รีเซ็ตสุขภาพ สไตล์ ‘แองจี้-แองเจลิส บาเลก’ เริ่มง่ายๆ ด้วยการทิ้งคำว่า “เดี๋ยวก่อน”
เคยไหม? ตั้งใจอยากลุกขึ้นมาออกกำลังกาย ดูแลหุ่นและสุขภาพ แต่พอถึงเวลาจริงๆ มักมีคำพูดว่า “เดี๋ยวก่อน..พรุ่งนี้ค่อยทำ” ซึ่งสาเหตุจริงๆ ของคำว่าเดี๋ยวก่อนคงหนีไม่พ้นความรู้สึก
ขี้เกียจของตัวเราเอง วันนี้ HELLO! มีเคล็ดลับสร้างกำลังใจของ ดีไซเนอร์สาวลูกครึ่งไทย-อเมริกัน
‘คุณแองจี้ – แอนเจลิส บาเลก’ ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์และผู้ก่อตั้งแบรนด์แฟชั่นและชุดว่ายน้ำ AB. Angelys Balek มาฝากให้ทุกคนลองนำไปปรับใช้กัน

คุณแองจี้เผยว่าเมื่อก่อนไม่เคยเห็นความสำคัญของสุขภาพเลย ลุยทำงานหนักเพื่อทำให้แบรนด์เป็นที่ยอมรับในระดับสากลกว่า 10 ปี และต้องบินข้ามประเทศเพื่อทำงาน เนื่องจากทีมดีไซน์อยู่ที่เมืองไทย ทีมการตลาดอยู่อเมริกา ขณะที่โรงงานผลิตอยู่อิตาลี ซึ่งในทุกวันนี้ชุดว่ายน้ำของ AB. Angelys Balek ได้ปรากฏอยู่บนเรือนร่างของเซเลบริตี้ระดับโลกมากมาย แต่คุณแองจี้ต้องแลกมาด้วยสุขภาพที่อ่อนแอและน้ำหนักที่มากขึ้น ทำให้เธอตัดสินใจลุกขึ้นมาดูแลสุขภาพอย่างจริงจัง
“จี้เข้าใจเลยว่าการลุกขึ้นมาออกกำลังกายในทุกๆ วัน มันไม่ง่ายเลย แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ยากเกินความสามารถ จี้จะมองถึงผลลัพธ์
ที่จะได้ พูดกับตัวเองทุกวันว่า ฉันจะต้องแข็งแรง ฉันจะต้องใส่ชุดตัวโปรดให้ได้ และลบคำว่า เดี๋ยวก่อน
ค่อยทำก็ได้ ขี้เกียจจัง ออกไป แทนที่ด้วยภาพความสุขในวันที่ตัวเรากลับมามีสุขภาพแข็งแรง ซึ่งตัวจี้เองเริ่มออกกำลังกายจริงจังได้ประมาณ 4 เดือน เริ่มเห็นผลลัพธ์ คือ สามารถใส่เสื้อผ้าตัวโปรดได้แล้ว”
บาลานซ์ชีวิตและการทำงาน
ความตั้งใจเป็นสิ่งสำคัญในการลงมือทำอะไรสักอย่าง แต่สำหรับคุณแองจี้นั้น ความตั้งใจอย่างเดียวไม่เพียงพอ ถ้ายังขาดการสร้างสมดุลให้ชีวิตและการทำงานเพราะสุดท้ายจะมาจบลงที่ “ไม่มีเวลา” ดังนั้นก่อนจะเริ่มออกกำลังกาย หรือ ลดน้ำหนักจริงจัง ต้องจัดตารางเวลาให้ดีเสียก่อน อย่างตัวคุณแองจี้เองจะจัดตาราง ออกกำลังกายเบาๆ ก่อน อย่าง พาสุนัขเดินเล่นในช่วงเช้า จากนั้นทานอาหารเช้าและเริ่มต้นทำงาน และไม่ลืมแบ่งเวลาดูแลคุณพ่อ แม้ในบางครั้งการทำงานจะต้องประชุมกับทีมที่ต่างประเทศ แต่ก็จะกำหนดเลยว่าต้องออกกำลังกายในช่วงเย็น
สำรวจสุขภาพร่างกายของตัวเองและตั้งเป้าหมาย

