เคลมในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้หรือเกินจริง ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นสามารถชะลอสัญญาณแห่งวัยได้จริง แต่ไม่สามารถหยุดยั้งหรือทำให้หายไปได้ราวกับปาฏิหาริย์ และด้วยความซื่อสัตย์นี้จึงทำให้กลุ่มลูกค้าเชื่อมั่นและไว้ใจแบรนด์ Zelens ไม่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลากว่า 22 ปีที่ผ่านมา

2 ทศวรรษที่ผ่านมา Zelens เปลี่ยนแปลงไปบ้างไหม ?

อันดับแรกที่แฟนแบรนด์ทุกคนคงสังเกตเห็นก็คือการปรับดีไซน์ทั้งโลโก้และแพ็กเกจจิ้ง โดยปรับเปลี่ยนมาใช้สีขาวและดำให้ดูเรียบง่ายและร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้วัสดุที่ใช้ยังมาจากป่าปลูกเชิงพาณิชย์ และสามารถรีไซเคิลได้ทั้งหมดอีกด้วย

นอกจากเรื่องของดีไซน์แล้ว ในแง่ของสูตรผลิตภัณฑ์เองก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกัน เพราะเวลากว่า 22 ปีจากวันแรกที่ ดร.มาร์โค เลนส์ ก่อตั้งแบรนด์ขึ้นนั้น วิทยาการทางวิทยาศาสตร์ก็ได้พัฒนาขึ้น รวมไปถึงส่วนผสม Ingredient ใหม่ๆ ยังถูกค้นพบมากขึ้นอีกด้วย

“ช่วงล็อกดาวน์โควิดเกือบสองปี ผมได้วิจัยและปรับปรุงอัพเดตสูตรใหม่ ซึ่งแต่ละผลิตภัณฑ์จะมีการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างกันออกไป นอกจากนี้สูตรใหม่ยังไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม (Fragrance Free) เหมือนกันทุกผลิตภัณฑ์อีกด้วย กลิ่นของสกินแคร์จึงมาจากส่วนผสมธรรมชาติจริงๆ”

ไอเท็มที่อยากแนะนำให้หนุ่มสาวชาวไทยได้ลองใช้

สำหรับผลิตภัณฑ์ชิ้นไฮไลต์ที่ถูกใจบรรดาเซเลบริตี้และบิวตี้กูรูชาวไทยมากมายก็คือ ‘Melatonin B12 Advanced Repair Serum’ เซรั่มที่มีส่วนผสมของเมลาโทนินรวมกับวิตามิน B12 เสริมให้ประสิทธิภาพของเมลาโทนินฟื้นฟูผิวได้ดียิ่งขึ้น โดยเนื้อเซรั่มจะเป็นสีเนื้ออมชมพูเพราะเกิดจากสีตามธรรมชาติของวิตามิน B12 นั่นเอง

อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับคนไทยมากๆ ก็คือ ‘Tea Shot Urban Defense Serum’ เซรั่มที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ประกอบไปด้วยส่วนผสมจากใบชา 5 ชนิด ได้แก่ มัทฉะ ชาเขียว ชาแดง ชาขาว และชาดำ (Kombucha) เน้นเสริมความแข็งแรงให้ผิว ทั้งยังปกป้องผิวจากมลภาวะและแสงสีฟ้าได้อีกด้วย

รู้จักเซรั่มทั้ง 9 ตัวของแบรนด์

ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์มีให้เลือกหลากหลาย และยังสามารถจับคู่ใช้ได้ตามสภาพผิวหน้าในแต่ละวัน

