ย้อนประวัติศาสตร์ 30 ปีของ BTL Aesthetics ผู้ผลิตนวัตกรรมทางความงามที่ขอไม่ทำตามเทรนด์
หากพูดชื่อของ BTL Aesthetics เราเชื่อว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้จัก แต่ถ้าหากพูดถึงนวัตกรรมด้านความงามที่ดูแลรูปร่างอย่าง Emsculpt™ เรามั่นใจว่าสายบิวตี้เกินกว่าครึ่งจะต้องร้องอ๋ออย่างแน่นอน ซึ่ง BTL Aesthetics นี้เองที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการคิดค้นและการผลิตนวัตกรรมดังกล่าว รวมถึงเทคโนโลยีอื่นๆ อีกมากมายทั้งในแวดวงเสริมความงามและดูแลสุขภาพ
จุดเริ่มต้นของ BTL ต้องย้อนกลับไปราว 30 ปีที่แล้ว ณ ประเทศอังกฤษ จุดประสงค์แรกของการก่อตั้งธุรกิจขึ้นคือเป็นผู้นำด้านการผลิตเครื่องกายภาพ ก่อนจะหันมาเจาะตลาดดูแลรูปร่าง (Body Shaping) และล่าสุดได้เตรียมบุกตลาดดูแลผิวหน้าเป็นครั้งแรก ซึ่งธุรกิจได้เติบโตอย่างมั่นคงตลอดสามทศวรรษที่ผ่านมา ชนิดที่เรียกได้ว่าได้รับการยอมรับในระดับโลก ทุกนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้วนการันตีด้วยผลงานวิจัยทางการแพทย์และรางวัลชั้นนำ รวมถึงผ่านการรับรองผลลัพธ์และความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา ยุโรป และไทย
วันนี้ HELLO! Beauty & Health เลยขอชวน ‘คุณบัณฑิตา อุมัษเฐียร’ ผู้จัดการประจำประเทศไทย (Country Manager) มาพูดคุยถึงแนวคิดในการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่ทำให้เติบโตอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่งจนปัจจุบันขยายตัวดำเนินธุรกิจไปถึง 75 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วยเช่นเดียวกัน
วิธีคิดแบบไม่ทำตามกระแส เพราะขอเป็นผู้กำหนดเทรนด์เอง
ด้วยความที่แวดวงความงามเติบโตทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีแบรนด์เกิดขึ้นมากมายในทุกปี เราจึงอดสงสัยไม่ได้ว่าอะไรคือเคล็ดลับหรือแนวคิดเบื้องหลังการทำงานที่ทำให้บริษัทสามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยังคงอยู่ในแนวหน้าของวงการมาตลอดช่วง 30 ปีที่ผ่านมา
คุณบัณฑิตาชี้จุดแข็ง 3 ข้อของบริษัทให้เราฟัง “อันดับแรกเลยคือแนวคิดการทำงานของเราไม่ใช่การทำตามกระแสนิยม แต่วิธีคิดของเรามักจะเป็นการสร้างความท้าทายให้กับทีมวิจัยและพัฒนาโดยการโยนคำถามสนุกๆ ที่ทำให้เกิดข้อสงสัยทางวิทยาศาสตร์ และทีมพัฒนาสามารถเอาชนะและแก้โจทย์กลับมาได้ หลายครั้งเราได้เทคโนโลยีที่ Disrupt ความคิดเดิมๆ อย่างเช่น เทคโนโลยีใดที่จะสามารถดูแลรูปร่างกระชับสัดส่วนได้อย่างยั่งยืนและปลอดภัย จึงอาจจะพูดได้ว่าเราเป็นคนกำหนดเทรนด์มากกว่าจะทำตามเทรนด์”
“ข้อที่สองคือเรามีทีมคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมที่แข็งแกร่งมาก 1 ใน 4 ของพนักงานทั่วโลกคือทีม R&D และวิศวกรเลย ทำให้เทคโนโลยีของเรามีความก้าวล้ำและแตกต่างจากที่อื่นๆ ทั้งจากวิธีคิดและกระบวนการที่ท้าทาย”
