รู้จักโปรแกรม Emface นวัตกรรมใหม่ในการยกกระชับใบหน้าด้วยการฟื้นฟูกล้ามเนื้อและชั้นผิวไปพร้อมกัน
นวัตกรรมยกกระชับใบหน้าอย่างกลุ่มคลื่นพลังงานกลายมาเป็นที่นิยมในแวดวงเสริมความงามเพราะเทรนด์ Non-Invasive ตอบโจทย์วิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำสวยแบบไร้แผล ใช้เวลาน้อย และระยะเวลาพักฟื้นที่แทบไม่มีจนถึงไม่มีเลย ด้วยเหตุนี้เทคโนโลยีการยกกระชับใบหน้าจึงถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปี ซึ่งปีนี้เอง HELLO! Beauty & Health ก็ไม่พลาดอัพเดตนวัตกรรมใหม่อย่าง โปรแกรม Emface ที่จะมาพลิกโฉมวงการการยกกระชับใบหน้าไปอย่างสิ้นเชิง
แต่จะให้พูดถึงโปรแกรม Emface ด้วยตัวเองก็คงจะไม่ลงลึกเพียงพอ เราจึงได้เชิญผู้เชี่ยวชาญอย่าง ‘คุณหมอฐา – พญ.ฐานิสร ธรรมลิขิตกุล’ แพทย์ผู้อำนวยการแห่ง Romrawin Clinic (รมย์รวินท์ คลินิก) มานั่งคุยและทำความรู้จักนวัตกรรมใหม่นี้ให้ดีกว่าเดิม ซึ่งรมย์รวินท์ถือเป็นคลินิกแรกๆ ที่เริ่มนำโปรแกรม Emface มาให้บริการคนไข้ รวมทั้งยังมีจำนวนเครื่องมากเป็นอันดับต้นๆ ในไทยอีกด้วย

รมย์รวินท์ คลินิกไม่เคยหยุดนิ่งในการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วยในการดูแลลูกค้า ให้ตอบโจทย์ปัญหาแบบเฉพาะบุคคล
คุณหมอฐา – พญ.ฐานิสร ธรรมลิขิตกุล ผู้อำนวยการ Romrawin Clinic
โปรแกรม Emface คืออะไร และทำงานอย่างไร ?
นวัตกรรมใหม่ล่าสุดนี้ถือว่ามาพลิกโฉมวงการยกกระชับใบหน้าเลยก็ว่าได้ เพราะแม้จะเป็นนวัตกรรม Non-Invasive ที่ยกกระชับใบหน้าด้วยคลื่นพลังงานทำนองเดียวกับกลุ่ม Ulthera, Thermage และ HIFU แต่มีหลายจุดที่แตกต่างกันมากทีเดียว
คุณหมอฐาได้อธิบายถึงการทำงานของ Emface ให้เราเข้าใจแบบง่ายๆ ว่า “โปรแกรม Emface เป็นการผสมผสานคลื่นพลังงานวิทยุชนิดขั้วเดียว Synchronized RF และ HIFES (High Intensity Facial Electrical Stimulation) ที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับผิวบริเวณใบหน้า โดยพลังงานจะลงลึกยิ่งกว่าโปรแกรมอื่นๆ คือจะลงไปถึงชั้นกล้ามเนื้อที่พยุงใบหน้าไว้ และกระตุ้นการทำงานให้กล้ามเนื้อบนใบหน้าแข็งแรง ทั้งยังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเส้นใยอิลาสตินในทุกชั้นผิวไปพร้อมกันได้ด้วย ผลจากสองพลังงานที่ทำงานร่วมกัน ทำให้เกิดการยกกระชับผิวที่ดีมากขึ้น และลดริ้วรอยไปพร้อมกัน”

จุดถัดมาที่โปรแกรม Emface มีความแตกต่างจากกลุ่มนวัตกรรมยกกระชับด้วยคลื่นพลังงานอื่นๆ ก็คือ “ระยะเวลาในการทำ” หากใครที่เคยทำโปรแกรม Ulthera, Thermage หรือ HIFU มาก่อน อาจจะคุ้นเคยดีว่าจะต้องอาศัยการแปะยาชาซึ่งกินเวลาอย่างน้อย 30 นาทีถึงหนึ่งชั่วโมง และใช้เวลาในการทำโปรแกรมต่อไปอีกอย่างน้อย 20 นาทีถึงหนึ่งชั่วโมง รวมๆ แล้วใช้เวลานับชั่วโมงทีเดียวในการทำหนึ่งครั้ง
แต่สำหรับโปรแกรม Emface แล้ว คุณหมอฐาบอกว่า ไม่จำเป็นต้องแปะยาชา และใช้เวลาทำเพียง 20 นาทีก็เสร็จเรียบร้อย ไม่จำเป็นต้องพักหน้า สามารถใช้ชีวิตต่อได้ตามปกติ โดยแพทย์จะแนะนำให้ทำเป็นคอร์สเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรทำทั้งหมด 4 ครั้งติดต่อกัน เว้นระยะห่างสัปดาห์ละครั้ง และผลลัพธ์ตามงานวิจัยสามารถอยู่ได้ถึง 12-16 เดือน

