การวิ่ง เป็นกีฬาที่เล่นง่าย แต่จะให้เริ่มนั้น มันช่างยากเหลือเกิน เพราะเราเองก็ทราบดีว่า เหล่าผู้คนที่ยังไม่คุ้นชินกับการวิ่งนั้น แค่คิดจะเริ่มทำก็เหนื่อยแล้วใช่ไหมล่ะคะ?! แต่ทุกคนทราบหรือไม่ว่าจริงๆ แล้ว ร่างกายมนุษย์เราถูกสร้างมาเพื่อการวิ่งโดยเฉพาะเลย และการวิ่งนั้น ก็มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าที่คุณคิด ดังนั้น สำหรับใครที่กำลังอยากลุกขึ้นมาออกกำลังกาย หรือใครที่กำลังหาคำตอบว่า เริ่มวิ่งยังไงดี วันนี้ เรามีคำตอบจากนักวิ่งมือฉมัง อย่างคุณ ตุลย์ ตุลยเทพ เอื้อวิทยา กัปตันชมรม Adidas Runners Bangkok ที่จะเผยบอกเคล็ดลับการดูแลตัวเองด้วยการ วิ่ง พร้อมมาเล่าประสบการณ์แสนสนุก ที่ต้องทำให้คุณอยากลุกขึ้นมาวิ่งแน่นอน!
เริ่มก้าวแรก
คุณตุลย์นั้น ชื่นชอบกีฬาการวิ่งเป็นพิเศษ และมีประสบการณ์ในการวิ่งที่หลากหลาย และได้ไปวิ่งมาราธอนมาแล้วหลายที่ทั่วโลก ซึ่งเราเองก็อยากทราบเช่นกัน ว่าอะไรคือสิ่งที่จุดประกายความชื่นชอบนี้ ที่เรียกได้ว่า ไม่ใช่เรื่องโปรดของใครหลายคน คุณตุลย์ก็ได้เล่าว่า
“ตอนเด็กๆ เป็นนักกีฬาว่ายน้ำครับ แต่พอโตมาก็ไม่ค่อยได้เล่น เลยหากีฬาอื่น พอดีกับช่วงนั้นไตรกีฬากำลังบูม เลยได้มีโอกาสกลับไปเล่นกีฬา ทั้งว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน และวิ่งครับ ประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว ทาง Adidas ได้จัดทีมวิ่งขึ้นมา และเขาก็ได้ติดต่อมาให้เราเป็นกัปตันครับ เราก็ได้โอกาสเป็นกัปตันทีม และวิ่งอย่างจริงจังตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา”
หลายคนอาจจะนึกว่า คนที่ต้องชอบเล่นกีฬาเท่านั้น ถึงจะลุกขึ้นมาวิ่งได้ในระยะยาวๆ และยิ่งเป็นการวิ่งมาราธอนแล้ว ยิ่งดูหนักเข้าไปใหญ่ ท้ังนี้ คุณตุลย์ จึกได้อยากบอกกับคนที่อยากลองมาเป็นนักวิ่งมือใหม่ หรือเพียงแค่ผู้ที่คิดจะเริ่มไว้ว่า
“สำหรับคนที่กำลังคิดนะครับว่า เริ่มวิ่งยังไงดี คือ ผมว่ากีฬา วิ่ง เป็นกีฬาที่ทุกคนสามารถเล่นได้ ทำได้ทุกที่ เริ่มจากในหมู่บ้าน หรือเป็น City Run ก็ได้เลยครับ ผมรู้ว่าการเริ่มวิ่ง เป็นเรื่องที่ยากสำหรับทุกคน แต่ถ้าให้ท้าวความนะครับ จริงๆ คนเราเนี่ย ตั้งแต่ยุคหิน เราไม่ได้ถูกสร้างมาให้นั่งทำงาน เราต้องล่าสัตว์ ต้องเดิน ต้องวิ่ง คือเป็นเรื่องธรรมชาติ ร่างกายเราถูกสร้างมาให้ขยับ แต่พอเป็นยุคปัจจุบัน กลับกลายเป็นสิ่งแปลกใหม่ ผมเลยแนะนำว่า เราอาจจะเริ่มโดยการเดินสลับวิ่ง อาจจะเดิน 1 นาที วิ่ง 1 นาที ก็ได้ครับ”
เพียงแค่เท่านี้ ก็ถือว่าเป็นก้าวเล็กๆ ที่อาจจุดประกายให้คุณได้ก้าวต่อไปเรื่อยๆ เลยก็ได้
จะวิ่งให้ดี ร่างกายต้องพร้อม