“ข้อสุดท้ายที่ทำให้เรายังอยู่ในแนวหน้าของวงการ คือ นวัตกรรมทุกอย่างที่เราคิดค้นออกมาจะอยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Backed by Science’ คือทุกนวัตกรรมที่เรานำออกสู่ตลาดความงามตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัว เราจะมาพร้อมงานวิจัยมากมายที่ทำการศึกษาหลากหลายวิธีเพื่อยืนยันผลลัพธ์และความปลอดภัยของเทคโนโลยีที่เราคิดค้นขึ้นมา

คุณบัณฑิตายังได้กล่าวเสริมปิดท้ายถึงจุดแข็งข้อที่สามอีกว่า “ที่สำคัญคือเราชูนวัตกรรม Non-Invasive คือไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น และเจ็บน้อยที่สุด ทำให้ตอบโจทย์กลุ่มคนไข้จำนวนมาก ยิ่งในปัจจุบัน คนไข้ส่วนมากจะให้ความสำคัญกับกระบวนการระหว่างทำมากพอๆ กับผลลัพธ์เลย“
คนแรกของวงการที่เลือกกำจัดไขมันด้วยการ “สร้างกล้ามเนื้อ”
แน่นอนว่าถ้าพูดถึงนวัตกรรมดูแลรูปร่างกระชับสัดส่วน สิ่งแรกที่เข้ามาในหัวก็คือ “การกำจัดไขมัน” ซึ่งมีหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการดูดไขมันหรือการใช้พลังงานรูปแบบต่างๆ สลายเซลล์ไขมัน แต่ BTL ไม่ได้คิดแบบนั้น
ทีม R&D ของบริษัทเลือกทางเดินที่ยั่งยืนกว่านั้น หากใครที่เป็นสายเฮลตี้ออกกำลังเป็นประจำ ย่อมรู้ดีว่าวิธีที่จะกำจัดไขมันได้ดีและยั่งยืนที่สุดก็คือ “การสร้างกล้ามเนื้อ” เพราะยิ่งร่างกายมีกล้ามเนื้อมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งสามารถเผาผลาญพลังงานแคลอรี่ได้มากขึ้นเท่านั้น
แนวคิดนี้จึงเป็นจุดริเริ่มของเทคโนโลยี HIFEM™ (High-intensity Focused Electromagnetic) หรือเทคโนโลยีพลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความถี่สูงและเฉพาะเจาะจงไปที่ชั้นกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีหัวใจสำคัญของเครื่อง Emsculpt™ นวัตกรรมแรกที่บริษัทคิดค้นและทำให้ชื่อของ BTL Aesthetics กลายเป็นที่รู้จักในแวดวงความงาม
“อย่างที่บอกไปว่าบริษัทมักจะตั้งคำถามที่ท้าทายทีม R&D เสมอ ซึ่งทีมคิดค้นและพัฒนาก็จะแก้โจทย์โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์ จึงทำให้นวัตกรรมและเทคโนโลยีของเราฉีกไปจากเครื่องอื่นๆ ในตลาด” คุณบัณฑิตาเล่าเสริม “เราจะไม่เคยบอกว่าเครื่อง Emsculpt™ หรือ Emsculpt NEO™ สามารถทดแทนการออกกำลังกายได้ เรายังสนับสนุนให้คนออกกำลังกายไปด้วยเพื่อสุขภาพ เพียงแต่ Pain Point ของคนที่ออกกำลังกายคือบางครั้งไม่สามารถสร้างกล้ามเนื้อในจุดที่ต้องการได้”
