คุยกับสองผู้ก่อตั้ง Supparerk Vision Center ว่าทำไมการดูแล “ดวงตา” ถึงจำเป็นต้องพิถีพิถันและใช้ความเชี่ยวชาญ
จากประสบการณ์ตรงของ นพ.ศุภฤกษ์ ทิพาพงศ์ ที่เริ่มสวมแว่นสายตาตั้งแต่อายุยังน้อย กลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการเป็นจักษุแพทย์ สาขาจอประสาทตาและน้ำวุ้นตา และได้ต่อยอดมาสู่การก่อตั้ง ศุภฤกษ์ วิชชั่น เซ็นเตอร์ (Supparerk Vision Center) ร่วมกับ คุณแจ็ค-ต้องพงศ์ ศรีบุญ เพื่อศูนย์แว่นตาที่รวมการตรวจสุขภาพสายตาและวัดค่าสายตาเพื่อตัดแว่นเฉพาะบุคคลระดับพรีเมียมไว้ในที่เดียว ด้วยแนวคิดหลักที่ว่า เพราะการมองเห็นชัด คือคุณภาพชีวิตที่ดี
เพราะดวงตาสำคัญไม่แพ้สมอง
ในมุมมองของ นพ.ศุภฤกษ์ ทิพาพงศ์ ดวงตาเปรียบได้กับสมอง หากขาดการมองเห็นที่ดี จะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก โดยเฉพาะในยุคดิจิทัลที่ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ทุกคนล้วนใช้เวลากับหน้าจออุปกรณ์ดิจิทัลจนส่งผลกระทบต่อการมองเห็น
แน่นอนว่าเมื่อเกิดปัญหาที่กระทบกับคุณภาพชีวิต และจำเป็นต้องได้รับการดูแลแก้ไขจากผู้เชี่ยวชาญ การหันมาดูแลสุขภาพตาและค่าสายตาจึงกลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน แม้กระทั่งผู้ที่ยังมีการมองเห็นที่ดี ก็เลือกที่จะเริ่มดูแลดวงตาตั้งแต่เนิ่นๆ
การดูแลดวงตาที่แตกต่างกันในแต่ละวัย
ด้วยเชื่อว่าสุขภาพตาและค่าสายตาเป็นเรื่องสำคัญของคนทุกวัย HELLO! จึงขอให้คุณหมอศุภฤกษ์ช่วยแนะนำหลักพื้นฐานในการดูแลดวงตาที่ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ได้เป็นลำดับแรก
“การดูแลดวงตาแบ่งออกง่ายๆ เป็นการป้องกัน และการรักษา โดยแต่ละช่วงอายุมีรายละเอียดแตกต่างกันไป ในวัยแรกเกิดถึงอายุ 18 ปี จะมุ่งเน้นภาวะทางการมองเห็นและดวงตา เช่น ภาวะตาขี้เกียจ ภาวะตาเข ภาวะกระจกตาย้วย อีกส่วนหนึ่งเป็นเรื่องค่าสายตา บางคนสายตาสั้น ยาว เอียงตั้งแต่กำเนิด ซึ่งสามารถป้องกันและรักษาได้หลายวิธี และหนึ่งในวิธีเหล่านั้น ก็คือการใช้เลนส์ชะลอสายตาสั้นในเด็ก”
“สำหรับวัยรุ่นจะเริ่มสนใจเรื่องค่าสายตา ต้องใช้สายตาในการเรียนทั้งวัน ถ้ามีสายตาสั้น ยาว เอียง สามารถรักษาด้วยการใส่แว่นสายตา ทำเลสิก หรือการผ่าตัด บางคนใส่คอนแทคเลนส์เพื่อความสวยงาม อาจมีความเสี่ยงกับภาวะติดเชื้อได้”
“ในวัยผู้ใหญ่ตอนต้นจะเริ่มมีเรื่องค่าสายตายาวมาเกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถแก้ไขด้วยเลนส์หลายชนิด เช่น เลนส์โปรเกรสซีฟที่ช่วยการมองเห็นในระยะใกล้ กลาง และไกลได้ ออฟฟิศเลนส์หรือเลนส์เฉพาะทางที่ช่วยการมองเห็นระยะกลาง ใกล้ สำหรับทำงาน
