‘นาโนรีเลกซ์ เคลียร์’ มิติใหม่ของการทำเลสิกใช้เวลาพักฟื้นเพียง 1 วัน

ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ ทำให้ ‘ปัญหาสายตา’ กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวของคนในยุคปัจจุบัน ซึ่งช่วงหลายปีที่ผ่านมามีหลายคนที่พึ่งพาเทคโนโลยีทางด้านจักษุแพทย์อย่างการทำ ‘เลสิก’ (Lesik) หรือการผ่าตัดแก้ไขภาวะสายตาผิดปกติด้วยแสงเลเซอร์ และล่าสุดประเทศไทยมีการนำ เทคโนโลยี ‘นาโนรีเลกซ์ เคลียร์’ (NanoRelex® CLEAR) เทคโนโลยีการผ่าตัดแผลเล็กระดับนาโน ใช้ระยะเวลาผ่าตัดน้อย มาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้มีปัญหาภาวะสายตาผิดปกติรักษาให้กลับมามองโลกสดใสได้ในเวลารวดเร็ว

ในฐานะผู้นำเข้าเทคโนโลยีนาโนรีเลกซ์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในเมืองไทย เลเซอร์วิชั่น จึงจัดงานแนะนำเทคโนโลยี ‘นาโนรีเลกซ์ เคลียร์’ โดยมีเหล่าเซเลบริตี้ อาทิ คุณมุก – ม.ล.รดีเทพ เทวกุล, คุณโอบอุ้ม – รัสรินทร์ ชุมสาย ณ อยุธยา, คุณติ๊ก – อภิภาวดี สนิทวงศ์ ณ อยุธยา และ คุณก้อย – ฐิตินันท์ เกียรติไพบูลย์ ร่วมสัมผัสนวัตกรรมใหม่กันอย่างคึกคัก ณ อาคารเลเซอร์วิชั่น นอกจากนี้ยังมี ‘รศ.นพ.อนันต์ วงศ์ทองศรี’ ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ และจักษุแพทย์ประจำศูนย์เลเซอร์วิชั่น มาให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพสายตาพร้อมแนะนำเทคโนโลยีนาโนรีเลกซ์ เคลียร์ ให้คนไทยรู้จักมากขึ้น

ต้นเหตุปัญหาสายตา สั้น เอียง ยาว

รศ.นพ.อนันต์ เริ่มให้ความรู้เข้าใจง่าย ๆ ว่า “สาเหตุสายตาสั้น ยาว เอียงเกิดจาก 3 สาเหตุหลัก คือ 1. เป็นไปตามธรรมชาติ คือสายตาเสื่อมไปตามวัย ผู้ที่มีอายุประมาณ 40 ปีขึ้นไป มักจะประสบกับปัญหา “สายตายาวตามอายุ” 2. กรรมพันธุ์ พ่อแม่สั้นลูกก็อาจจะสั้นด้วยแต่ก็ไม่แน่ชัดเสมอไป และ 3. เป็นข้อที่ก่อปัญหาให้คนยุคนี้มาก คือ สภาวะแวดล้อม ใช้ชีวิตอยู่กับสมาร์ทโฟน หน้าจอคอมพ์ จะเห็นว่ายุคโควิดที่มีเวิร์คฟอร์มโฮม เรียนออนไลน์  ทำให้ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ต้องใช้ชีวิตหน้าจอกันมากขึ้น ซึ่งส่งผลเสียต่อสายตาเด็กยุคนี้ใส่แว่นกันมากกว่าคนยุคก่อน ปัญหาสายตาสั้น เอียง พบมากขึ้น และเมื่อถึงวัย ประมาณ 40 ก็จะพบกับปัญหาสายตายาวตามมาอีก

การแก้ไขปัญหาสายตาในปัจจุบัน

คุณหมอผู้มีประสบการณ์ฐานะจักษุแพทย์ อธิบายว่า “การรักษามี 2 วิธี คือ วิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดและง่ายที่สุดคือใส่แว่น คอนแทคเลนส์ และวิธีผ่าตัด โดยแสงเลเซอร์ ซึ่งแพทย์ไทยสะสมความเชี่ยวชาญกันมากว่า 20 ปีแล้ว มีการพัฒนาทั้งฝีมือแพทย์ และเทคโนโลยีการผ่าตัดแก้ไขสายตาสั้น และสายตาเอียง ด้วยแสงเลเซอร์ที่เรียกว่า Femtosecond Laser ลดภาวะแทรกซ้อนบางประการได้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีเลสิกแบบเดิม นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมล่าสุด นาโนรีเลกซ์ เคลียร์-NanoRelex® CLEAR ซึ่งเป็นทางเลือกทันสมัยที่สุดของการรักษาสายตาผิดปกติด้วยเลเซอร์”

