บางครั้งการใช้สมอง และร่างกายของมนุษย์ไม่ได้เชื่อมต่อไปในทิศทางเดียวกัน เช่น ออกกำลังกายอย่างหนักแต่ยังรู้สึกเครียดและกังวล หรือไม่มีเรื่องวิตกกังวลแต่กลับนอนไม่หลับ ความตรงกันข้ามเหล่านี้คือภาวะไม่เชื่อมต่อที่เกิดขึ้นบ่อยกับคนเมืองที่อยู่กับความเร่งรีบใช้งานสมองอย่างหนักจนเคยชิน ศาสตร์โยคะเชื่อมต่อร่างกาย จิตใจให้สมดุล
เมื่อไม่นานมานี้ HELLO! พบวิธีการเชื่อมต่อร่างกาย ความคิด ประสาทสัมผัสเข้าด้วยกันได้รวดเร็วอย่างน่าประหลาดใจ ด้วยคำแนะนำของ ‘ซันเดอร์ทา ชี คอร์’ ผู้เชี่ยวชาญด้านกุณฑลินีโยคะ ที่ร่วมเปิดคอร์สผ่อนคลายร่างกาย จิตใจ ด้วยศาสตร์การใช้ลมหายใจอย่างถูกต้อง ภายในโรงแรม เดอะ สยาม อันเลื่องชื่อว่าสวยงาม และสงบด้วยบรรดางานศิลปะหายาก เหมาะกับการพักผ่อนคลายจิตใจ ตามที่ทราบกันทุกครั้งเมื่อเข้าคลาสโยคะผู้สอนจะพยายามให้เรากำหนดลมหายใจเพื่อเกิดสมาธิและปรับสมดุลในร่างกาย แต่ด้วยการออกกำลังควบคู่อาจทำให้ผู้เล่นจับโฟกัสไปที่การใช้กล้ามเนื้อมากกว่า ผลที่ตามมาคือร่างกายได้ยืดเหยียดแต่ไม่มีสมาธิ ดังนั้นกุณฑลินี โยคะ (Kundalini ) ในแบบฉบับคุณซันเดอร์ทาจึงเน้นไปที่การบำรุงจิตใจ ไม่ใช่บริหารร่างกาย คีย์หลักคือการกำหนดจิตช้าๆ ใช้การหายใจและเสียงปรับจูนให้การทำงานของร่างกายผนวกกับจิตใจได้ลงตัว
เราเริ่มคอร์สเป็นกรุ๊ปด้วยการพูดคุยกันอย่างเป็นกันเอง ในบรรยากาศผ่อนคลาย สลับกับคำแนะนำให้นั่งหลังตรง ยืดอก และกำหนดลมหายใจเข้า-ออก ช้าๆ เป็นการปลดปล่อยความวิตกกังวล คุณซันเดอร์ทา บอกว่าเธอพบเห็นหนุ่มสาว นั่งก้มหน้าก้มตา หลังงอโดยไม่รู้ตัวว่าบุคคลิกแบบนี้คือภาวะของคนวิตกกังวล ไม่มีพลังในการทำงาน วิธีผ่อนคลายง่ายที่สุดคือการยืดหลังตรงและหายใจเข้า-ออก ลึกๆ ติดตามการเดินทางของลมหายใจตั้งแต่ปลายจมูกไล่ลงไปที่ปอด กระบังลม หน้าท้อง ก่อนปล่อยลมหายใจให้ช้าและยาวระบายความตึงเครียดออกจากศรีษะ
เมื่อรู้สึกตื่นตัว และปลอดโปร่ง ให้ฝึกการหายใจด้วยจมูกทีละข้างใช้หัวแม่มือปิดจมูกข้างใดข้างหนึ่งแล้วหายใจเข้าออกจังหวะเดิม ทำสลับข้างไปเรื่อยๆ ก่อนเข้าสู่สเต็ปที่สาม คือการหายใจเข้าด้วยรูจมูกข้างเดียวและหายใจออกผ่านรูจมูกอีกข้าง โดยใช้นิ้วโป้ง และนิ้วก้อยสลับกันปิดรูจมูก ขั้นตอนนี้จะช่วยสร้างสมาธิ กำหนดจิตให้อยู่ ณ ปัจจุบัน เมื่ออ็อกซิเจนเข้าสู่ร่างกายเต็มที่ความสบายทั้งกาย และใจ ก็ปรากฎกับตัวเองอย่างน่าประหลาด เราปิดท้ายด้วยการปล่อยหลายๆ เรื่องที่แบกไว้ด้วยการเปล่งเสียงโทนต่ำ ช้า และทอดยาว ให้พลังงานด้านลบเคลื่อนออกจากร่างกายช้าๆ


