เมื่อสุขภาพใจก็สำคัญไม่แพ้สุขภาพกาย… ‘เบเบ้ ธันย์ชนก’ เผยวิธีดูแล Mental Health ให้แข็งแรง

ไม่ว่าคุณจะเป็นวัยรุ่นยุค 2000s หรือเด็กเจนซี (Gen Z) แน่นอนว่าคุณต้องเคยเห็นหน้าค่าตัวผู้หญิงตัวเล็กเสียงสดใสคนนี้ผ่านจอโทรทัศน์หรือจอมือถืออย่างแน่นอน เพราะ ‘เบเบ้ ธันย์ชนก’ คือเน็ตไอดอลยุคแรกของเมืองไทย ปัจจุบันเธอยังเป็นหนึ่งในอินฟลูเอนเซอร์ด้านการออกกำลังกายที่ดังที่สุดของประเทศอีกด้วย แน่นอนล่ะว่าสุขภาพร่างกายเธอคงแข็งแรงอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ว่าเธอทำอย่างไรให้สุขภาพจิตใจ หรือ Mental Health แข็งแกร่งไม่ต่างกัน

วันนี้เราได้มีโอกาสชวนสาวน้อยร่างเล็กเจ้าของช่อง This Is Bebe มานั่งพูดคุยพร้อมถ่ายแบบขึ้นปกแรกของ HELLO! Beauty & Health Digital Cover โดยเริ่มตั้งแต่การย้อนเส้นทางจากวันที่เริ่มเข้าวงการ สู่การเป็นอินฟลูเอนเซอร์ด้านออกกำลังกายเต็มตัวในทุกวันนี้ พร้อมทำความรู้จักตัวตนด้านอื่นนอกเหนือจากที่เห็นผ่านทางโซเชียลมีเดีย แอบถามทริคในการออกกำลังกายฉบับวงการเบเบ้ ล้วงเคล็ดลับการคุมอาหารให้หุ่นเป๊ะยาวนาน และสุดท้ายในบทความนี้ เราจะขอพาทุกคนไปอ่านบทสัมภาษณ์การเปิดใจถึงเรื่องการดูแลสุขภาพจิตให้แข็งแกร่งแบบเธอกัน

หุ่นดีแบบนี้ เคยไม่ชอบส่วนไหนในร่างกายตัวเองไหม ?

เพราะเราเชื่อว่าไม่มีใครสมบูรณ์แบบ แม้แต่คนหุ่นเป๊ะระดับสาวเบเบ้เอง ก็ย่อมมีจุดที่ไม่มั่นใจหรือกังวลเช่นเดียวกับคนทั่วไปเหมือนกัน และการคาดเดาของเราก็ถูกต้องเมื่อเธอพยักหน้ารับพร้อมเอ่ยปากเล่าถึงด้านที่ไม่แข็งแกร่งของตัวเอง “สมัยก่อนเบจะเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเองเลย ด้วยความที่เราอยู่ในวงการบันเทิงตั้งแต่เด็ก ทำให้เจอเสียงวิจารณ์เรื่องรูปลักษณ์ภายนอกตลอดเวลา ทั้งจากผู้ใหญ่และผู้ชม เรื่องที่โดนประจำเลยก็คือส่วนสูง เพราะเราสูงแค่ 156 เซ็นติเมตร เคยเจอการโดนปฏิเสธงานเพราะส่วนสูงบ่อยมาก ประมาณว่า ดีทุกอย่างเลยนะ แต่เตี้ยไปหน่อย ทำให้เมื่อก่อนเบใส่ส้นสูงตลอดเวลา”

“นอกจากเรื่องส่วนสูงแล้ว จุดที่เราไม่ชอบในร่างกายตัวเองก็คือขากับไหล่ เพราะรู้สึกว่ามันไม่สมส่วนกัน เบเป็นคนขาเล็กมาก เล็กจนโดนแซวว่าขาตะเกียบบ่อย หรืออย่างไหล่ก็ถือว่ากว้างเมื่อเทียบกับขนาดตัว” สาวร่างเล็กเอ่ยปากเล่าถึงความไม่มั่นใจและจุดที่เธอเคยรักตัวเองน้อยกว่าทุกวันนี้ให้เราฟัง ก่อนจะเผยรอยยิ้มกว้างและพูดต่อด้วยเสียงสดใสว่า “แต่นั่นก็เป็นอดีตไปแล้วนะคะ ตอนนี้เบแฮปปี้กับตัวเองมากๆ”