คุณบัณฑิตาอธิบายให้เราฟังถึงการทำงานของเทคโนโลยี HIFEM™ ว่าจะทำให้กล้ามเนื้อเกิดการหดเกร็งในระดับสูงสุดที่ปกติสมองจะไม่สามารถสั่งให้หดเกร็งได้ในระดับนั้น (Supramaximal Contraction) ซึ่งจะทำให้เกิดการเสริมสร้างกล้ามเนื้อทั่วทุกมัดในตำแหน่งที่ถูกต้องและเหมาะสม และมวลกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้นจึงนำมาซึ่งอัตราการสลายไขมันสะสมในร่างกายที่เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง การใช้เครื่อง Emsculpt™ หนึ่งคอร์ส (ต่อเนื่องกัน 4 ครั้ง) จึงให้ผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์คนที่หวังสร้างกล้ามเนื้อแต่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย
ในปี 2022 ที่ผ่านมา ทางบริษัทได้ตอกย้ำความสำเร็จด้วยการเปิดตัวเครื่อง Emsculpt NEO™ ในประเทศไทย โดยความพิเศษอยู่ที่ความสามารถในการสลายไขมันและสร้างกล้ามเนื้อที่มากกว่า Emsculpt™ โดยหนึ่งคอร์สเปรียบเสมือนการออกกำลังกายแบบ Resistance Training ถึง 12-16 สัปดาห์จึงอาจพูดได้ว่านวัตกรรมเหล่านี้เปรียบเหมือน Modern Aesthetics หรือความงามยุคใหม่ที่ใส่ใจถึงเชิง Wellness

ความท้าทายในการแนะนำ ‘Modern Aesthetics’ สู่ตลาดความงามประเทศไทย
เมื่อเราได้ฟังว่าบริษัท BTL มีจุดเริ่มต้นมาจากประเทศอังกฤษ ซึ่งทางฝั่งตะวันตกจะให้ความสำคัญกับเรื่องรูปร่างและมองหานวัตกรรมที่เข้ามาช่วยดูแลมานานมากแล้ว ขณะที่ตลาดฝั่งเอเชียจะให้ความสนใจเรื่องใบหน้าและผิวมากกว่า ทีมบิวตี้จึงอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าการบุกตลาดประเทศไทยในปี 2011 มีความท้าทายอะไรบ้างไหม
คุณบัณฑิตาอธิบายว่า “ด้วยความที่บริษัท BTL เดิมทีมีจุดเริ่มต้นมาจากเครื่องมือด้านกายภาพมาก่อน ทำให้เมื่อขยายมาเป็น BTL Aesthetics จึงเริ่มจากการโฟกัสที่เทคโนโลยีการดูแลรูปร่าง ความท้าทายของตลาดไทยคือคนส่วนใหญ่ยังให้ความสนใจกับการดูแลใบหน้ามากกว่ารูปร่าง และ awareness เกี่ยวกับเทคโนโลยีของเรายังมีไม่มาก อย่างไรก็ดีเมื่อเวลาผ่านไป เทรนด์การดูแลรูปร่างในเชิงสุขภาพก็ยิ่งเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ก็เพราะสุขภาพคือเรื่องที่ยั่งยืนและสำคัญจริงๆ”
“ในช่วงแรก (ช่วงปี 2011) ต้องยอมรับว่าการตีตลาดความงามประเทศไทยค่อนข้างท้าทายสำหรับเราพอสมควร แต่ไม่ได้เป็นข้อน่ากังวลมากนัก เพราะเราเชื่อว่าถ้าคนได้รู้จักนวัตกรรมของเราก็จะต้องสนใจ เนื่องจากมันมีความยั่งยืน ไม่ได้เน้นแค่เรื่องความงาม แต่ยังดูแลในแง่ Wellness ด้วย ไม่ได้เป็นกระแสที่มาแล้วจะไป ซึ่งตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมาเราได้พิสูจน์แล้วว่าเทรนด์ดูแลรูปร่างเชิงสุขภาพได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ จริงๆ”

Emface™ ความท้าทายใหม่ในการบุกตลาดดูแลใบหน้าครั้งแรก
ถ้าเปรียบ BTL Aesthetics เป็นนักชกมวย สำหรับวงการดูแลรูปร่างคงไม่ต่างจากนักมวยรุ่น Heavyweight ที่เจนสังเวียน แต่สำหรับตลาดดูแลใบหน้าแล้ว ต้องบอกว่าเป็นหน้าใหม่ทว่าไฟแรงมากทีเดียว
