คงจะรู้กันดีแล้วใช่มั้ยว่า…ถ้าเรานอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือช่วงเวลานอนไม่มีคุณภาพ ก็อาจส่งผลให้ระบบต่างๆในร่างกายเกิดความรวนเร อย่างเช่น ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง หรือระบบเผาผลาญทำงานผิดปกติ ฉะนั้นเพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการซ่อมแซมตัวเองให้กับร่างกาย คุณก็ควรหยุดทำนิสัยแย่ๆ พวกนี้ในช่วงเวลาก่อนเข้านอน
1. ดูทีวีก่อนนอน
การดูทีวีในช่วงเวลาก่อนเข้านอน (หรือที่ร้ายกว่านั้นคือการดูทีวีทั้งคืน) จะทำให้แสงสีฟ้าจากจอทีวีรบกวนการทำงานของฮอร์โมนเมลาโทนิน ส่งผลให้เราไม่รู้สึกอยากนอน นอกจากนี้เราควรให้เวลาสมองและจิตใจได้เตรียมตัวพักผ่อนด้วย การดูทีวีในช่วงเวลก่อนเข้านอน อาจทำให้เราต้องขบคิดอะไรจนนอนไม่หลับก็ได้
2. ใช้มือถือหรือโน้ตบุค
นี่เป็นอะไรที่ส่งผลคล้ายกับการดูทีวีนั่นแหละ เพราะทั้งจอมือถือและจอโน้ตบุ้คก็ปล่อยแสงสีฟ้าออกมารบกวนการทำงานของฮอร์โมนเมลาโทนินเช่นกัน ซึ่งตอนนี้มีหลายบริษัทได้คิดค้นตัวกั้นแสงสีฟ้าให้กับอุปกรณ์อิเลคโทรนิคพวกนี้ได้แล้ว ลองหามาใช้ดูนะ หรือจะใช้วิธีปรับแสงหน้าจอให้มืดลงหน่อยก็คงพอจะช่วยได้บ้าง
3. อ่านนิยายสยองขวัญ
การอ่านนิยายโรมานซ์หรือการพัฒนาตนเอง อาจช่วยกล่อมร่างกายและสมองให้พร้อมสำหรับการเข้านอนได้ แต่ถ้าคุณอ่านอะไรที่ชวนให้ตื่นเต้น หรือมีความสยองขวัญสั่นประสาท ก็อาจทำให้ร่างกายและสมองของเราเกิดความตึงเครียด จนอาจทำให้ต้องนอนตาค้างไปทั้งคืนก็ได้
4. กินอาหารรอบดึก
การกินอาหารในช่วงเวลาก่อนเข้านอนนั้น ไม่ได้ส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายเลยนะ เพราะนอกจากจะทำให้เกิดโรคอ้วนตามมาแล้ว ผลการศึกษาวิจัยยังระบุด้วยว่า การกินอาหารกลางดึกบ่อยๆ อาจนำไปสู่อาการกินไม่หยุดได้
5. ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นว่า คาเฟอีนนอกจากจะทำให้หลับได้ยากแล้ว ยังทำให้หลับได้ไม่ลึกด้วย ซึ่งนั่นอาจจะนำไปสู่อาการอ่อนเพลียหลังตื่นนอน และทำให้ต้องเติมคาเฟอีนเข้าสู่ร่างกายหลังตื่นนอนทันที ทางที่ดีก็อย่าดื่มกาแฟหลังสี่โมงเย็นไปแล้ว
6. ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายในช่วงเวลาก่อนเข้านอนนั้นเป็นอะไรที่ห้ามเด็ดขาด เนื่องจากการออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายหลังสารอะดรีนาลีนออกมา แล้วยังทำให้หัวใจเต้นแรงและเร็วขึ้นด้วย ซึ่งนั่นจะไม่ชวนให้เรารู้สึกง่วงนอนขึ้นมาได้เลย
7. ปรับอุณหภูมิในห้องให้สูงขึ้น
แน่นอนว่าการปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้อยู่ในราวๆ 25 องศาเซลเซียสนั้น จะช่วยให้เราสามารถประหยัดไฟได้อย่างมหาศาล แถมยังช่วยลดโลกร้อนได้แบบน่าชื่นชมด้วย แต่การลดอุณหภูมิให้เย็นลงอีกนิดนึง น่าจะส่งผลดีต้องการนอนหลับของคุณมากกว่านะ เพราะงานวิจัยชิ้นนึงแสดงให้เห็นว่า การนอนหลับจะมีคุณภาพมากขึ้นในช่วงร่างกายลดความร้อนลง ซึ่งร่างกายจะทำอย่างนั้นไม่ได้ถ้าตั้งอุณหภูมิในห้องไว้สูงเกิน
8. เปลี่ยนแปลงกิจวัตรประจำวัน
ตารางกิจวัตรประจำวันจะช่วยส่งสัญญานให้สมองรับรู้ได้ว่า ถึงเวลาต้องกล่อมร่างกายและจิตใจให้พร้อมสำหรับการนอนหลับแล้ว อย่างเช่น การกระโดดขึ้นเตียงในเวลาเดิมๆทุกวัน นอกจากนี้การอาบน้ำ แปรงฟัน หรือกิจวัตรที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายต่างๆ ก็จะช่วยส่งสัญญานเตือนได้แบบเดียวกัน แต่ถ้าคุณเปลี่ยนแปลงกิจวัตรพวกนี้ขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็จะทำให้รู้สึกง่วงได้ยากขึ้น