“พอเราโตขึ้น อยู่กับร่างกายตัวเองมาสามสิบกว่าปี บอกตรงๆ ว่ามันก็เริ่มชินไปเองค่ะ และอีกส่วนหนึ่งคือหลังจากเริ่มออกกำลังกาย ดูแลตัวเอง ความรู้สึกรักตัวเอง ชอบตัวเองในแบบที่เราเป็น มันก็ตามมาเองเลยค่ะ”

คนรุ่นใหม่รักตัวเองได้ยากขึ้น เพราะเห็นชีวิตดีๆ ของคนอื่นในโซเชียลมีเดีย

ถึงแม้ว่าโซเชียลมีเดีย (Social Media) จะทำให้การติดต่อหรืออัพเดตข่าวสารเป็นไปได้ง่ายดายมากขึ้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าภาพไลฟ์สไตล์เลิศหรูและรูปลักษณ์ที่ดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้าราวกับไม่มีข้อเสียของผู้คน ทำให้เราอดเปรียบเทียบกับตัวเองอยู่ในใจลึกๆ ไม่ได้ จึงเป็นที่มาว่าทำไมคนรุ่นใหม่ถึงรักตัวเองได้ยากขึ้น และสูญเสียความมั่นใจในตัวเองได้ง่ายขึ้น

เบเบ้เองในฐานะที่เป็นทั้งนักร้องนักแสดงและอินฟลูเอนเซอร์ด้านการออกกำลังกาย แสดงความคิดเห็นต่อประเด็นนี้ว่า “อันดับแรกเลยที่เบว่าเราควรทำคือ Social Detox หรือการ Step Back ถอยออกมาก้าวหนึ่งจากโซเชียลก่อน หยุดเล่น หยุดเข้าไปเช็กเข้าไปอัพเดตสักพัก เป็นสิ่งที่สามารถทำได้เลยและช่วยให้เราหยุดฟุ้งซ่านได้ง่ายขึ้น กับอีกสิ่งที่อยากเตือนคืออย่าลืมว่าทุกคนต่างก็โพสต์แต่ด้านดีๆ ของตัวเองทั้งนั้น”

“อย่างคนเข้ามาดูไอจีเบ อาจจะรู้สึกว่า โห… ฟิตทุกวัน เป๊ะทุกวัน ลีนทุกวันเลย แต่จริงๆ แล้ว เบเองก็มีวันที่น้ำหนักขึ้น วันที่โทรม หรือวันที่รู้สึกตัวบวม แต่เราก็จะไม่ถ่ายรูปในวันแบบนั้นลงไอจี เพราะเราก็อยากถ่ายตอนที่เราดูเพอร์เฟกต์ที่สุดเหมือนทุกคน”

ทำยังไงให้สุขภาพใจแข็งแรงเหมือนสุขภาพกาย ?

มาถึงคำถามสำคัญที่เราอยากรู้เหลือเกินว่าสาวสวยคนนี้ทำยังไงให้สุขภาพกายแข็งแรงควบคู่ไปกับสุขภาพใจ แม้จะยืนอยู่ท่ามกลางแสงสปอตไลต์และเจอเสียงวิจารณ์ได้ตลอดเวลา ซึ่งคำตอบของ ‘เบเบ้ ธันย์ชนก’ นั้นเรียบง่ายกว่าที่เราคิดไว้มาก เธออธิบายให้ฟังว่า “เบว่าการมี Mental Health ที่ดีมันเป็นผลพลอยได้จากการดูแลสุขภาพกายนะคะ เพราะอย่างการออกกำลังกาย มันไม่ใช่ว่าออกวันนี้ พรุ่งนี้เห็นผลเลย แต่เป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลา ใช้ความพยายามและความทุ่มเทแบบค่อยเป็นค่อยไป ถึงจะค่อยๆ เห็นผลลัพธ์ขึ้นมา ซึ่งเบรู้สึกว่าระหว่างทางเราจะค่อยๆ ชอบตัวเองมากขึ้น ภูมิใจในตัวเอง และรักตัวเองได้ดีขึ้น”

พอเป็นเจ้าของ “วงการเบเบ้” เคยรู้สึกกดดันไหมว่าต้องฟิตตลอดเวลา ?