เมื่อคุณได้เริ่มวิ่งแล้ว ใช่ว่าแค่วิ่งอย่างเดียว คุณจะสุขภาพดีขึ้นมาได้โดยปริยาย การวิ่งเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง และส่วนสำคัญในการสร้างฐานร่างกายให้แข็งแรง และช่วยบริหารระบบของหัวใจ แต่นอกจากนั้น การดูแลร่างกายในด้านอื่นๆ ก็สำคัญไม่แพ้กัน ทั้งด้านการกิน การนอน คุณตุลย์จึงได้บอกเราถึงความสำคัญให้เราฟังว่า
“นอกจากการออกกำลังกาย ต้องดูเรื่องกิน และเรื่องการพักผ่อนด้วย ทั้งสามอย่างควรไปด้วยกันครับ ถ้าเราออกกำลังกายเยอะ และเราทานอาหารไม่พอ พักผ่อนไม่พอ มันก็อาจจะทำให้ได้ประโยชน์ไม่เต็มที่ และอาจบาดเจ็บได้เลยครับ”
มากไปกว่านั้น คุณตุลย์ยังได้เผยอีกเคล็ดลับในการวิ่ง ที่เป็นส่วนสำคัญ ที่นักกีฬาหลายท่านมักมองข้าม นั่นก็คือ Dynamic Stretching และ Static Stretching นั่นเอง
“การเตรียมตัวทั้งก่อน และหลังวิ่งสำคัญมากครับ แต่หลายคนมักจะละเลย ซึ่งบางทีผมเองก็ลืมครับ คือก่อนการวิ่ง ก็ต้องมีการวอร์มอัพครับ เพื่ออบอุ่นร่างกายให้ได้เตรียมตัวใช้งาน เรียกว่า Dynamic Stratching ครับ คือการขยับร่างกาย ให้กล้ามเนื้อแต่ละส่วนได้เคลื่อนที่ ไม่ใช่การยืดค้างไว้นะครับ ส่วนหลังวิ่งเราจะยืดค้างครับ เรียกว่า Static Stretching เพราะหลังกล้ามเนื้อเราใช้งาน กล้าใมเนื้อเราจะมีการหดตัว และถ้าเราไม่ยืดเลย กล้ามเนื้อเราจะแข็งเป็นก้อน มันก็จะสูญเสียความยืดหยุ่น ทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ครับ”
วิ่งและพัก ต้องมาคู่กัน
เรามาพูดถึงเหล่านักวิ่ง ที่อยากลองไปลงสนามใหญ่กันบ้าง สำหรับนักวิ่งที่อยากลองไปวิ่งมาราธอนนั้น ต้องทราบก่อนเลยว่า การวิ่งมาราธอนเป็นกิจกรรม ที่ต้องการการฝึกซ้อมอย่างมีระเบียบ และฝึกซ้อมเป็นประจำ ซึ่งนักวิ่งมือโปรอย่างคุณตุลย์เอง ก็ยังบอกเลยว่า จะพยายามไม่วิ่งมาราธอนเยอะ เพราะต้องใช้เวลาในการซ้อมเยอะ อย่างการวิ่งมาราธอน 1 ปี วิ่งสักครั้งถึงสองครั้งก้เพียงพอแล้ว
ซึ่งในการซ้อมนั้น ก็จะต้องแบ่งเวลาให้ใน 1 อาทิตย์ของเราเพื่อการซ้อม เรียกได้ว่านอกจากจะเป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ยังถือเป็นการสร้างระเบียบวินัยให้เวลาชีวิตของตัวเองอีกด้วย
“ในช่วงที่ผมต้องซ้อมหนักๆ นอกจากแพลนตารางซ้อม สำคัญมากคือเราต้องแพลนตารางพักด้วย เช่น ในหนึ่งอาทิตย์ เราอาจจะวิ่งสัก 4 วัน อีก 2 วันเราจะโฟกัสเรื่อง เสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และพักให้เต็มที่เลย 1 วัน แต่ถ้าระยะยาว อย่างตอนวิ่งไปมาราธอน ผมจะใช้เวลาซ้อมประมาณ 5 เดือน หลังจากนั้นก็คือต้องพักเลยครับ เราจะไม่วิ่งติดกันหลายงาน ให้ร่างกายได้ฟื้นฟู”