นวัตกรรมใหม่ล่าสุดของบริษัทที่คุณบัณฑิตาแนะนำให้ทีมบิวตี้ได้รู้จักก็คือ Emface™ ซึ่งเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการไปเมื่อต้นปี 2023 ที่ผ่านมา โดยต่อยอดเทคโนโลยีมาจากเครื่อง Emsculpt NEO™ ที่นำ 2 พลังงานที่ไม่สามารถเข้ากันได้อย่าง HIFEM™ และ synchronized RF (คลื่นวิทยุ) มารวมกันได้สำเร็จ เพียงแต่เครื่อง Emface™ นั้นได้ปรับเปลี่ยนพัฒนาจากเทคโนโลยี HIFEM™ เป็น HIFES™ เพื่อให้เหมาะกับผิวและมัดกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้ามากยิ่งขึ้น
“เครื่อง Emface™ ก็ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้โจทย์ที่ว่าเราจะสามารถยกกระชับและทำให้ใบหน้าอ่อนเยาว์ขึ้นได้อย่างไร ทีม R&D ก็ได้ไปหาคำตอบมาว่าชั้นใต้ผิวที่สำคัญและส่งผลต่อความหย่อนคล้อยมากที่สุดก็คือ ชั้นกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นชั้นที่อยู่ลึกที่สุด ทำหน้าที่พยุงชั้นไขมันและผิวชั้นอื่นๆ ไว้”
คุณบัณฑิตาอธิบายถึงความพิเศษของนวัตกรรมใหม่ล่าสุดต่อไปว่า “ความพิเศษของเครื่อง Emface™ คือการผสานสองพลังงานเข้าด้วยกัน เทคโนโลยี HIFES™ จะทำหน้าที่กระตุ้นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อใต้ผิวหน้าให้กลับมาแข็งแรง กระตุ้นการเกิดใหม่ของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (Connective Tissue) ทำให้แต่ละชั้นใต้ผิวยึดโยงกันได้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวดูแน่นกระชับ เฟิร์ม ลดความหย่อนคล้อย ส่วนพลังงาน synchronized RF จะช่วยเก็บงานผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเส้นใยอิลาสติน ทำให้ผิวดูเนียนเด้ง ยืดหยุ่นอีกครั้ง”
ข้อที่น่าสนใจสำหรับนวัตกรรม Emface™ คือแม้จะไม่มีแผลผ่าตัด (Non-Invasive) และไม่ต้องพักฟื้น เหมือนกับยกกระชับใบหน้าด้วยคลื่นพลังงานอื่นๆ แต่จุดที่ทำให้แตกต่างคือคลื่นพลังงานอื่นๆ จะทำครั้งเดียวจบ พลังงานมีความเข้มข้นสูง ทำให้ระหว่างทำมักรู้สึกเจ็บค่อนข้างมาก แต่พลังงานของเครื่อง Emface™ จะไม่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บที่เซลล์ผิว จึงมีความอ่อนโยนกว่า รู้สึกสบายขณะทำ ซึ่งไม่ต้องกังวลไปว่าผลลัพธ์จะเห็นน้อยกว่า เพราะมีข้อกำหนดว่าใน 1 คอร์สจะต้องทำ 4 ครั้ง
ทีมบิวตี้เราจึงเห็นด้วยว่านวัตกรรม Emface™ จะเป็นหนึ่งในตัวเลือกดูแลใบหน้าที่คนยุคใหม่ให้ความสนใจ สาเหตุก็เพราะเป็นเทคโนโลยีที่จะสามารถช่วยย้อนวัยให้ใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ปลอดภัย และยั่งยืน ทั้งยังเป็นนวัตกรรมแบบ Non-Invasive ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น และไม่มีผลข้างเคียงอีกด้วย
หากใครสนใจนวัตกรรมและเครื่องมือของ BTL Aesthetics สามารถเข้าไปเช็กได้ว่ามีที่คลินิกไหนบ้าง
- คลินิกใกล้ฉัน : https://btlaesthetics.com/en/clinics-near-me
- Facebook Page : BTL Aesthetics Thailand
- Instagram : btlaesthetics.thailand
- หรือโทรสอบถามที่ 098-978-3514