“ส่วนของการเกิดโรค บางคนมีภาวะสุ่มเสี่ยงการเป็นต้อหินมุมปิด เบาหวานขึ้นจอประสาทตา จอประสาทตาบวม เริ่มเป็นต้อกระจก หรือป่วยเป็นโรคทางร่างกายระบบอื่นๆ ที่สามารถแสดงออกเป็นโรคทางตาได้เป็นลำดับแรก หลายครั้งเราสามารถตรวจพบได้ และจะแนะนำให้ไปพบแพทย์ด้านอายุรกรรมเพื่อรักษาโรคทางร่างกายด้วย”
“และสุดท้ายวัยผู้ใหญ่ตอนปลายจะคล้ายกับวัยผู้ใหญ่ตอนต้น ต้องระวังต้อกระจก ต้อหิน สามารถรักษาได้ด้วยยาหรือการผ่าตัด ส่วนเรื่องของสายตาสามารถใช้เลนส์โปรเกรสซีฟ ออฟฟิศเลนส์ ที่กล่าวไว้ในตอนต้น หรือแว่นอ่านหนังสือ เป็นตัวช่วยที่สามารถเลือกได้”


ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยี
หลังคุณหมอศุภฤกษ์ให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์ในการดูแลสุขภาพตาแล้ว คุณแจ็ค-ต้องพงศ์ ศรีบุญ อีกหนึ่งผู้ร่วมก่อตั้งก็ได้เริ่มพาเดินชมสถานที่ พร้อมบอกเล่าถึงภาพรวมการทำงานอย่างมืออาชีพของทีมศุภฤกษ์ วิชชั่น เซ็นเตอร์
“ทีมของเราประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญในด้านสายตาและแว่นตา เป็นการทำงานร่วมกันของจักษุแพทย์ และทีมนักทัศนมาตร ภายใต้โปรโตคอลในแบบฉบับของศุภฤกษ์ วิชชั่น เซ็นเตอร์ เรามี Premium Program ที่ให้บริการในการตรวจสุขภาพตาและการวัดค่าสายตาแบบละเอียดในรูปแบบเฉพาะบุคคล”
“นอกจากทีมผู้เชี่ยวชาญของเราแล้ว เรายังทำงานร่วมกับ Global Partner จากทั่วทุกมุมโลก ทั้งอิตาลี ฝรั่งเศส เยอรมนี สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น เพื่อคัดสรรหลากหลายเทคโนโลยีที่ดีที่สุดมาดูแลสุขภาพตาให้กับทุกคน”
คุณหมอศุภฤกษ์เล่าเสริมว่า “ด้วยตัวผมเองแล้วคุณแจ็ค ผู้ร่วมก่อตั้งเป็น End User ที่ใส่แว่นมาตั้งแต่เด็ก เราจึงเข้าใจคนใส่แว่น ถ้าเราต้องการมาตรฐานแบบไหน เราก็จะคัดสรร Selected Item แบบนั้นมาให้บริการ”
โดยที่ Supparerk Vision Center มีเทคโนโลยีขึ้นชื่อคือเครื่องวัดค่าสายตาที่ให้ความละเอียดถึงระดับทศนิยม 2 หลัก 0.01 Diopter และเทคโนโลยีการออกแบบเลนส์เฉพาะบุคคลผ่านกระบวนการวัดพารามิเตอร์ในรูปแบบดิจิทัล ที่ครอบคลุมทั้งเรื่องมุมเทหน้าแว่น ความโค้งของกรอบแว่น รวมไปถึงระยะห่างของกระจกตากับเลนส์แว่นตา เพื่อสร้างความเฉพาะเจาะจงของเลนส์และกรอบแว่นตา ที่จะทำให้การมองเห็นผ่านเลนส์และการสวมใส่แว่นตา คมชัด สบายตา และสวมใส่สบายในรูปแบบเฉพาะบุคคล
นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีที่ใช้ในการถ่ายภาพและสแกนจอประสาทตา ถ้ามีปัญหาเรื่องจอประสาทตาเสื่อม เบาหวานขึ้นจอประสาทตา เซลล์ในชั้นจอประสาทตาเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ ขั้วประสาทตาโต มีความเสี่ยงในการเป็นต้อหิน รวมถึงความดันตา เราสามารถบอกถึงความผิดปกติเหล่านี้ให้ลูกค้าได้

