เพิ่งผ่านพ้นช่วงตรุษจีนกันไปหมาดๆ HELLO! Beauty & Health เลยขอคว้าตัว หมอช้าง-ทศพร ศรีตุลา หรือ “อาจารย์ช้าง” มานั่งกางตำราสอนวิธีดูโหงวเฮ้งกันแบบเจาะลึก ตั้งแต่การวิเคราะห์แต่ละจุดบนใบหน้าอย่างง่ายว่าลักษณะแบบใดที่จะนำโชคดีมาให้ ไปจนถึงตอบปัญหาคาใจใครหลายคนว่าการพึ่งพาเทคนิคและนวัตกรรมทางความงาม สามารถช่วยแก้ไขโหงวเฮ้งให้ดีขึ้นได้จริงหรือไม่? เราจะพาทุกคนไปหาคำตอบกันใน HELLO! Beauty & Health Digital Cover ฉบับเดือนกุมภาพันธ์นี้กัน
โหงวเฮ้งคืออะไร ?
เมื่อพูดถึง โหงวเฮ้ง (Mien Shiang) คนส่วนใหญ่มักนึกถึงการตรวจดูลักษณะที่ดีของอวัยวะเฉพาะจุดบนใบหน้า อย่างเช่น ดวงตา คิ้ว จมูก ปาก หรือหน้าผาก แต่ในความเป็นจริงแล้ว อาจารย์ช้างได้อธิบายให้เราฟังว่า “โหงวเฮ้งคือการดูบุคลิกโดยรวมของคนๆ หนึ่ง ต้องดูทุกอย่างประกอบกัน ทั้งผิวพรรณ น้ำเสียง หรือแม้แต่ท่าเดิน ก็เป็นสิ่งที่บอกพลังของแต่ละคนได้หมดเลย”
โหงวเฮ้งคือความสมดุล ดังนั้นการจะพิจารณาแค่องค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่งบนใบหน้า แล้วบอกว่านี่คือโหงวเฮ้งที่ดีนั้นไม่ถูกต้อง การพิจารณาองค์รวม
นอกจากนี้ อาจารย์ช้างยังได้ขยายความอีกว่า “คนจะชอบเข้าใจผิดว่าคนโหงวเฮ้งดีคือคนสวย แต่จริงๆ แล้วความสวยเป็นเทรนด์แฟชั่น เปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย บางคนสวยในอดีตอาจดูไม่สวยสำหรับปัจจุบัน แต่คนโหงวเฮ้งดี ไม่ว่าจะอยู่ยุคไหนสมัยใด ก็เป็นคนโหงวเฮ้งดี”

แต่ละจุดโหงวเฮ้ง หมายถึงอะไรบ้าง ?
พื้นที่แต่ละจุดบนใบหน้าของเราสะท้อนถึงแต่ละด้านแต่ละช่วงอายุ ซึ่งอาจารย์ช้างได้อธิบายหลักการใหญ่ๆ ให้เราเข้าใจง่ายๆ ดังนี้
- ใบหู : ถือเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิต โดยใบหูแต่ละข้างเป็นตัวแทนช่วงอายุข้างละ 7 ปี เริ่มจากใบหูข้างซ้ายที่เป็นตัวแทนช่วงอายุตั้งแต่เกิดจนอายุ 7 ปี และใบหูข้างขวาเป็นตัวแทนอายุตั้งแต่ 8 – 14 ปี รูปทรงใบหูที่มีโหงวเฮ้งดีคือมีเนื้อตรงขอบหูชัดเจน หมายความว่ามีพื้นฐานชีวิตครอบครัวในวัยเด็กที่มั่นคง แต่ถ้าเนื้อน้อย เห็นกระดูกชัด หรือหูพับ อาจหมายถึงว่าโตมาด้วยความยากลำบาก ไม่ค่อยมีคนสนับสนุน และลักษณะเด่นที่เรามักได้ยินคนพูดกันคือ “ติ่งหูยาว” ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงคนมีบุญมีวาสนาหรืออายุยืน แต่หมายถึงเป็นคนหาเงินเก็บเงินเก่ง
