เป็นที่ทราบกันดีว่าคนท้องมักจะมีฮอร์โมนที่แปรปรวน และอีกปัญหาที่คุณแม่ตั้งครรภ์หลายคนพบเจอคือ สิวฮอร์โมนคนท้อง ซึ่งคุณแม่มือใหม่หลายคนก็ไม่กล้าจัดการสิวเหล่านี้ เพราะกลัวส่งผลต่อเบบี๋ในครรภ์ HELLO! จึงหาคำตอบมาให้ค่ะว่าต้องจัดการยังไงกับสิวฮอร์โมนเหล่านี้ได้บ้าง
สิวฮอร์โมนคนท้อง เกิดขึ้นตอนไหน?
สิวฮอร์โมนของคนท้องมักขึ้นในช่วง 3-6 เดือนแรก มีลักษณะเป็นสิวอักเสบและสิวหัวแดง ซึ่งในบางรายอาจมีสิวอุดตันร่วมด้วย ซึ่งสาเหตุมักมาจากการไหลเวียนของฮอร์โมน “แอนโดรเจนส์” ที่มากเกินไปนั่นเอง ซึ่งเจ้าฮอร์โมนนี้แหละค่ะที่จะไปเพิ่มความมันบนผิว ทำให้ผิวเกิดการอุดตัน การอักเสบ และไวต่อแบคทีเรีย จนเกิดเป็นสิวขึ้นมา
จัดการกับสิวเหล่านี้ยังไง?
แน่นอนว่าการดูแลผิวหน้าในคนท้องต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะยารักษาสิวบางตัวมีสารที่อาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้ (เช่น เรตินอลเอ) ดังนั้น หากตัดสินใจจะใช้ยาแต้มสิว ควรปรึกษาคุณหมอก่อนเลือกใช้ยา และห้ามไปซื้อยามาทาเองโดยเด็ดขาด
ซึ่งคุณหมอได้แนะนำว่า Benzoyl peroxide และ Erythromycin เป็นยาที่ค่อนข้างมีความปลอดภัยกับคุณแม่ตั้งครรภ์ จะเลือกใช้ตัวไหนก็ได้ในสองตัวนี้ แต่ทางที่ดีก็ควรปรึกษาคุณหมอก่อนนะคะ
รักษาสิวด้วยแสง
เป็นอีกวิธีที่ไม่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ค่ะ ส่วนมากมักใช้แสงสีฟ้าและแสงสีแดงในการรักษา สิวฮอร์โมนคนท้อง โดยแสงสีฟ้าจะช่วยทำลายแบคทีเรียในสิว และแสงสีแดงจะช่วยลดการอักเสบ แสงที่นำมาใช้รักษาสิวนี้มีความปลอดภัย และสามารถรักษาได้กับทุกส่วนของร่างกาย ดังนั้นจึงสามารถใช้รักษาสิวบริเวณหน้าอกและหลังของคุณแม่ได้อีกด้วยนะคะ
ระวังให้ดี หากจะทำทรีตเมนท์
คุณแม่ที่ตั้งครรภ์สามารถทำทรีตเมนท์ใบหน้าได้นะคะ แต่คุณแม่ต้องแจ้งเทอราปีสท์ และต้องทำความเข้าใจให้แน่ใจก่อนว่าผลิตภัณฑ์ที่ทางคลินิกหรือสปาใช้นั้นปลอดภัย และไม่มีสารที่เป็นอันตรายต่อผิวหน้าของคุณแม่จริงๆ
ไดเอท
เป็นวิธีการดูแลตัวเองแบบง่ายๆ ค่ะ แค่ทานอาหารที่กระตุ้นให้เกิดสิวน้อยลง เช่น อาหารที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบมากๆ หรือพวกคาร์โบไฮเดรตแปรรูป เช่น แป้งขัดสี ซึ่งไม่ถึงกับต้องอดจนทรมานตัวเอง แต่คุณแแม่ต้องควบคุมปริมาณในแต่ละวันให้เหมาะสม เพื่อให้สิวฮอร์โมนคนท้อง ไม่ถามหาค่ะ