การเปลี่ยนแปลง 7 ครั้งผ่านบทหนังของ ‘คริสเตน สจ๊วร์ต’ ที่พิสูจน์แล้วว่าเธอคือตัวจริง!
หนึ่งในนักแสดงหญิงอายุน้อยทว่ามากความสามารถของวงการฮอลลีวูด Kristen Stewart (คริสเตน สจ๊วร์ต) เรียกว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักเธอคนนี้อย่างแน่นอน เธอก้าวเข้าวงการภาพยนตร์ตั้งแต่อายุยังน้อย และสร้างชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกอย่างรวดเร็วจากบทบาท เบลล่า ในภาพยนตร์ Twilight ซึ่งจบลงอย่างสมบูรณ์ในปี 2011 เวลาล่วงเลยผ่านไปครบ 10 ปีเธอก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมเป็นครั้งแรก จากภาพยนตร์ Spencer ที่ออกฉายในปีที่ผ่านมา เราเลยอยากพาทุกคนย้อนทามไลน์ชมการเปลี่ยนแปลง 10 ครั้งของสาวคริสเตนบนหน้าจอภาพยนตร์อีกครั้ง เพื่อพิสูจน์ว่าเธอนี่แหละคือของจริง!

บทแจ้งเกิดของสาวคริสเตนที่ทำให้เธอโด่งดังไปทั่วโลกก็คือ ‘เบลล่า’ ในภาพยนตร์เรื่อง Twilight ที่มีทั้งหมด 3 ภาคด้วยกัน (ภาคสุดท้ายแบ่งทำเป็นภาพยนตร์ 2 ตอน) สำหรับบทบาทเบลล่าแล้วถูกวางคาแรคเตอร์ให้เป็นสาวสวยน่ารักธรรมดา ไม่ได้มีความหวือหวาฉูดฉาดมากมาย ทั้งยังเปี่ยมด้วยความจริงใจและใสซื่อ ซึ่งคริสเตนในขณะนั้นมีอายุ 17 ปี กำลังฉายแววสวยสดใส เครื่องหน้าคมชัดตัดกับผมสีน้ำตาลที่เธอย้อมจากสีบลอนด์หม่นธรรมชาติให้เข้มขึ้นเพื่อดูเป็นเด็กสาวแรกรุ่นธรรมดาทั่วไปนั่นเอง
Camp X-Ray (2014)

ถัดมาในปี 2014 เธอก็ฉีกบทหวานใสจากคาแรคเตอร์นางเอกของภาพยนตร์วัยรุ่น Twilight สู่บทบาท ทหารหญิง ในหนังเรื่อง Camp X-Ray ที่รับหน้าที่เป็นผู้คุมนักโทษในค่ายกักกันนักโทษ นอกจากจะท้าทายฝีมือด้วยการมาเล่นภาพยนตร์แนวดราม่าเคร่งเครียดแล้ว ยังพลิกโฉมจาก เบลล่า ผู้กุมหัวใจเอ็ดเวิร์ด สู่ทหารหญิงสุดแกร่ง เธอยังคงย้อมผมสีน้ำตาลเข้มเช่นเดิม แต่ตลอดทั้งเรื่องนี้เราจะได้เห็นคริสเตนสวมใส่แต่ชุดเครื่องแบบทหาร และมัดผมรวมตึงเป็นมวยที่ท้ายทอย เรียกว่าสลัดลุคสาวน่ารักข้างบ้านแบบเบลล่าทิ้งไปอย่างสิ้นเชิง
American Ultra (2015)

ในปีต่อมา Kristen Stewart ก็ได้ฉีกลุคอีกครั้งในภาพยนตร์แอคชั่นคอเมดี้เรื่อง American Ultra มารับบทแฟนสาวหัวขบถผมแดงสีแดงแรงฤทธิ์ ประกบคู่กับนักแสดงชื่อดังอย่าง เจสซี่ ไอเซนเบิร์ก ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นการลงสนามสู่วงการหนังแอคชั่นตลกครั้งแรกของคริสเตนเลยก็ว่าได้
Cafe Society (2016)

ดูเหมือนว่าเคมีระหว่าง เจสซี่ ไอเซนเบิร์ก และ คริสเตน สจ๊วร์ต จะเข้ากันได้ดีถูกใจผู้กำกับชื่อดังอย่าง วู้ดดี้ อัลเลน ทำให้ในปี 2016 เราได้เห็นทั้งสองคนรับภาพยนตร์คู่กันอีกครั้งในเรื่อง Cafe Society หนังโรแมนติกคอเมดี้ตามฉบับ วู้ดดี้ อัลเลน ซึ่งนอกจากนี่จะเป็นครั้งแรกที่เธอตัดสินใจหั่นผมสั้นออกสื่อแล้ว ยังเป็นครั้งแรกที่เธอรับเล่นบทย้อนยุคกลับไปยังช่วงปี 1930 ทำให้เราได้เห็นคริสเตนในชุดเดรสโทนสีพาสเทล สวมที่คาดผมให้ลุคอ่อนหวานอีกด้วย
Charlie’s Angels (2019)

