ถ้าถามเราว่าตลอดปีปี 2022 ชื่อนวัตกรรมที่เพิ่งเข้ามาใหม่ แต่มาแรงแซงทุกอย่างมากที่สุดคืออะไร HELLO! ขอบอกเลยว่ามันคือ ‘Pico Laser’ แม้จะเป็นนวัตกรรมเลเซอร์ที่มีมานาน แต่ช่วงปีที่ผ่านมากลับได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นจนน่าตกใจ นั่นอาจเป็นเทรนด์ผิวเนียนกระจ่างใสกำลังกลับมา และคงไม่มีเลเซอร์ชนิดใดจะตอบโจทย์ได้ดีไปกว่าเครื่องนี้อีกแล้ว
เมื่อคิดจะคุยลงลึกถึง Picosecond Laser เราก็ต้องขอชวนแพทย์ผิวหนัง American Board อย่าง ‘หมอเบนซ์-นพ.ณัฐภัทร มีนชัยนันท์’ แห่ง Alpha Medical Clinic มาให้ความรู้ และปรับความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเลเซอร์ที่คนส่วนใหญ่ยังมีอยู่ เชื่อว่าหลายคนที่ได้อ่าน HELLO! Beauty & Health Digital Cover ฉบับธันวาคมของเราจบแล้ว จะต้องอยากลุกไปเลเซอร์หน้าใสกันอย่างแน่นอน

Pico Laser นวัตกรรมมาแรงแห่งยุค
“เทรนด์การเสริมความงามไม่ได้เปลี่ยนแปลงเยอะและรวดเร็วขนาดนั้นในแต่ละปี ยิ่งกลุ่มนวัตกรรมเลเซอร์ด้วยแล้ว เทรนด์ยังคงอยู่ที่เรื่อง ‘ผิวขาวกระจ่างใส เนียนเรียบ ไร้รูขุมขน’ ซึ่งผมเชื่อว่าในปี 2023 ก็จะยิ่งได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น” คุณหมอเบนซ์กล่าว
“สาเหตุที่ Picosecond Laser ได้รับความนิยมสูงมากในกลุ่มเลเซอร์ด้วยกันเอง เพราะสามารถจัดการปัญหาผิวได้แทบทั้งหมดในเครื่องเดียว ไม่ว่าจะปัญหาหลุมสิว รูขุมขนกว้าง รอยดำ รอยแดง ฝ้า กระ รวมถึง แผลเป็น และรอยสัก ซึ่งนอกจากจะจัดการปัญหาได้ทั้งหมดแล้ว ผลลัพธ์ที่ทำได้ยังเหนือกว่าเทคโนโลยีเลเซอร์อื่นๆ อีกด้วย จนทำให้ได้รับฉายาว่าเป็น ‘พระเจ้าแห่งงานผิว’ “
คุณหมอเบนซ์ได้อธิบายให้เราเข้าใจเห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้นว่าในบรรดากลุ่มเลเซอร์ด้วยกันนั้น หลายเครื่องจะเน้นจัดการปัญหาผิวเฉพาะอย่าง ตัวอย่างเช่น เลเซอร์ Q-Switch จะจับรอยดำได้ดี ขณะที่เลเซอร์ Dual Yellow จะจับรอยแดง หรือ E-Matrix ช่วยได้ดีเฉพาะหลุมสิว boxcar scar เท่านั้น ทำให้ไม่ตอบครบทุกโจทย์สำหรับคนที่มีปัญหาผิวหลากหลาย นอกจากนี้ตัวเครื่อง Picosecond Laser ยังมีหลายหัว ตั้งแต่ขนาดเล็กมาก ไปจนถึงขนาดใหญ่ และพลังงานที่มหาศาล รวมถึงความเร็ว ระดับ 1 ต่อล้านๆ วินาที ทำให้สามารถยิงได้แทบทุกปัญหาผิว ไปพร้อมๆ กันในเครื่องเดียว
Pico Laser ทำงานยังไง ?