- หน้าผาก : ตัวแทนของช่วงอายุ 15-30 ปี จุดโหงวเฮ้งของธาตุไฟ และยังหมายถึงหน้าที่การงานเพราะเป็นช่วงเริ่มต้นใช้ชีวิตผู้ใหญ่อีกด้วย ลักษณะหน้าผากที่ดีคือจะต้องมีความเรียบเนียน และกระจ่างใส ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงความขาวแต่อย่างใด ไม่ว่าสีผิวไหน หากผิวเรียบเนียนกระจ่างใส ก็มีโหงวเฮ้งที่ดีได้ ถ้าหากมีริ้วรอยเยอะก่อนวัยอันควรจะหมายถึงชีวิตการงานต้องคอยแก้ปัญหา เจออุปสรรคตลอดเวลา
- จมูก : ตัวแทนของช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไป และยังหมายถึงชีวิตด้านความรักคู่ครอง ลักษณะโหงวเฮ้งจมูกที่ดีคือสันจมูกควรจะโด่งให้มีความสมดุลกับใบหน้า ถ้าหากสันจมูกสูงเกินไปหรือเตี้ยเกินไป ไม่สมดุลกับพื้นที่บริเวณหน้าแก้ม ชีวิตความรักจะมีปัญหาได้
- ริมฝีปาก : จากตำราโหงวเฮ้งแล้ว ลักษณะริมฝีปากที่ดีคือมีทรงกระจับเล็กน้อย มีร่องแอ่งเหนือริมฝีปาก ถ้าใครที่มีลักษณะแบบนี้ การทำงานที่ต้องใช้การเจรจาติดต่อสื่อสารมักจะราบรื่นและผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
- คาง : ไล่ลงมาถึงจุดล่างสุดของใบหน้า เป็นเหมือนตัวแทนช่วงบั้นปลายชีวิต แม้ในปัจจุบันคนจะนิยมฉีดฟิลเลอร์คางเพื่อปรับรูปหน้าให้ดูเรียวเล็ก แต่ข้อควรระวังคือหากปลายคางมีความเล็กแหลมมากจนเกินไป จะหมายถึงว่าชีวิตช่วงบั้นปลายยังคงต้องทำงานหนักอยู่

โหงวเฮ้งแบบไหนจะงานรุ่งรักพุ่งแรง ?
สำหรับคำถามยอดฮิตที่อาจารย์เจอมาบ่อยที่สุดก็คือ “โหงวเฮ้งแบบไหนดี ?” แน่นอนว่ามันละเอียดยิบย่อยและมีความเฉพาะบุคคลอยู่มาก การที่บอกว่าจมูกของคนนี้ดี ไม่ได้หมายความว่าถ้าเราไปทำจมูกตามทรงนี้แล้วจะดีเหมือนกัน เพราะต้องพิจารณาองค์ประกอบอื่นบนใบหน้าร่วมด้วยว่าทำออกมาแล้วสมดุลหรือไม่
วันนี้ทีมบิวตี้เลยขอไฮไลต์เด่นๆ จากอาจารย์มาฝากทุกคนกันว่า ถ้าอยากจะดูโหงวเฮ้งตัวเองแบบง่ายๆ ว่าดีหรือไม่ดี ต้องดูที่จุดไหน และใช้เกณฑ์อะไรในการดู
“สำหรับโหงวเฮ้งของคนที่จะมีคู่ดี มีความรักที่ดี แฟนเอาใจเป็นสายเปย์ อันดับแรกต้องดูที่ดวงตาก่อน ลักษณะโหงวเฮ้งดวงตาที่ดีจะต้องมีพลัง เห็นความแตกต่างของสีดวงตาชัดเจน อย่างคนเอเชียมีตาสีดำ ส่วนที่ดำก็ต้องดำชัดเจน ส่วนที่ขาวก็ต้องขาวสะอาด” อาจารย์ช้างได้อธิบายเสริมอีกว่าสีดวงตาที่ตัดกันชัดเจนจะทำให้ดวงตาดูสดใส มีพลัง เวลาเจอหน้าใครก็จะส่งพลังที่ดีออกไป
อีกบริเวณที่สำคัญ เพราะจะเป็นจุดโหงวเฮ้งส่งเสริมให้คู่ชีวิตเจริญก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นก็คือบริเวณ “โหนกแก้ม” เพราะพื้นที่บริเวณนี้หมายถึงยศฐาบรรดาศักดิ์ คนที่มีเนื้อบริเวณโหนกแก้มสูง อิ่ม เต็ม ก็จะช่วยส่งผลให้เราได้คู่ครองที่ดี รวมถึงส่งเสริมให้คู่ครองมีความเจริญยิ่งขึ้นไปอีกด้วย

โหงวเฮ้งไหนที่ในอดีตไม่ดี แต่ปัจจุบันนับว่าดี ?