การออกแบบกรอบแว่นและเลนส์เฉพาะบุคคล
ที่ ศุภฤกษ์ วิชชั่น เซ็นเตอร์ ให้ความสำคัญกับความเฉพาะบุคคล (Individual) อย่างมาก เพราะดวงตาของแต่ละคนมีความแตกต่างกันด้วยเรื่องของสุขภาพตาและค่าสายตา ทีมผู้เชี่ยวชาญจึงดูแลลูกค้าอย่างละเอียดในทุกขั้นตอน
เริ่มจากขั้นตอนการตรวจสุขภาพตาเบื้องต้น ตั้งแต่ กระจกตามีความย้วยหรือไม่ ช่องด้านหน้าลูกตาแคบมีภาวะเสี่ยงที่จะเป็นภาวะต้อหินมุมปิดหรือไม่ และสุดท้ายเป็นเรื่องจอประสาทตา
ต่อมาเป็นเรื่องการตรวจค่าสายตาที่จะประกอบด้วย 3 ขั้นตอน คือ
- การวัดค่าสายตา สามารถตัดเลนส์ที่ตรงกับค่าสายตาแบบเป๊ะๆ ถึงหลักทศนิยม
- พารามิเตอร์หรือความเฉพาะบุคคล การเลือกแว่นตามีรายละเอียดปลีกย่อย เช่น การเลือกเลนส์ให้เหมาะกับความโค้งหน้าแว่น การวัดความเอียงของเลนส์ที่ทำมุมกับลูกตา หรือระยะห่างระหว่างกระจกตา ซึ่งสามารถ Customize ค่าความจำเพาะของกรอบแว่นเมื่ออยู่บนใบหน้าได้
- เทเลอร์เมด (Tailor Made) กรอบแว่นที่ถูกออกแบบมาเพื่อลูกค้าโดยเฉพาะ สามารถเลือกได้แม้กระทั่งวัสดุ สี หรือดีไซน์ สามารถออกแบบได้ตั้งแต่ความยาวของขาแว่น แน่นอนว่าแต่ละคนมีระยะห่างระหว่างใบหูกับลูกตาแตกต่างกัน รวมถึงจุดกึ่งกลางจากตาดำ บางคนอาจมีใบหน้ากว้างหรือแคบ ทุกคนจะได้เป็นเจ้าของแว่นที่เหมาะกับใบหน้าของตัวเองมากที่สุด
ที่สำคัญ Supparerk Vision Center มี Personal Assistant ที่พร้อมทำหน้าช่วยเลือกกรอบแว่น เลนส์ และส่วนประกอบอื่นๆ ที่เหมาะกับใบหน้า การใช้งาน และยังพร้อมด้วยอุปกรณ์ดิจิทัลที่เป็นตัวช่วยสำคัญในการเลือกแว่นอีกด้วย
“ส่วนตัวผมเปรียบเทียบการตัดแว่นที่ดีเหมือนการตัดสูทที่ต้องมีการฟิตติ้ง ทั้งหมดเป็นงานเทเลอร์เมดจริงๆ “
นพ.ศุภฤกษ์ ทิพาพงศ์

แว่นตาที่พร้อมตอบสนองไลฟ์สไตล์
“สำหรับคนชอบออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีม แล้วไม่สามารถใส่คอนแทคเลนส์ได้ ที่นี่คัดสรรแว่นตาที่กระชับกับใบหน้า ใบหูมาตอบโจทย์ของลูกค้า ร่วมกับการปรับฟิตติ้ง การเลือกวัสดุและสีของแว่น ซึ่งเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่ต้องอาศัยประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญ”
“ในเรื่องของเลนส์ก็เป็นสิ่งสำคัญ เวลาที่เราเคลื่อนไหวเร็วๆ ขณะออกกำลังกาย จะเห็นภาพบิดเบือนจนส่งผลให้เกิดการเวียนศีรษะ ซึ่งแก้ปัญหาได้ด้วยเทคโนโลยีคำนวณการหดขยายของรูม่านตา ระหว่างใส่แว่นไม่ว่าจะสะบัดหน้าเร็วหรือแรงแค่ไหน การมองเห็นก็ยังชัดเจน”