ทำไมการทำเลสิกถึงได้รับความนิยมมากขึ้น

“การใส่แว่นใส่คอนแทคเลนส์เป็นการรักษาไม่ถาวร ถอดแว่นสายตาออกก็สั้นเหมือนเดิม แต่การรักษาถาวรคือ การรักษาสายตาด้วยแสงเลเซอร์ที่เป็นที่นิยมในบ้านเรามานานแล้ว เพราะรักษาได้หายได้ทั้งสายตาสั้น เอียง ยาว ช่วยแก้ปัญหาให้คนที่ไม่อยากสวมแว่นอีกต่อไปแล้ว เพราะไม่สะดวกต่อการใช้ชีวิต อาชีพการงาน มีความยากลำบากในการใช้ชีวิตประจำวัน แว่นมีรอยขูดขีดต้องเปลี่ยนกันบ่อย ๆ ทุกปี หรือไม่อยากใส่คอนแทคเลนส์เพราะปัญหาตาอักเสบตามมา ทั้งตาแห้ง แดง เคือง ปัญหาเหล่านี้มีคนไข้มาปรึกษาหมอตลอดเวลา คอนแทคเลนส์มีเคสรุนแรงตาติดเชื้อจนต้องเปลี่ยนกระจกตาก็มีมาแล้วนะครับ เทคโนโลยีจึงเป็นสิ่งที่มาช่วยแก้ปัญหาคนไม่อยากสวมแว่น ไม่ใส่คอนแทคเลนส์”

การรักษาด้วยเลสิกมีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน

“หลายคนมาปรึกษาหมอว่ายิงเลเซอร์น่ากลัวหรือไม่ การผ่าตัดวิธีนี้มีโอกาสตาบอดได้หรือไม่ คำตอบของหมอก็คือถ้าคุณกล้าใส่คอนแทคเลนส์ ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะกลัวเลเซอร์ ที่หมอเล่าไปนะครับว่าคนใส่เลนส์ถ้าดูแลความสะอาดไม่ดีก็ทำให้ตาอักเสบจนต้องเปลี่ยนกระจกตาได้ แต่หมอก็เข้าใจคนไข้นะครับว่า คำว่าผ่าตัดดูน่ากลัว แต่นี่เป็นวิธีการผ่าตัดแบบไร้ใบมีดโดยสิ้นเชิง ถ้าเราศึกษาข้อมูลนวัตกรรมที่เราสนใจว่ามีข้อดี ข้อด้อย เหมาะกับเราอย่างไร เลือกศูนย์รักษาสายตาที่มีแพทย์เชี่ยวชาญ ไม่มีอะไรน่ากลัวเลย”

เทคโนโลยีนาโนรีเลกซ์ เคลียร์คืออะไร

คุณหมออนันต์ แนะนำเทคโนโลยีใหม่ให้ฟังเพิ่มเติมว่า “เป็นการพัฒนาต่อยอดมาจากเลเซอร์รุ่นแรก ๆ โดยจักษุแพทย์จะใช้เลเซอร์พลังงานต่ำระดับนาโนการดีไซน์เลนส์ 3 มิติในชั้นกระจกตาเพื่อปรับการหักเหของแสงแล้วนำเลนส์ออกมาผ่านช่องขนาดเล็กเพียง 2-4 มิลลิเมตรนี้คือนวัตกรรมล่าสุดเพิ่มความแม่นยำสูงมาก ‘นาโนรีเลกซ์ เคลียร์’ ช่วยลดการเคลื่อนของกระจกตาหลังผ่าตัดวิธีเลเซอร์แบบเดิม ไม่ต้องกังวลเรื่องภาวะแทรกซ้อนจากการแยกชั้นฝากระจกตา ใช้พลังงานน้อยระดับนาโน จึงเป็นการรักษาที่อ่อนโยนต่อดวงตา ทำให้รู้สึกสบายตามากขึ้น การดูแลหลังทำเลสิกชนิดใหม่ใช้ระยะเวลาพักฟื้นเพียง 1 วันเท่านั้น ก็จะช่วย ลดปัญหาจุกจิกจากการใช้แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ เป็นความสะดวกระยะยาว”

