เพราะสุขภาพดี เริ่มต้นที่ตัวเอง ‘พงศกร เอี่ยมองค์’ เน้นใส่ใจการกิน ควบคู่การออกกำลังกาย
ยอมรับว่าตัวเองใส่ใจดูแลสุขภาพมาตลอด แต่ช่วงที่โควิดระบาดหนักเมื่อ 3 ปีก่อน ทำให้ร่างกายของ ‘คุณแฮงค์ – พงศกร เอี่ยมองค์’ เกิดการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตและการกินก็เปลี่ยนไป จากคนที่เคยมีซิกแพค ก็กลายเป็น ‘คนมีพุง’ โชคดีตอนนั้นน้องชายในกลุ่มที่สนิทกัน (คุณอาร์ม – พรเดช จันทวานิช) แนะนำให้ลองศึกษาเรื่องโภชนาการ ปรับอาหารที่กินในแต่ละวัน และศาสตร์ของการทำ IF (Intermittent Fasting) ซึ่งเป็นการกำหนดช่วงเวลาในการกินอาหาร เช่น กินอาหาร 8 ชั่วโมง หยุดกินอาหาร 16 ชั่วโมง ที่หลาย ๆ คนเลือกใช้ในการควบคุมน้ำหนัก

“ตอนแรกไม่คิดว่าจะเวิร์ก แต่พอทำไปสักพักเริ่มเห็นผลที่ชัดเจนมาก ๆ พุงยุบลงไปเยอะ จึงศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะเราสัมผัสได้ถึงผลลัพท์ที่ว่า ‘You are what you eat’ หลังเริ่มต้นด้วยการกินที่ดี ก็ทำให้รู้สึกสบายท้องมากขึ้น และที่น่าแปลกใจ คืออาการโรคภูมิแพ้ที่เป็นอยู่ เริ่มดีขึ้น จากที่ต้องกินยาตลอด อาทิตย์ละ 2 ครั้ง ก็สามารถหยุดกินยาได้ และหันมาออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยครับ” คุณแฮงค์ เล่าผลลัพธ์การดูแลสุขภาพให้ฟังตั้งแต่ต้นเรื่อง
อย่างไรก็ตามคุณแฮงค์บอกว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะประสบความสำเร็จในการทำ IF เพราะด้วยไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน อย่างบางคนเลือกที่จะดื่มกาแฟที่ผสมนม ซึ่งเต็มไปด้วยแคลอรี่ ส่วนหนึ่งที่ทำให้การทำ IF ไม่ได้ผลร้อยเปอร์เซ็น ก่อนแนะนำว่า “ควรเลือกดื่มเป็นกาแฟดำในตอนเช้า และอยากให้สนุกไปกับการดูแลสุขภาพ อย่ากดดันตัวเอง เพราะจะทำให้เกิดความเครียด กลายเป็นผลเสียมากกว่าผลดี
หรือบางคนอาจจะมีปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิง ส่วนใหญ่พบว่าขาดโปรตีน ทำให้การดูดซึมสารอาหารต่าง ๆ ในร่างกายไม่ค่อยดี จึงจำเป็นต้องมีการเสริมโปรตีน ซึ่งผู้ชายบางคนก็อาจพบปัญหานี้ได้ เช่นเดียวกับผมเองก็ต้องเสริมโปรตีน โดยเลือกเป็นแบบผลิตภัณฑ์ชงดื่มง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก”

หลัก 3 ล. ‘ลด ละ เลิก’
และด้วยความที่ยังชื่นชอบดื่มไวน์อยู่บ้าง บวกกับทำ IF ไปด้วย จึงไม่แปลกที่บ่อยครั้งที่คุณแฮงค์จะเผชิญกับอาการกรดไหลย้อน ฉะนั้นเจ้าตัวจึงบอกว่า ต้องมีการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ แต่ก็ไม่ตึงจนเกินไป พยายามเดินสายกลาง และทำความรู้จักกับร่างกายของตัวเองให้มากที่สุด ทดลองวิธีการดูแลสุขภาพหลาย ๆ ทาง เพื่อหาจุดที่สมดุล “บางครั้งเวลาที่เราดูยูทูปเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของคนดัง หรือผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ เราอาจจะไม่ต้องทำตามแบบเขาร้อยเปอร์เซ็น แต่สามารถนำวิธีการมาปรับให้เข้ากับร่างกายของตัวเอง