“หรือในกีฬาบางประเภท เราสามารถตัดแว่นให้เหมาะสมและตอบโจทย์ได้ เช่น กีฬากอล์ฟ จะเลือกใช้เลนส์ที่มีความคอนทราสต์ ช่วยให้นักกอล์ฟเห็นลูกกอล์ฟและสนามหญ้าได้ชัดเจน นอกจากนี้ยังมีแว่นที่เหมาะกับกีฬาประเภทอื่นๆ เช่น ดำน้ำ กระโดดร่ม พาราชูต พาราไกลดิ้ง เป็นต้น”
เครื่องประดับที่บ่งบอกอัตลักษณ์และตัวตน
“จากความเชื่อเดิมๆ ที่ว่าการใส่แว่นตาเป็นเรื่อง Old Fashion ทำให้ดูสูงวัย แต่มาถึงวันนี้เราสามารถเปลี่ยนความคิดของหลายคนได้ เมื่อเขามาเลือกกรอบแว่นและตัดแว่นที่ศุภฤกษ์ วิชชั่น เซ็นเตอร์ เพราะแว่นตาที่ผ่านการ Customize ช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพให้ดีขึ้น เช่น ลูกค้าผู้ใหญ่ที่ใส่แว่นตาเลนส์โปรเกรสซีฟ ทำให้ไม่ต้องถอดเปลี่ยนหรือพกแว่นหลายอัน ซึ่งช่วยส่งเสริมให้บุคลิกภาพและคุณภาพชีวิตของเขาดีขึ้น”
“อีกมุมหนึ่งแว่นตาเป็นเครื่องประดับที่แสดงถึงอัตลักษณ์หรือตัวตนของแต่ละคนได้ค่อนข้างดี เป็นแอ็กเซสเซอรี่ส์ที่ช่วยเสริมความดูดีในทุกวัน และยิ่งปัจจุบันแว่นตามีน้ำหนักเบา หลายคนยิ่งชื่นชอบการใส่แว่นตามากขึ้น และสิ่งหนึ่งที่เป็นจุดเด่นของเราคือเรื่องของแฟชั่น ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบแว่นตา การเปลี่ยนสีเลนส์ หรือเลนส์ย้อมสีที่มีค่าสายตา ลูกค้าเลือกสามารถเลือกให้เข้ากับตัวเองได้อย่างเต็มที่”

เดินหน้ามอบการมองเห็นที่ดี เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต
คุณหมอศุภฤกษ์กล่าวปิดท้ายถึงความมุ่งมั่นของ Supparerk Vision Center ที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับทุกคนด้วยการมองเห็นที่ดี ผ่านแว่นตาและเลนส์คุณภาพระดับโลก และประสบการณ์การเข้ารับบริการที่พร้อมสร้างความประทับใจ
“ผมและคุณแจ็คอยากให้ทุกคนรู้จักศุภฤกษ์ วิชชั่น เซ็นเตอร์ ในเรื่องคุณภาพที่เราให้ความสำคัญตลอด 2 ปีที่ผ่านมา และการก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 ในปี 2023 เราทำงานภายใต้ Motto ใหม่คือ Vision Beyond Quality ด้วยความเชื่อที่ว่าการมองเห็นที่ชัดเจนคือคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”
“ในส่วนของศูนย์มีการต่อยอดโดยเปิด Premium Zone ที่พร้อมต้อนรับลูกค้าที่ชื่นชอบและจริงจังกับการใส่แว่น ให้มาสัมผัสการดูแลแบบองค์รวมที่เจาะลึกในระดับพรีเมียม บริการด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยที่สุดในประเทศไทยในขณะนี้ ทั้งในแง่สุขภาพตาและค่าสายตา ครอบคลุม 3 องค์ประกอบสำคัญคือ ความเชี่ยวชาญ เทคโนโลยี และแฟชั่น โดยทั้งหมดรวบรวมไว้ในสถานที่เดียว ศุภฤกษ์ วิชชั่น เซ็นเตอร์”