เข้าช่วงซัมเมอร์แบบนี้แบบนี้ ไอเท็มที่จำเป็นและขาดไม่ได้เลยคือครีมกันแดด ที่จะช่วยปกป้องผิวของสาวๆ ไม่ให้คล้ำเสีย แห้งกร้าน เกิดริ้วรอยก่อนวัย แต่สภาพผิวของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป ดังนั้น ก่อนการ เลือกซื้อครีมกันแดด จะต้องดูอะไร เพื่อให้ได้คุณสมบัติที่ตรงใจ HELLO! มีคำแนะนำค่ะ
Broad-spectrum

สิ่งสำคัญอย่างแรกที่ต้องมองหาบนฉลากผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดคือคำว่า Broad-spectrum เพราะนั่นแปล่วาครีมกันแดดตัวนี้สามารถป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB
จำไว้ว่า SPF สูงๆ นั้นสามารถป้องกันได้แค่รังสี UVB ซึ่งป้องกันผิวหมองคล้ำ แต่หากมีค่า PA ด้วย ครีมกันแดดตัวนั้นจึงจะสามารถป้องกันรังสี UVA ซึ่งลงลึกสู่ผิวมากกว่า อันเป็นสาเหตุของริ้วรอยก่อนวัย
ดังนั้น หากเลือกครีมกันแดดที่เป็นฉลากภาษาไทย ก็ควรเลือกฉลากที่มีทั้งคำว่า SPF และ PA ซึ่งยิ่งตัวเลขและเครื่องหมายบวกมากเท่าไหร่ ยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น
คุณสมบัติกันน้ำ

ถ้าสาวๆ มีแพลนที่จะเล่นกีฬากลางแจ้ง หรือไปว่ายน้ำ คุณสมบัติกันน้ำเป็นส่วนสำคัญในการเลือกซื้อครีมกันแดด
ซึ่งควรเลือกซื้อครีมกันแดดที่สามารถกันน้ำได้ 2-4 ชั่วโมง และอย่าลืมทาครีมกันแดดซ้ำหลังจากว่ายน้ำหรือเล่นกีฬาที่เสียเหงื่อมาก เพื่อคงประสิทธิภาพของครีมกันแดดไว้สูงสุด
ดูส่วนผสมหลักในครีมกันแดด

ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลยเช่นกัน โดยส่วนผสมในครีมกันแดดมักแบ่งเป็นส่วนผสมจากสารเคมี และส่วนผสมจากธรรมชาติ
ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมจากสารเคมีมักจะดูดซึมรังสี UVA และ UVB เอาไว้เล็กน้อย แต่ถึงแม้เล็กน้อยก็อาจส่งผลเสียกับผิวได้ ส่วนครีมกันแดดที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติจะทำหน้าทีสะท้อนรังสี UVA และ UVB ออกไปจากผิว
ส่วนผสมจากสารเคมีบางตัว เช่น ซิงค์ออกไซด์ หรือ ไทเทเนียมไดออกไซด์ มีคุณสมบัติในการป้องกันรังสี UVA และ UVB ได้อย่างดีเยี่ยม ในขณะที่สารเคมีบางตัว เช่น เบโมไทรซินอล หรือ ไบซอกไทรโซล จะมีการทำงานข้ามความยาวคลื่น UVA และ UVB
ซึ่งครีมกันแดดในท้องตลาดมักมีส่วนผสมรวมกันระหว่างสารเคมีและสารจากธรรมชาติ ดังนั้นจึงสามารถดูส่วนผสมเหล่านี้และนำมาใช้ร่วมกันได้ เพื่อให้เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองที่สุด
ปราศจากการระคายเคือง

ในเมื่อครีมกันแดดมีส่วนผสมของสารเคมีและสารจากธรรมชาติมากมาย ดังนั้น ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายจึงควรเลือกครีมกันแดดที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองน้อยที่สุด โดยดูว่าครีมกันแดดตัวนั้นปราศจากสารกันเสียและน้ำหอมหรือไม่ ซึ่งอาจจะทดสอบการแพ้บริเวณท้องแขนก่อน 24 ชั่วโมง
อย่าลืมใช้ให้ถูกวิธี เพื่อผลลัพธ์เต็มประสิทธิภาพ
ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์กันแดดในรูปแบบไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือใช้ในปริมาณที่มากเพียงพอ และต้องใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดก่อนออกแดดอย่างน้อย 20 นาที เพื่อให้ผลิตภัณฑ์กันแดดซึมซาบสู่ผิวก่อน และอย่าลืมทาบริเวณมือ เท้า หลังคอ และใบหู ซึ่งเป็นจุดที่มักถูกละเลยมากที่สุด