อีกหนึ่งวิธีการผ่อนคลายของ คุณซันเดอร์ทา คือเทคนิคการนวดด้วยกลิ่นหอมและการสัมผัสเบาๆ เธอสังเกตว่าบางครั้งคนเราจะรู้สึกดีมากเมื่อโดนฝนเบาๆ ผ่านตัว บวกกับกลิ่นไอดินทำให้รู้สึกสดชื่นผ่อนคลาย การนวดแบบ เรน ดร๊อป (raindrop technique) เน้นการสัมผัสจากปลายนิ้ว จึงเป็นทรีตเมนต์บำบัดที่เเหมาะกับคนเมืองมากที่สุด โดยจะเน้นการสัมผัสกดจุดบริเวณเส้นประสาทสัมผัสต่างๆ ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บ โดยเฉพาะฝ่าเท้าอันเป็นจุดศูนย์รวมเส้นประสาท และแนวกระดูกสันหลังเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต สลับกับการฟังเสียงจากเครื่องดนตรีโทนเสียงก้องกังวาล ให้เกิดการปลดปล่อยความเครียด รู้สึกเป็นอิสระ คุณซันเดอร์ทา แนะนำว่าหลังการนวดไม่ต้องอาบน้ำในทันที ควรให้น้ำมันได้ซึมซับลงไปใต้ผิวหนังและหายใจเข้า-ออก สูดกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยออร์แกนิคสกัดจากพืชเพิ่มพลังธรรมชาติให้ร่างกายเกิดความสมดุลมากขึ้น

สำหรับคนที่ต้องการขยับร่างกาย ยืดเหยียดให้สมดุล ซันเดอร์ทา แนะนำให้เคลื่อนไหวแบบ Siu Lum Qi Gong ด้วยท่าทางจากศิลปะต่อสู้ตามภูมิปัญญาจีนโบราณ ทั้งช่วยบริหารกล้ามเนื้อที่บกพร่อง และเป็นศิลปะการป้องกันตัว ด้วยการให้ท่อนไม้ไผ่ช่วยการยืดเหยียด ไม่มีแรงกระแทกเหมาะสำหรับทุกคนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ การฝึกท่าทางเหล่าเหล่านี้ช่วยให้เราจัดระเบียบร่างกาย เพิ่มความกระตือรือร้น เพิ่มสมาธิจากการหายใจและเคลื่อนไหวช้าๆ สร้างความเชื่อมโยงหรือความเป็นหนึ่งเดียวในชีวิตและในทุกๆ ด้านของตนเอง

…………………………………………………………………………..
ร่วมฝึกสมาธิ ปลดปล่อยความวิตกกังวล พร้อมสร้างสมดุลความสุขทั้งกายและใจ ไปกับเวิร์คช็อปและทรีตเมนต์สุดพิเศษ กับคุณซันเดอร์ทา ได้ ที่ โรงแรมเดอะ สยาม (The Siam Hotel) ตลอดเดือนพฤษภาคมนี้ ติดตามตารางเวลาได้ที่ www.thesiamhotel.com หรือ โทร.02-206-6999 , E-mail: spa@thesiamhotel.com