ยกกระชับถึงกล้ามเนื้อ เจ็บไหม ?
อย่างที่คุณหมอฐาได้เล่าไปข้างต้นว่าโปรแกรม Emface คือการทำงานของพลังงาน Synchronized RF และ HIFES ที่ออกแบบมาเพื่อบริเวณใบหน้าโดยเฉพาะ ระหว่างทำไม่จำเป็นต้องทายาชา และจะรู้สึกอุ่นๆ มีรู้สึกถึงการกระตุกของกล้ามเนื้อบนใบหน้าบางจุดเวลาคลื่นพลังงานถูกส่งลงไป แต่เสียงตอบรับส่วนใหญ่ของคุณหมอก็บอกว่า “รู้สึกเจ็บน้อยมาก” และบางเคสถึงกับบอกว่า “ไม่เจ็บเลย” ทั้งนี้อาจขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความรู้สึกของแต่ละคนด้วย
สามารถยกกระชับบริเวณไหนได้บ้าง ?
“สามารถยกกระชับได้ทั่วใบหน้า ช่วยยกคิ้ว ลดเลือนริ้วรอยตรงหน้าผาก ยกกระชับบริเวณแก้มและกระเปาะแก้ม ช่วยลดร่องแก้มให้ดูอ่อนเยาว์ แนวกรามคมชัดขึ้น”

เห็นผลทันทีเลยไหม หรือต้องรอ ?
หนึ่งในคำถามยอดฮิตที่คุณหมอฐาได้รับเยอะมากรองลงมาจากคำถามว่า “เจ็บไหม ?” ก็คือคำถามถึงเรื่องผลลัพธ์ ซึ่งคุณหมอได้อธิบายถึงผลลัพธ์ของโปรแกรม Emface ไว้ดังนี้ว่า “เราจะสามารถเห็นผลลัพธ์หลังทำตั้งแต่ครั้งแรก จะรู้สึกได้ว่าผิวยกกระชับขึ้น แต่จะเห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและเต็มที่ที่สุดเมื่อทำครบคอร์ส คือ 4 ครั้ง เว้นระยะห่างสัปดาห์ละครั้ง”

Emface vs Ulthera vs Thermage
ตั้งแต่ช่วงโควิด-19 เป็นต้นมา นวัตกรรมกลุ่มยกกระชับด้วยคลื่นพลังงานก็กลายเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีความงามที่คนรู้จักกันดีและรู้จักกันอย่างกว้างขวาง แต่เชื่อว่าหลายคนอาจจะไม่ได้เข้าใจถึงความแตกต่างและจุดเด่นของแต่ละโปรแกรมอย่างแท้จริง เราจึงให้คุณหมอฐาช่วยแจกแจงและเปรียบเทียบกันแบบชัดๆ ให้ทุกคนเห็นภาพมากยิ่งขึ้นกัน
เปรียบเทียบชนิดพลังงาน
- Thermage FLX : คลื่นวิทยุชนิดขั้วเดียว (Monopolar RF) สามารถยิงได้ลึกถึง ชั้นหนังแท้และชั้นไขมัน
- Ulthera : คลื่นอัลตราซาวด์ (Focused Ultrasound) สามารถยิงได้ลึกถึง ชั้น SMAS (ชั้นที่ใช้ผ่าตัดดึงหน้า)
- Emface : คลื่นไฟฟ้าเข้มข้น (HIFES) และคลื่นวิทยุชนิดขั้วเดียว (Synchronized RF) สามารถยิงได้ลึกถึง ชั้นกล้ามเนื้อ
แต่ละโปรแกรมเหมาะกับใครบ้าง
- Thermage FLX : เหมาะกับคนที่มีความกังวลเรื่องปัญหาความหย่อนคล้อยและริ้วรอยบนใบหน้า ต้องการผิวแน่นกระชับ
- Ulthera : เหมาะกับคนที่มีความกังวลเรื่องความหย่อนคล้อยและสัญญาณแห่งวัย ต้องการเน้นเรื่องยกกระชับ
- Emface : เหมาะกับคนที่ต้องการดูแลใบหน้าแบบองค์รวม ทั้งเรื่องยกกระชับและผิวอิ่มฟู ตอบโจทย์คนที่มีเวลาน้อยและกลัวเจ็บ
แม้ว่า โปรแกรม Emface จะเพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน แต่ด้วยประสิทธิภาพของเครื่องที่ถูกพัฒนาโดยบริษัทผู้ผลิตชั้นนำระดับโลก ทำให้ทาง Romrawin Clinic ตัดสินใจเลือกนำเข้านวัตกรรมสุดล้ำเข้ามาเป็นคนแรกๆ ในเมืองไทย ใครที่สนใจอยากลองทำโปรแกรมยกกระชับด้วยเครื่อง Emface หรืออยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากทางคลินิก สามารถเช็กสาขาที่ต้องการติดต่อได้ที่ www.romrawinclinic.com