หลังจากรู้หลักการดูโหงวเฮ้งคร่าวๆ และลักษณะโหงวเฮ้งเด่นๆ ไปแล้ว เราก็ชวนอาจารย์ช้างพูดคุยถึงการทำงานในแวดวงโหราศาสตร์ ฮวงจุ้ย และการดูโหงวเฮ้ง ที่อาจารย์คลุกคลีมาตลอด 20 ปี ซึ่งอาจารย์ก็ได้เล่าให้ฟังถึงความเปลี่ยนแปลงของบริบททางสังคมที่ส่งผลต่อการอ่านโหงวเฮ้งไว้ด้วย
“อย่างที่บอกไปว่าลักษณะโหงวเฮ้งที่ดี ไม่ว่าจะอยู่ในยุคไหนสมัยใดก็คือคนโหงวเฮ้งดี แต่เมื่อบริบทสังคมเปลี่ยน การแปลความหมายของโหงวเฮ้งก็มีเปลี่ยนแปลงตาม อย่างเช่นสมัยก่อนคนนิยมผู้หญิงคิ้วบาง เพราะหมายถึงมีพลังหยินดี ผู้หญิงที่คิ้วเข้มจะถูกบอกว่าหาสามียาก เพราะมีพลังหยางเยอะ แต่ในปัจจุบันวัฒนธรรมเปลี่ยนไป ผู้หญิงที่มีพลังหยางเยอะ แสดงอารมณ์เยอะ ทำงานเก่ง ไม่ได้หมายความว่าจะหาสามียากเสมอไป”
นอกจากนี้อาจารย์ช้างยังได้ยกตัวอย่างถึงเรื่องโหงวเฮ้งเสียงว่า สมัยก่อนผู้หญิงที่เสียงแหบเสียงใหญ่ จะหมายความว่ามีพลังหยางเยอะ จะทำให้มีปัญหาด้านความรักได้ แต่เช่นเดียวกันกับโหงวเฮ้งเรื่องคิ้ว ค่านิยมในปัจจุบันที่เปลี่ยนไปผลักดันให้ไม่ว่าเพศไหนก็มีความเท่าเทียมกันมากขึ้น ผู้หญิงที่มีพลังหยางเยอะ จึงไม่ได้แปลว่าจะโหงวเฮ้งไม่ดีนั่นเอง

คนดังคนไหน โหงวเฮ้งปัง ?
พูดถึงลักษณะโหงวเฮ้งที่ดีและไม่ดีกันมาเสียยืดยาว ทีมบิวตี้เลยขอให้อาจารย์ช้างช่วยยกตัวอย่างหน่อยว่าคนดังคนไหนที่โหงวเฮ้งดีบ้าง ซึ่งอาจารย์ได้ยกตัวอย่างมา 2 คนด้วยกัน นั่นก็คือ ‘คุณเบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์’ ศิลปินระดับตำนานของเมืองไทย และ ‘คุณอั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ’ นางเอกแถวหน้าที่ยังคงสวยค้างฟ้าไม่เปลี่ยนแปลง
อาจารย์ช้างได้อธิบายถึงลักษณะโหงวเฮ้งของสองซูเปอร์สตาร์ไว้ว่าเป็นคนที่มีพลังงานที่ดี ดวงตาสดใส ยิ้มแย้มอารมณ์ดีอยู่เสมอ ที่สำคัญคือทั้งคู่ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ถ้าได้เจอเวลาไม่แต่งหน้าจะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า ผิวพรรณ ของทั้งคู่ยังคงเนียนละเอียดและอ่อนเยาว์ ซึ่งเป็นลักษณะโหงวเฮ้งที่ดีที่สำคัญที่สุดนั่นเอง