น้ำหนักส่วนเกินอาจเป็นผลข้างเคียงตกค้างจากเทศกาลเฉลิมฉลอง แต่หากเดินตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญที่จะมาแนะว่าควรกิน ดื่ม และฉลองอย่างไรโดยไม่ต้องแบกน้ำหนักส่วนเกินไปถึงปีใหม่ด้วย ก็จะ ฉลองคริสต์มาส ได้อย่างแฮปปี้
ฉลองคริสต์มาส อย่างมีสุขภาพดี
ในบรรดาข้าวของที่คุณอยากได้เป็นของขวัญคริสต์มาส เราคิดว่าน้ำหนักส่วนเกินคงไม่ติดอยู่ในลิสต์แน่ๆ แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อมนุษย์คนเดียวสามารถสวาปามได้ถึง 6,000 แคลอรีเฉพาะแค่คริสต์มาสวันเดียว ยังไม่นับอีก 500 แคลอรีต่อวันที่คุณบริโภคทั้งของกินเล่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และมื้อฉลองทั้งหลายในช่วงเทศกาลนี้ ท้ายที่สุดคุณจะพบว่าตัวเองได้น้ำหนักเพิ่มขึ้นมา 2 กิโลกรัมอย่างง่ายดายแค่ช่วงคริสต์มาสถึงปีใหม่
ด้วยรักและห่วงใย HELLO! จึงสอบถามผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมโภชนศาสตร์แห่งประเทศอังกฤษถึงวิธีการหลีกเลี่ยงกับดักแคลอรี อ่านบรรทัดต่อไปให้ดีเพราะต่อไปนี้คือสิ่งเล็กๆ ที่คุณควรทำเพิ่มถ้าอยากมีสุขภาพดีตลอดรอดฝั่งในเทศกาลเฉลิมฉลองนี้
• วางแผนการกิน ถ้ารู้ตัวว่าต้องออกไปกินมื้อค่ำชุดใหญ่วันไหน ก่อนหน้านั้นหนึ่งวันให้ซอยอาหารเป็นมื้อเล็กๆ ตลอดวัน และวันต่อมาให้งดขนมและของกินเล่นไปเลย
• กินรองท้อง อย่าโดนอาหารที่อุดมไปด้วยไขมันยั่วให้คุณตบะแตกง่ายๆ วิธีการสงบจิตที่ดีก็คือให้กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพรองท้องไปก่อนจะประเดิมมื้อใหญ่จัดเต็ม เช่น ผัก ซุปถั่ว ฮัมมูสกับเค้กข้าวโอ๊ต ผลไม้สดและสมูทตี้โยเกิร์ต เคล็ดลับพิเศษคืออย่าดื่มแอลกอฮอล์ตอนท้องว่างเด็ดขาด จะได้เมาค้างน้อยลงหน่อยในวันรุ่งขึ้น
• ไม่ดู ไม่รู้ ไม่เห็น เปิดกล่องขนม เช่น ช็อกโกแลต ทีละกล่องแล้วกินให้หมดเป็นกล่องๆ ไป อย่าแกะทีละ 5 กล่อง ชิมขนม 5 อย่างในคราวเดียวกัน กล่องที่ยังไม่ได้แกะก็ไปเก็บให้ไกลหูไกลตา เมื่อไม่เห็นก็ไม่อยากกิน
• กินบุฟเฟต์อย่างมีกลยุทธ์ ถ้ามีกินเลี้ยงแบบบุฟเฟต์ ให้เดินไปตักแค่ครั้งเดียวและใช้จานของหวานแทนจานอาหาร หลีกเลี่ยงอาหารไขมันท่วมจำพวกโรลไส้กรอกและคีช (ที่มีทั้งไข่ นม ครีม) ให้ตักแต่ผลไม้ ไก่แบบไม่เอาหนังและผักต่างๆ ทั้งผักสดหรือผักลวกก็ได้
• จับจ่ายอย่างชาญฉลาด เมื่อต้องไปจับจ่ายของกิน ควรทำรายการที่ต้องซื้อและอย่าได้หวั่นไหวออกนอกลิสต์เด็ดขาด ให้ซื้อแต่อาหารที่จำเป็นและอย่าเดินเฉียดไปแถวซุ้มของกินคริสต์มาส ถ้าโหยขนมหน้าเทศกาลจริงๆ กินได้จำพวกป๊อปคอร์น เพรตเซล หรือผักสด ผักลวก กินกับน้ำจิ้มไขมันต่ำ