การดูแลถนอมสายตา

เพราะอะไรคนยุคนี้มีปัญหาเรื่องสายตามากขึ้น คุณหมออนันต์ กล่าวว่า “ไม่น่าแปลกใจเลยกับการใช้ชีวิตของคนยุคติดหน้าจอตลอดเวลา ใช้สายตาแบบไม่ถนอมกันเลย อ่านหนังสือเล่นมือถือตอนกลางคืน ปิดไฟดู แสงไม่พอ ทำให้สายตาเสื่อมเร็วขึ้น วิธีแก้ไขง่ายๆ ที่สุด ไม่ควรใช้สายตาในการจ้อง การเพ่งหน้าจอโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ ติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ โดยไม่พักสายตา การมีวินัยสำคัญที่สุด ลองกำหนดระยะเวลาอยู่หน้าจอให้น้อยลง และตั้งใจทำให้ได้ ออกไปใช้ชีวิตออกกำลังกาย พักผ่อนท่องเที่ยวกับครอบครัวแทนที่จะจมอยู่กับโลกออนไลน์มากเกินไป”

“การดูแลสุขภาพ ทั้งการดื่มน้ำให้เพียงพอ พักผ่อนนอนหลับไม่นอนดึก หรือการรับประทานอาหาร และวิตามินเสริมบำรุงสายตา เช่น ผลไม้ตระกูลเบอรี่ เสริมวิตามินเอ หรือการดูแลตัวเองใช้แว่นกันแดดเมื่อออกกลางแจ้ง ล้วนเป็นตัวช่วยเรื่องสายตาได้ทั้งนั้น”

“ส่วนอีกทางเลือกรักษาสายตาด้วยนวัตกรรม นาโนรีเลกซ์ คุณหมอแนะนำให้มาปรึกษาตรวจสภาพตาและค่าสายตาอย่างละเอียดโดยจักษุแพทย์ เพื่อประเมินสภาพตาโดยรวมก่อนเข้าการรักษา เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยเปิดโลกให้สดใสให้คุณไม่ต้องพึ่งพาแว่นสายตาไม่ว่าในระยะใกล้หรือไกล”

ด้านเซเลบริตี้สาวสวย ‘คุณโอบอุ้ม-รัสรินทร์ ชุมสาย ณ อยุธยา’ ที่เพิ่งรับการรักษาด้วยเทคโนโลยีรีเลกซ์เคลียร์ไปหมาด ๆ ได้แบ่งปันเกี่ยวกับปัญหาสายตาและคำแนะนำในการรักษาสายตาด้วยวิธีเลสิกว่า “ส่วนตัวมีปัญหาสายตาคือสั้นระดับ 250 ไม่ใส่แว่นก็มองภาพไม่คมชัด แล้วนอกเหนือจากเลี้ยงลูกก็มีรับงานด้านอินฟลูเอนเซอร์ และบล็อกเกอร์รีวิวผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ใช้สายตาอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ตลอดเวลาทั้งถ่ายรูป รีทัชแสง ตัดต่อทุกคลิปวิดีโอเอง อยู่หน้าจอวันละ 3-4 ชั่วโมงเลยทีเดียว

แต่เดิมอุ้มใส่คอนแทคเลนส์ค่ะ แล้วความที่เราเลี้ยงลูกเองไม่มีพี่เลี้ยง อุ้มใช้ชีวิตสไตล์แอคทีฟมัม ออกกำลังกายโยคะ ต่อยมวย กลับถึงบ้านก็เหนื่อยมาก จนบางวันลืมถอดคอนแทคเลนส์ใส่นอนไปเลยก็มีปัญหาตาอักเสบตามมาอีก เคยเจอคอนแทคเลนส์ไหลเข้าไปในกระบอกตา สามีต้องรีบบึ่งขับรถพาไปโรงพยาบาล น่ากลัวมาก ปัญหานี้จึงอยากทำเลสิกเพื่อไม่ต้องกังวลเรื่องเหล่านี้อีก หาข้อมูลหลาย ๆ ที่ค่ะ สิ่งแรกคือต้องไม่เจ็บ จบปัญหาหายเร็ว คุณหมอมีประสบการณ์จึงเป็นสิ่งแรกที่ต้องพิจารณา”