อย่างที่ทราบว่าตอนนี้เราทุกคนต่างก็เจอกับวิกฤติเดียวกัน กับการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกระลอก และระลอกนี้ก็หนักหนาเอาการเลยสำหรับเมืองไทย ฉะนั้นหากพวกเรายังปฏิบัติตัวกันเหมือนเดิมอย่างครั้งก่อนๆ กักตัวอยู่บ้าน นอนดูซีรี่ย์ สั่งอาหารเดลิเวอรี่มากินเกือบทุกมื้อ แล้วรอให้โควิดหายไปเอง คงจะไม่ดีแน่ เพราะนอกจากสุขภาพจะแย่ลง สุขภาพจิตจะเสียตามไปด้วย พวกเราต้องอยู่อย่างมีความหวัง ทำตัวเองให้แข็งแรง สร้างภูมิคุ้มกันด้วยตัวเอง ระหว่างรอรับวัคซีนในอนาคต หากใครยังไม่มีไอเดีย HELLO! มีวิธีดูแลสุขภาพช่วงกักตัวที่บ้านของ ‘คุณทิปปี้ – สุพรทิพย์ ช่วงรังษี’ มาแชร์กันค่ะ

ก่อนหน้านี้ใช้ชีวิตอยู่นอกจากบ้าน ทั้งทำงาน และเข้าสังคมพบปะเพื่อนฝูงเป็นประจำ กระทั่งมาเจอวิกฤติโรคระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่รอบแรก การใช้ชีวิตของคุณทิปปี้ก็ต่างไปจากเดิม แม้เจ้าตัวจะบอกว่า ใช้ชีวิตหลังเกษียณมาสักระยะ พอได้ปรับตัว และหากิจกรรมทำที่บ้านอยู่บ่อยๆ เมื่อถึงคราวต้องกักตัวอยู่บ้านในช่วงนี้ จึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่เลย

“อย่ามองว่าการไม่ได้ออกจากบ้านไปไหน เป็นข้อจำกัด ทุกอย่างมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ฉะนั้นเราควรเลือกมองแต่ข้อดี คิดว่าการที่เราได้อยู่บ้าน คือช่วงเวลาที่ได้กลับมาสร้างความสุขในพื้นที่ของตัวเอง บ้านไม่ว่าจะหลังใหญ่หรือเล็ก ถือเป็นจิตวิญญาณของเรา เพราะสิ่งของต่างๆ ที่อยู่ในบ้าน เราเลือกนำมาใส่ไว้ ทุกชิ้นบ่งบอกความเป็นตัวตนของเรา และมีพลังงานความรักซ่อนอยู่ ที่ผ่านมาเราอาจจะมองข้าม ด้วยไม่มีเวลาได้ชื่นชม”
เสพความสุขจากธรรมชาติรอบตัว
คุณทิปปี้ยกตัวอย่างให้เห็นภาพว่า ช่วงนี้เธอเองก็ใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านริมแม่น้ำบางปะกง ทำอาหารกินเอง ทั้งสนุกและมีความสุขที่เราได้เลือกวัถตถุดิบที่มีประโยชน์กับร่างกายตัวเอง ไม่ได้กำหนดว่าจะต้องกินแบบให้ผอมเพรียว มีซิกแพ็ค หรือหุ่นลีน แต่จะเน้นการกินอาหารที่อร่อยแต่สุขภาพดีเป็นหลัก มีเวลาเล่นกับฝูงห่านที่เลี้ยงไว้ ทำให้เข้าใจธรรมชาติของสัตว์ต่างๆ ว่าถ้าเราเอาใจใส่ และมอบความรักให้กับเขา เราจะได้รับสิ่งนั้นกลับคืนมา ไม่เฉพาะน้องหมาน้องแมว จึงไม่แปลกที่จะเห็น ‘น้องพะโล้’ หนึ่งในเจ้าห่านแสนรู้ที่ดูจะติดเธอเอามากๆ




เมื่อปรับสมดุลทางใจแล้ว คุณทิปปี้บอกว่า เรื่องดูแลสุขภาพร่างกายก็ไม่ทิ้ง จะเห็นว่าตัวเองให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ประกอบกับตั้งแต่โควิดระบาดรอบแรก มาจนระลอกใหม่ รู้สึกว่าโรคระบาดนี้ยาวนาน และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เราจะได้รับวัคซีนกันครบ จึงคิดหาวิธีที่จะดูแลตัวเองอย่างไรโดยไม่ใช้ยา จนได้มาฟังความรู้ศาสตร์ของคลื่นเสียงบำบัด หรือ Crystal Singing Bowls จากรุ่นน้องที่สนิท อธิบายประโยชน์ของน้ำที่ผ่านคลื่นเสียงการสวดมนต์ รูปร่างโมเลกุลจะสวยงาม เมื่อเราดื่มน้ำดังกล่าว ร่างกายของเราจะได้รับความสวยงามนั้นด้วย อีกอย่างร่างกายมนุษย์มีน้ำเป็นส่วนประกอบร้อยละ 70 ควรดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน

พร้อมกันนี้คุณทิปปี้ยังแชร์วิธีบำบัดร่างกายจากธรรมชาติ ที่เธอทำมาตั้งแต่โควิดระบาดรอบแรกแล้ว “คือการนอนอาบแดดห่มใบตองค่ะ เรียกว่าเป็นสปาที่ทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน ใช้อุปกรณ์จากธรรมชาติล้วนๆ นอกจากจะได้รับวิตามินดีแล้ว เรายังได้รับคลอโรฟิลล์จากใบตองด้วย จากนั้นก็ลงไปแช่ในถังน้ำแข็งที่อุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศา 10 ครั้ง ครั้งละ 30 วินาที และพอกหน้าด้วยใบตำลึง เพิ่มคอลลาเจน ช่วยให้ผิวพรรณสดใสดูสุขภาพดีนั่นเองค่ะ”


อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้ หากจะบอกให้ทุกคนว่าอย่าเครียด คงห้ามกันได้ยาก คุณทิปปี้จึงฝากทิ้งท้ายว่า “เราต้องสร้างพลังบวก อย่าประมาท และอย่ากังวลจนเกินกว่าเหตุ เพราะความเครียดเป็นต้นเหตุแห่งทุกโรคค่ะ”