• วิธีสั่งอาหารเรียกน้ำย่อย เลือกสั่งอาหารเรียกน้ำย่อยหรือสตาร์ทเตอร์ที่ดีต่อสุขภาพ เช่น แซลมอนรมควันที่ อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งช่วยให้หัวใจแข็งแรง หรือทางเลือกอื่นก็เช่นซุปผักที่เป็นส่วนเสริม นอกจากสูตรการกินผักและผลไม้ 5 อย่างต่อวันตามหลักโภชนาการ
• กำจัดหนังไก่ ในเทศกาลคริสต์มาส อาหารสำคัญหนีไม่พ้นไก่งวงที่เป็นแหล่งโปรตีนและเนื้อสัตว์ไขมันต่ำ ทว่าไขมันส่วนใหญ่ในไก่งวงอยู่ที่หนัง ดังนั้นก่อนกินให้ลอกหนังออกเสียก่อนจะได้กินอย่างสบายใจ
• จัดสัดส่วนในจาน อย่างน้อยพื้นที่ 1 ใน 3 ของจานอาหารของคุณควรจะเป็นผักชนิดต่างๆ เช่น กะหล่ำดาว ถั่ว และแคร์รอตแบบไม่ผัดเนย และใช้เวลาปรุงให้น้อยที่สุด ใส่น้ำให้น้อยที่สุด หรือเอาไปนึ่งหรือใส่ไมโครเวฟเพื่อรักษาคุณค่าสารอาหารให้ได้มากที่สุด ผักที่เหลือจากมื้ออาหารยังเอามาทำซุปอร่อยต่อได้อีก ซึ่งมีสารอาหารดีๆ เต็มเพียบและยังช่วยไม่ให้คุณโหยของกินเล่นระหว่างมื้ออีกด้วย
• จัดการหมูให้อยู่หมัด ถ้าขอบไหม้ๆ คือจุดอ่อนของคุณ แทนที่จะเอาเบค่อนพันไส้กรอกไปทอด ให้เปลี่ยนไปย่างหรือปิ้งไปกับเนื้อวัวแทน วิธีนี้คุณจะกำจัดไขมันส่วนเกินออกไปได้
• เลือกมันฝรั่ง ลองกินมันฝรั่งอบแบบแห้งบนแผ่นรองอบแบบไม่ติดกับผิวอาหาร (จึงไม่ต้องทาเนย) หรือใช้วิธีพ่นไฟ หรือถ้าอยากให้เนื้อเนียนนุ่ม แทนที่จะทาด้วยไขมันห่าน ก็เปลี่ยนไปทาน้ำมันแทน และควรหั่นมันฝรั่งชิ้นใหญ่เข้าไว้ จะช่วยดูดซับไขมันน้อยลงได้
• ระวังปริมาณแอลกอฮอล์ คนส่วนใหญ่มีแนวโน้มว่าจะดื่มมากขึ้นในช่วงคริสต์มาส แต่พึงระลึกไว้ด้วยว่าแอลกอฮอล์ให้พลังงานเข้มข้นมากถึง 7 แคลอรีต่อ 1 กรัม เกือบจะเท่าๆ กับไขมันเลยทีเดียว สิ่งที่คุณควรเลี่ยงอย่างยิ่งก็คือค็อกเทลหวานๆ ทั้งหลาย เหล้าที่มีส่วนผสมหลักเป็นครีมและมิกเซอร์ที่ใส่น้ำตาลเป็นทัพพี ทางเลือกอื่นก็คือดื่มแอลกอฮอล์แล้วตามด้วยน้ำเปล่า 1 แก้ว หรือเลือกเครื่องดื่มที่ไม่มีแคลอรี หากว่าคุณชอบเครื่องดื่มที่ใส่มิกเซอร์ด้วยละก็ ให้เปลี่ยนเป็นโซดาแบบแคลอรีต่ำหรือน้ำผลไม้ที่ไม่ใส่สารเพิ่มความหวาน สุดท้ายคือดูขนาดของแก้วเป็นสำคัญ เห็นแก้วใหญ่ให้วางทันทีเพื่อสุขภาพที่ดี
• จับคู่ขนม คริสต์มาสทั้งที หลายบ้านจึงเต็มไปด้วยกล่องขนม ทั้งกล่องช็อกโกแลตและกล่องบิสกิตกองเป็นภูเขา คุณจำกัดปริมาณขนมสุดอร่อยเหล่านี้ในวิธีที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น เช่น กินขนมกับส้มซัทสึมะ หรือกินกับผลไม้แห้ง มะเดื่อ หรือถั่วสักจาน
อ่านคำแนะนำเพิ่มเติมเรื่องการกินที่ดีต่อสุขภาพจากสมาคมโภชนศาสตร์แห่งประเทศอังกฤษได้ที่ bda.uk.com