ร่างกายแต่ละคนมีข้อจำกัดไม่เหมือนกัน คุณแองจี้จึงแนะนำให้สำรวจสุขภาพของตัวเองเสียก่อนว่ามีจุดไหนที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษหรือไม่ กีฬาประเภทไหนที่เหมาะสม จากนั้นตั้งเป้าหมายว่าอยากจะลดน้ำหนักเท่าไหร่ หรือลดส่วนไหนเป็นพิเศษหรือไม่ เพื่อที่จะได้นำมาลงตารางการออกกำลังกายในแต่ละวัน
สะกดจิตตัวเองด้วยการคิดถึง “ผลลัพธ์ที่ได้”
เมื่อออกกำลังกายไปสักพักแน่นอนว่าต้องเผชิญกับคำว่า “ท้อ” หรือ “เบื่อ” ซึ่งคุณแองจี้มีวิธีสร้างกำลังใจให้ตัวเองก้าวผ่านความรู้สึกลบด้วยการสะกดจิตตัวเอง คือ คิดถึงแต่ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น คิดถึงสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น การได้ใส่ชุดตัวโปรดที่เก็บไว้ในตู้เสื้อผ้า สิ่งเหล่านี้สามารถสร้างพลังบวกให้ผ่านจุดวิกฤติทางจิตใจได้
เลือกทำในสิ่งที่ชอบ ไม่ใช่ฝืนทำ และไม่กดดันตัวเองจนเกินไป

การฝืนทำในสิ่งที่ไม่ชอบ มักสร้างความทุกข์ใจให้กับตัวเอง การออกกำลังกายก็เช่นกัน ดังนั้นคุณแองจี้เลือกที่จะออกกำลังกายด้วยการ ว่ายน้ำ เพราะเป็นกีฬาที่เธอชอบ โดยตั้งเป้าไว้ที่ว่ายน้ำไป-กลับ 50 รอบ แต่จะไม่ฝืนตัวเองมากจนเกินไป โดยในวันแรกๆ เริ่มว่ายน้ำเท่าที่ร่างกายรับไหว และค่อยๆ เพิ่มจำนวนรอบขึ้น
สลับกับการ ปั่นจักรยาน 10 กิโล ในสวนสาธารณะซึ่งนอกจากจะสนุก เรียกเหงื่อได้ดีแล้วยังเป็นการรีเฟรชจิตใจจากการกักตัวอยู่บ้าน เพราะขณะปั่นจักรยานจะได้เห็นต้นไม้สีเขียว ฟังเสียงนกร้อง และวิวชายหาดของสวนสาธารณะสะพานหิน จังหวัดภูเก็ต นอกจากนี้คุณแองจี้ยังเลือกออกกำลังกายด้วยวิธี เดินสลับวิ่งบนลู่วิ่ง 40 นาที หรือ พาน้องหมาออกเดินเล่นในสวนที่บ้าน และ เล่นโยคะ ยืดเส้นยืดสาย บริหารกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี ควบคู่กับการฝึกสมาธิ
เลิกตามใจปาก ทานให้น้อยลง
เป็นเรื่องปกติที่เรามักจะเลือกทานอาหารที่ชอบแม้จะไม่หิวก็ตาม ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่บั่นทอนสุขภาพโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นเมื่อเกิดความรู้สึกอยากตามใจปาก คุณแองจี้มักคิดถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาเพื่อเตือนตัวเองว่า “อร่อยปากตอนนี้แต่จะได้สุขภาพพังๆ กลับมา” เรียกว่าได้ไม่คุ้มเสีย ทั้งยังฝึกวินัยการรับประทาน ไม่อดมื้อเช้าเพราะเป็นมื้อที่สำคัญ นอกจากนี้คุณแองจี้ยังเน้นทานผักผลไม้ จำกัดปริมาณอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาล เน้นทานของนึ่ง ต้ม ย่าง และหากรู้สึกหิวระหว่างวันก็จะเลือกทาน กล้วย และ ฝรั่ง เป็นของว่างแทน
ใครที่อยากมีสุขภาพที่ดีขึ้น สามารถนำเคล็ดลับของคุณแองจี้ไปปรับใช้กันได้ รับรองว่าเพียงแค่เริ่มทิ้งคำว่า “เดี๋ยวก่อน” ก็ก้าวเข้าใกล้เป้าหมายที่ตั้งไว้แล้วล่ะ