จะแข็งแกร่งขนาดไหน ก็ต้องมีวันที่อ่อนแอบ้างเป็นเรื่องธรรมดา ถึงแม้ในคลิปวิดีโอสาวเบเบ้ดูจะออกกำลังกายคล่องแคล่วพร้อมพูดเชียร์อัพด้วยน้ำเสียงสดใสตลอดเวลา แต่ในชีวิตจริงแล้วก็ต้องมีวันที่เผชิญความกังวลหรือกดดันเช่นกัน “ตอนแรกๆ ที่มาทำคลิปสอนออกกำลังเต็มตัว เบกดดันเหมือนกันนะ เพราะเวลาไปไหนเจอใครก็จะมีแต่คนคาดหวัง มีคนมาขอดูซิกส์แพ็ก (Six Packs) หน่อย ขอจับบ้าง ขอจิ้มบ้าง แข็งจริงไหม เราก็เลยกดดันว่านี่ต้องฟิตตลอด ลีนตลอด แพ็กแน่นตลอดเลยเหรอ”

“ผลที่ตามมาคือเวลามีรอบเดือน ตัวบวม ไม่ลีน ก็จะรู้สึกกดดันทันที แต่พอเวลาค่อยๆ ผ่านไป เราก็เริ่มเห็นเป้าหมายชัดเจนขึ้นว่า เราไม่ได้ต้องการออกกำลังเพื่อให้รูปร่างดูเพอร์เฟกต์ตลอดเวลา แต่เราออกกำลังกายเพื่อให้สุขภาพดี อันนี้คือสิ่งที่สำคัญกว่า” เธอกล่าวปิดท้ายพร้อมรอยยิ้มและแววตาสดใส พอเราได้ฟังคำตอบของเบเบ้ก็พอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมสาวร่างเล็กคนนี้ถึงมีแววตาและน้ำเสียงที่สดใสได้แทบจะตลอดเวลา นั่นก็เพราะเธอไม่เคยปล่อยให้ตัวเองหลงทางนาน และแน่วแน่อยู่กับเป้าหมายนี่เอง

ผู้หญิงที่ไม่มีคำว่า “เป็นไปไม่ได้” ในพจนานุกรม

อย่างที่บอกไปว่าจากการนั่งพูดคุยกับเบเบ้เพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็สัมผัสได้ถึงพลังงานบวกจากเธอ เราจึงขอให้เธอทิ้งท้ายอีกสักนิดถึงคนที่กำลังท้อหรือหมดแรงที่จะลุกมาออกกำลังกาย “เบว่าที่เบทำได้โดยไม่เคยท้อหรือขี้เกียจ เพราะว่าเบตั้งเป้าหมายชัดเจน แล้วก็วางแผนแต่ละขั้นเพื่อที่จะพาตัวเองไปให้ถึงจุดนั้น ดังนั้นใครที่รู้สึกท้อหรือขี้เกียจ เบว่าต้องลองถามตัวเองดูก่อนว่าเป้าหมายคืออะไร มุ่งมั่นที่จะไปถึงมันจริงไหม และที่ผ่านมาได้พยายามเต็มร้อยหรือยัง”

“ถ้าตอบตัวเองได้ว่าเป้าหมายในการออกกำลังกายคืออะไร และมีความมุ่งมั่นจริง แรงใจที่จะพยายามฮึดสู้ก็จะมาเองค่ะ” เบเบ้ ธันย์ชนก ย้ำกับเราด้วยสายตาเอาจริงเมื่อพูดถึงเรื่องการตั้งเป้าหมายและไปให้ถึงจุดที่ตั้งใจ “เบไม่ได้เป็นคนทำได้ดีทุกอย่างนะคะ แต่ถ้าตั้งใจทำอะไรแล้วต้องทำให้สุดไปเลย คนอาจจะไม่ค่อยรู้แต่เบว่ายน้ำไม่เป็น พวกกีฬาทางน้ำก็จะไม่ฝึกเลย เพราะรู้สึกว่าทำได้ไม่ดี ไม่ทำดีกว่า แต่ถ้าเป็นเรื่องฟิตเนสหรือออกกำลังกายแบบนี้ ต้องทำให้ปังไปเลยค่ะ สู้ตายค่ะ”

ขอขอบคุณสถานที่ : The Peninsula Bangkok (โรงแรม เพนนินซูลา กรุงเทพฯ)