และในปี 2019 Kristen Stewart ก็ฉีกลุคเดิมๆ ของตัวเองทิ้งให้แฟนคลับทึ่งกันอีกครั้ง โดยนักแสดงสาวปรากฏตัวบนหน้าจอภาพยนตร์รีเมกเรื่อง Charlie’s Angels หรือที่คนไทยรู้จักกันดีภายใต้ชื่อ นางฟ้าชาร์ลี ซึ่งคาแรคเตอร์ที่คริสเตนได้รับนั้นทลายทุกภาพเดิมๆ ที่เรามีต่อนางฟ้าชาร์ลีไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นการแต่งหน้าแต่งตัวสไตล์พังก์ร็อค ไปจนถึงการตัดผมซอยสั้นให้ลุคห้าวเท่ ไม่แปลกใจเลยที่คริสเตนจะมีฐานแฟนคลับสาวๆ เพิ่มขึ้นมากมาย
Underwater (2020)

ดูเหมือนว่าคริสเตนจะชื่นชอบรับบทที่แปลกใหม่และท้าทายขีดความสามารถการเป็นนักแสดงของตัวเองอยู่เสมอ เพราะในปีถัดมาเธอลงทุนตัดผมเกรียนสั้นสลัดลุคสวยมาลุยเอาชีวิตรอดในภาพยนตร์เรื่อง Underwater ที่เล่าเรื่องราวของทีมนักสำรวจที่ลงไปปฏิบัติภารกิจใต้มหาสมุทรลึกกว่า 7 ไมล์ (ประมาณ 11 กิโลเมตร) และเป็นอีกครั้งที่เธอแสดงภาพยนตร์แนวไซไฟ-ระทึกขวัญออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม

ในปี 2021 ที่ผ่านมา นับว่าครบรอบทศวรรษที่เธอกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจากบทบาท เบลล่า ในภาพยนตร์ Twilight จากวันนั้นสู่วันนี้เธอก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในที่สุด ซึ่งเธอก็ได้ทุ่มเทโชว์ฝีมือการแสดงเต็มขั้นไปในภาพยนตร์ชีวประวัติ ไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์ เรื่องล่าสุดอย่าง Spencer และได้รับเสียงชื่นชมจากเหล่านักวิจารณ์มากมาย รวมถึงอดีตองครักษ์ของเจ้าหญิงไดอาน่ายังออกมาชื่นชมเธออีกด้วยว่า คริสเตนคือคนที่แสดงได้เหมือนเจ้าหญิงแห่งเวลส์มากที่สุด แม้แต่อากัปกิริยาเล็กๆ น้อยๆ ก็เลียนแบบได้เหมือนเป๊ะ
ใครที่ชื่นชอบภาพยนตร์เรื่อง Spencer และอยากรู้เรื่องราวที่ภาพยนตร์พยายามบอกเล่า สามารถไปติดตามอ่านได้ที่ บทความนี้
ส่วนใครที่เป็นแฟนคลับของ Kristen Stewart ต้องบอกเลยว่าทุกคนน่าจะภูมิใจกับพัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงตนเอง ทุ่มเทให้กับบทบาทในภาพยนตร์ของเธอเป็นอย่างมาก จากบทนางเอกหนังรักวัยรุ่นสไตล์สาวสวยข้างบ้าน ฉีกลุคตัวเองนับครั้งไม่ถ้วนไม่ว่าจะเป็นการย้อมผม ลดน้ำหนัก ไปจนถึงตัดผมสั้นเกรียน สู่การเป็นเจ้าหญิงไดอาน่าที่ได้รับเสียงชื่นชมมากที่สุดคนหนึ่งแห่งยุค หลังจากนี้เราคงต้องรอติดตามลุ้นกันต่อไปว่าคริสเตนจะพลิกโฉมฉีกลุคมาให้แฟนๆ ได้ทึ่งกันอีกหรือไม่
และใครที่กำลังเชียร์ให้คริสเตนคว้ารางวัลออสการ์แรกกลับบ้านในปีนี้ สามารถไปติดตามอ่านเกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับ ออสการ์ 2022 ที่จะทำให้คุณลุ้นผลประกาศรางวัลสนุกขึ้นกว่าเดิมได้ที่ บทความนี้
ข้อมูล : Insider / รูปภาพ : IMDb , Netflix and Letterboxd