‘กลิ่นตัว‘ อาจเป็นปัญหาที่เกิดจากอาหารที่เรากินเข้าไปก็ได้ เนื่องจากอาหารบางอย่างนอกจากจะทำให้เกิดกลิ่นปากแล้ว ถ้ากินเข้าไปในปริมาณเยอะๆ ก็อาจสร้างปัญหากลิ่นตัวที่ชวนร้องยี้ได้เหมือนกัน ฉะนั้นถ้าไม่อยากมีกลิ่นปาก กลิ่นกาย และกลิ่นแก๊ส (จากการผายลม) ให้ใครๆต้องเมินหน้าหนี ก็ควรพยายามหลีกเลี่ยงอาหารต่อไปนี้ซะ…
แอลกอฮอล์
เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ไม่ว่าจะเป็นวิสกี้ เบียร์ หรือไวน์ ล้วนทำให้เรามีกลิ่นกายที่ไม่น่าดมด้วยกันทั้งนั้น ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นน่ะเหรอ? ก็เพราะเมื่อร่างกายดูดซึมแอลกอฮอล์เข้าไป แอลกอฮอล์ก็จะเกิดการเผาผลาญจนกลายเป็นสารละลายในน้ำที่เรียกว่า แอซิเตต (Acetate) หรือกรดแอซีติกขึ้นมา ซึ่งจะเข้าไปผสมปนเปกับเหงื่อและเชื้อแบคทีเรีย ก็จะทำให้เกิดกลิ่นกายที่ชวนให้ใครๆจับได้ว่า…เมื่อคืนนี้เราไปทำอะไรมา!!!
ผักตระกูลกระหล่ำปลี
ผักตระกูลกะหล่ำปลี ได้แก่ ดอกกะหล่ำ กะหล่ำปลี คะน้า กะหล่ำปม บร็อกโคลี่ และเทอร์นิพ อาจทำให้เกิดกลิ่นกายด้วยสองเหตุผลด้วยกัน นั่นก็คือหนึ่ง…ผักพวกนี้มีกำมะถัน ซึ่งเป็นสารประกอบที่มีกลิ่นเหม็นคล้ายๆ กลิ่นไข่เน่า และสอง…อาจทำให้เกิด “กลิ่นคาวปลา” ในคนที่เป็นโรคกลิ่นตัวเหม็น (Trimethylaminuria) ซึ่งเป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมด้วย ซึ่งจะทำให้ร่างกายไม่สามารถทำลายสารประกอบที่มีกลิ่นเหม็นในผักพวกนี้ออกไปได้ รวมทั้งอาหารบางอย่าง อย่างเช่น ถั่ว ไข่ และนมด้วย ถ้าร่างกายมีสารประกอบชนิดนี้ในระดับสูงก็จะขับออกมาทางต่อมเหงื่อ ส่งผลให้เกิดกลิ่นกายคล้ายกลิ่นคาวปลาได้
เนื้อแดง
เนื้อสัตว์ที่เป็นเนื้อแดงนี้ก็มีกำมะถันที่ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้เหมือนกัน โดยเฉพาะเนื้อที่ผ่านการแปรรูปอย่างแฮม อาจทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะหรืออุจจาระที่มีกลิ่นเหมือนไข่เน่า นอกจากนี้ผลการศึกษาวิจัยที่ตีพิมพ์ใน The Journal Chemical Senses ยังระบุเอาไว้ด้วยว่า การบริโภคเนื้อแดงอาจส่งผลต่อกลิ่นเหงื่อของเรา โดยนักวิจัยได้ทำการทดสอบกับผู้ชายจำนวน 17 คน ที่ทั้งกินเนื้อและไม่กินเนื้อเป็นเวลาสองสัปดาห์ แล้วเก็บตัวอย่างเหงื่อใต้วงแขนไปตรวจสอบ ซึ่งเหงื่อของคนที่ทานอาหารมังสวิรัติจะมีกลิ่นฉุนน้อยกว่า
อาหารรสจัด
อาหารรสจัดที่มีกลิ่นฉุน อย่างเช่น กระเทียม หัวหอม หรือกุ้ยช่าย อาจทำให้เหงื่อมีกลิ่นเหม็นเหมือนกลิ่นกระเทียมได้ เนื่องจากอาหารพวกนี้ก็มีสารประกอบ VOCs อยู่ในปริมาณสูงเหมือนกัน ก็เหมือนๆ กับผักตระกูลกระหล่ำปีนั่นแหละ อาหารพวกนี้มีกำมะถันผสมอยู่ด้วยเหมือนกัน พูดง่ายๆก็คือ อาหารพวกนี้ (ซึ่งมักใช้เป็นส่วนผสมหลักๆ ในอาหารไทยและอาหารจีนหลายๆชนิด) นอกจากจะทำให้มีกลิ่นปากแล้ว ยังสามารถโชยออกมาทางรูขุมขนของเราได้เหมือนกัน ฉะนั้นจึงอาจต้องงดอาหารแซ่บๆบางอย่างเอาไว้ก่อน ถ้าคุณไม่อยากมีกลิ่นกระเทียมโชยออกมาให้ใครๆจับได้
หน่อไม้ฝรั่ง
หน่อไม้ฝรั่งหรือที่เรารู้จักกันอีกชื่อหนึ่งว่า “แอสพารากัส“ นั้น มีสารประกอบชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Methyl Mercaptan ซึ่งมีคุณสมบัติละลายในน้ำได้ค่อนข้างสูง เมื่อเรากินผักชนิดเข้าไป สารประกอบชนิดนี้ก็จะผ่านเข้าสู่ระบบต่างๆ ในร่างกายทันที ส่งผลให้หลังจากทานอาหารเสร็จ ปัสสาวะของเราก็จะมีกลิ่นเหม็นของแอสพารากัสขึ้นมาทันที ไม่เชื่อก็ลองกินดูได้นะ!