• Power A : เซรั่มวิตามินเอเข้มข้น 1% พร้อมเสริมประสิทธิภาพด้วยส่วนผสมจากสารสกัดพืชในธรรมชาติ ให้ผลคล้ายกับเรตินอล ช่วยผลัดเซลล์ผิวใหม่ ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน ทั้งยังช่วยลดริ้วรอยและจุดด่างดำได้ดีไม่แพ้กัน
• Power B : เซรั่มวิตามินบีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น B3 (ไนอาซินาไมด์) , B5 , B6 , B7 , B8 , B9 หรือ B12 ก็ล้วนอัดแน่นอยู่ภายในขวดเซรั่มนี้ ให้เนื้อสัมผัสบางเบา ซึมซาบลงฟื้นฟูผิวได้อย่างล้ำลึก ช่วยลดขนาดรูขุมขน ลดรอยดำรอยแดง คืนความกระจ่างใสให้ผิวดูสุขภาพดี
• Power C : เซรั่มวิตามินซีเอสเตอร์ 20% ให้ความเสถียรสูง ช่วยส่งเสริมการผลิตคอลลาเจนของผิวหน้า ทำให้ผิวกระจ่างใส แน่น ยืดหยุ่น แลดูอ่อนเยาว์ มาในเนื้อสัมผัสนุ่มเนียนดุจไหม
• Power E : เซรั่มวิตามินอี เอสเตอร์โทโคฟีรอล 4 ชนิด และโคโทไทรเอนอล ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวและปกป้องผิวด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถลดความเสียหายและสัญญาณแห่งวัยที่จะเกิดแก่ผิวหน้าอย่างเห็ฯได้ชัด
• Youth Intelligence Age-Defying Serum : เซรั่มที่ได้แรงบันดาลใจจากงานวิจัยรางวัลโนเบลเรื่องเทโลเมียร์ (นาฬิกาอายุในเซลล์) เกิดเป็นเซรั่มสูตรเฉพาะที่ช่วยลดร่องแก้ม ริ้วรอย และผิวหย่อนคล้อยให้ดูแน่นกระชับอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น
• Lumino Brightening Serum : เซรั่มเพื่อผิวกระจ่างใส คิดค้นสูตรขึ้นเพื่อจัดการกับภาวะผิวผลิตเม็ดสีมากเกินไป โดยที่ไม่ทำลายความสมดุลบนผิว ผลลัพธ์ที่ได้คือสีผิวสม่ำเสมอ เปล่งปลั่ง กระจ่างสดใส
• Melatonin B12 Advanced Repair Serum : เซรั่มที่ช่วยซ่อมแซมผิวด้วยส่วนผสมจากเมลาโทนินและวิตามิน B12 ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพการซ่อมแซมตามธรรมชาติของผิวให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะริ้วรอย ความเหนื่อยล้า หรือผิวไม่สดใสแค่ไหน ก็รับรองว่าถ้าได้ลองใช้จะสัมผัสถึงผิวเรียบเนียนเปล่งประกายอย่างแน่นอน
• Hyaluron Intense Hydro-Plumping Serum : เซรั่มทรงพลังจากกรดไฮยาลูโรนิกที่มีน้ำหนักโมเลกุลต่างกัน 3 ระดับ มาพร้อมเอนไซม์อย่างไบโอฟลาโวนอยด์ที่ช่วยให้กรดไฮยาลูโรนิกเติมน้ำให้ผิวได้อย่างเต็มที่และชุ่มชื้นขึ้นอย่างแท้จริง
• Tea Shot Urban Defense Serum : เซรั่มจากชา 5 ชนิดที่ทำงานร่วมกันอย่างลงตัวเพื่อเสริมความแข็งแรงห้ผิว และปกป้องใบหน้าจากมลภาวะประจำวัน ยืดอายุผิวหน้าให้ดูอ่อนเยาว์สดใสได้นานยิ่งขึ้น

ใครที่สนใจอยากสัมผัสความมหัศจรรย์ของการบำรุงผิวจาก Zelens สามารถไปทดลองผลิตภัณฑ์ได้ที่เคาท์เตอร์ Skinlab Thailand สาขา เซ็นทรัลเอมบาสซี่ , เอ็มควอเทียร์ , เซ็นทรัลเวิลด์ และเกษร หรือสั่งซื้อได้ทาง Line : @skinlab

นอกจากซื้อผลิตภัณฑ์กลับไปบำรุงผิวหน้ากันเองที่บ้านแล้ว เร็วๆ นี้จะมีทรีตเมนต์ของ Zelens ส่งตรงจากอังกฤษมาถึงประเทศไทยที่ Mediwelle ให้ได้ไปปรนนิบัติผิวจากผู้เชี่ยวชาญกันอีกด้วย