ก่อนที่คุณแฮงค์จะเผยเคล็ดลับการดูแลสุขภาพด้วยการกินว่า “จริงๆ ตัวเองชื่นชอบการกินชีส และข้าวขาหมูมาก ๆ แต่ก็ต้องยอมหักดิบ เลิกกินไปเลย พอเราบังคับใจตัวเองได้ระยะหนึ่ง ร่างกายของเราจะคุ้นชินตามไปด้วย อีกหนึ่งอย่างที่พยายามลดคือ ‘น้ำตาล’ เพราะถือเป็นตัวการทำให้ผิวเหี่ยว และยังเป็นอาหารชั้นเยี่ยมของมะเร็ง และละเว้นการกินข้าวขาว แต่เปลี่ยนไปกินข้าวกล้อง หรือข้าวซ้อมมือแทน กินผักเป็นประจำ เมนูอาหารส่วนใหญ่เน้นผ่านกระบวนการปรุงให้น้อยที่สุด และย้ำกับตัวเองเสมอว่า อย่าลืมพาตัวเองไปอยู่ในที่ที่มีแต่คนที่สนใจและใส่ใจดูแลสุขภาพเหมือนกับเรา นอกจากจะเป็นการสร้างบรรยากาศแห่งแรงกระตุ้นแล้ว ยังถือเป็นการแลกเปลี่ยนไอเดียต่าง ๆ อีกด้วย”
จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว
หากจะบอกว่า ‘การออกกำลังกาย’ เป็นประโยคง่าย ๆ ที่หลายคนทำได้ยากก็ไม่แปลกเลย คุณแฮงค์แชร์เหตุผล ด้วยบางคนไม่มีแรงบันดาลใจ “เราอาจจะเริ่มต้นลองหาแรงบันดาลใจให้ตัวเองก่อนครับ ส่วนตัวผมชอบถ่ายรูป ชอบเที่ยวทะเล ดังนั้นต้องคิดแล้วว่า จะทำยังไงให้มีหุ่นดูดี มีซิกแพค เพื่อจะได้ถ่ายรูปออกมาเท่ ๆ หรือบางครั้งที่รู้สึกเบื่อ ต้องพยายามหาความท้าทายใหม่ๆ จัดระเบียบความคิด สร้างพลังบวกให้กับตัวเองเยอะ ๆ แล้วทุกอย่างจะเริ่มต้นได้เอง และหมั่นศึกษาหาข้อมูลและวิธีการที่ถูกต้อง ยกตัวอย่างบางคนบอกว่าก็ออกกำลังกายสม่ำเสมอนะ แต่เป็นการเคลื่อนไหวร่างกายที่ไม่มีเหงื่อเลย ร่างกายจึงไม่เกิดการเผาพลาญ ก็ทำให้ไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง

“ก่อนหน้านี้ตัวเองออกกำลังกายที่บ้านไปเรื่อย ๆ ไม่ได้โฟกัสอะไร แค่คิดว่าต้องดูแลสุขภาพ แต่พอเริ่มมาปั่นจักรยานที่สนามปั่นจักรยานเจริญสุขมงคลจิต โค้ชก็สอนการสังเกตมัดกล้ามเนื้อของตัวเอง ซึ่งเหมือนว่าเราได้ทำสมาธิไปในตัวด้วย เวลาเราโฟกัสกล้ามเนื้อในแต่ละส่วนของร่างกาย และทำให้เราเห็นผลจริง ๆ ว่ากล้ามเนื้อทุกส่วนค่อย ๆ แข็งแรงขึ้น และไม่เคยคิดว่าจะสามารถปั่นจักรยานได้ครบรอบสนามเลย”
นอกจากนี้ คุณแฮงค์ – พงศกร เอี่ยมองค์ ยังเผยถึงความสนุกด้วยว่า “ทุกครั้งที่ไปออกกำลังกาย เราจะรู้สึกสนุกกับการได้แต่งตัวลุคสปอร์ต ได้ครีเอทมิกซ์ แอนด์ แมทช์ สไตล์ที่เป็นตัวเรา เรียกว่าสุขภาพดี แฟชั่นก็ต้องเริ่ดด้วย”

และอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้คุณแฮงค์ดูสดใสจากภายในสู่ภายนอกอย่างเห็นได้ชัดเจน “ตอนเด็ก ๆ คุณแม่จะสอนผมเสมอว่า เวลาตื่นขึ้นมา ให้ลองส่องกระจกและชื่นชมตัวเอง ยิ้มให้กับตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมก็ทำมาตลอด จนตอนนี้อายุเลข 5 แล้ว ก็ยังยิ้มให้ตัวเองทุก ๆ เช้า ครั้งแรกเราอาจจะเขิน ๆ แต่พอเราทำบ่อยครั้ง เราจะรู้สึกดีมาจากข้างใน หลายคนอาจจะมองว่า ‘ตลก’ แต่เป็นหลักการที่ได้ผลจริง ทุก ๆ ครั้งที่เรายิ้มให้กับตัวเอง เหมือนเราได้รับพลังบวก ทำให้ทั้งวันเรามีพลังงานดีๆ ในการใช้ชีวิต รวมไปถึงการบอกรักคนรอบข้าง บอกรักสัตว์เลี้ยง ก็เติมเต็มความรู้สึกดี ๆ ให้เราได้อีกด้วย”