ชื่อของ Picosecond Laser มาจากการที่เครื่องปล่อยพลังงานเลเซอร์มหาศาลลงที่ผิวในระยะเวลาอันสั้น เพียง 1 ในล้านล้านวินาที โดยก่อนปล่อยเลเซอร์ออกไป เครื่องจะทำการจับกับ Chromophore (โครโมโฟร์) ใต้ผิว อย่างเช่น จับกับน้ำใต้ชั้นผิว เมื่อยิงเลเซอร์ลงไปจะกระตุ้นคอลลาเจนทำให้ผิวอิ่มฟูขึ้น หรือจับกับ Haemoglobin (ฮีโมโกลบิน หรือ ค่าระดับโปรตีนในเซลล์เม็ดเลือดแดง) ทำให้กำจัดรอยแดงได้
และอย่างที่คุณหมอเบนซ์ได้เกริ่นไปข้างต้นถึงความสามารถของเครื่องเลเซอร์นี้ที่ครอบคลุมจบทุกปัญหาผิว เราจะมาลิสต์กันให้เห็นชัดๆ อีกครั้งว่า Picosecond Laser สามารถจัดการปัญหาใดได้บ้าง
- กำจัดรอยดำ รอยแดง เม็ดสี ฝ้า กระตื้นและลึก
- จัดการปัญหาหลุมสิว ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นถาวร หรือแม้แต่ ทำให้สิวที่กำลังอักเสบยุบลง
- แก้ปัญหารูขุมขนกว้าง กระตุ้นคอลลาเจนทำให้ผิวอิ่มฟู
- ทำให้ผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอ อาทิ แก้ปัญหารอยแผลเป็นคีลอยด์
- รักษาปาน
- ลบรอยสัก
ด้วยประสิทธิภาพดังกล่าวนี่เอง จึงทำให้เคสคนไข้ที่เข้ามาใช้บริการ Picosecond Laser มีทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่การรักษาปานให้กับเด็กแรกเกิด ไปจนถึงการรักษาฝ้ากระให้กับคนมีอายุเลยทีเดียว

เทคนิคการยิง Pico-Laser อันโด่งดัง
สิ่งแรกที่ทุกคนต้องทำความเข้าใจก่อนเลยคือ แม้จะใช้เครื่องเดียวกัน แต่แพทย์ที่ทำการรักษาเป็นคนละคน ก็อาจให้ผลลัพธ์ไม่เหมือนกัน นั่นก็เพราะแพทย์แต่ละคนล้วนมีเทคนิคเฉพาะตัว
อย่างคุณหมอเบนซ์นั้นเป็นที่รู้จักเลื่องลือถึงฝีมือในการยิง Picosecond Laser นอกจากทางคลินิกจะเลือกใช้เครื่องที่ได้มาตรฐานระดับโลกแล้ว ตัวคุณหมอเองยังบินไปเรียนเทคนิคการยิงถึงฮาร์วาร์ดกับ Professor ชื่อดังระดับโลกอย่าง Dr. Rox Anderson ได้เรียนรู้ตั้งแต่วิธีการวิเคราะห์ปัญหา การวางแผนการรักษา ทักษะการใช้มือหรือ Hand Skills ขณะยิงเลเซอร์รวมทั้งเทคนิคเฉพาะอีกหลายเทคนิค
ซึ่งคุณหมอเบนซ์ได้นำมาพัฒนาต่อจนเป็นเทคนิคการยิง Pico เลเซอร์ ขั้นสูงอันโด่งดัง ทำให้คุณหมอจะมีเคสยิง เลเซอร์ 6 วันต่อสัปดาห์ วันละไม่น้อยกว่า 5 ชั่วโมง จนถือเป็นแพทย์ที่ยิง Pico เลเซอร์ มากที่สุดในไทย
นอกจากฝีมือของคุณหมอแล้ว คุณหมอเบนซ์ยังบอกอีกว่าเทคนิคสำคัญก็คือ “การให้ความรู้กับคนไข้” เพราะแม้จะใช้เครื่องที่ดีที่สุด ทำโดยหมอที่เก่งที่สุด แต่ถ้าคนไข้ไม่มีความรู้ในการดูแลตัวเอง การรักษาก็ไม่อาจเกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดได้
“เวลาคนไข้เข้ามาหา เราก็จะให้ความรู้ก่อนเลยว่าเครื่องทำงานยังไง ก่อนและหลังยิงเลเซอร์ต้องดูแลตัวเองยังไง ใช้สกินแคร์แบบไหน อย่างก่อนยิงหมอจะแนะนำให้ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เยอะๆ เพื่อให้ในผิวมีความชุ่มชื้น เวลายิงไปแล้วเลเซอร์จะจับกับน้ำใต้ชั้นผิว ทำให้สร้างคอลลาเจนได้ดี ผิวไม่แห้ง และห้ามทาสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ AHA หรือ BHA เด็ดขาด”
“นอกจากให้ความรู้แล้ว เราจะวิเคราะห์ปัญหาให้คนไข้ทั้งหมดด้วย บางคนเข้ามาแล้วบอกอยากรักษากระ แต่เราจะดูให้ว่าตอนนี้มีปัญหาอะไรอยู่ และควรเริ่มจากทำอะไรก่อน ควรทำกี่ครั้ง และแต่ละครั้งสามารถยิงได้มากแค่ไหน” คุณหมอเบนซ์กล่าวเสริมพร้อมกับย้ำว่าเจ้าตัวจะคอยบอกคนไข้เสมอว่าไม่ต้องเชื่อที่หมอพูดทั้งหมดก็ได้ สามารถไปลองเช็กข้อมูลด้วยตนเองได้
คนไข้แต่ละคนมาหาหมอก็มีปัญหาแตกต่างกัน คำว่าสวยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน หมอมาทำตรงนี้เพราะอยากสนับสนุนให้ทุกคนสวยขึ้น และมั่นใจขึ้น ในแบบที่เป็นตัวเขาเอง อย่างชื่อ Alpha Medical Clinic ก็ตั้งใจสื่อถึงการเปลี่ยนคนไข้ของเราให้เป็นสาว ALPHA หรือสาวที่มีความมั่นใจจากข้างใน เมื่อเราสวยขึ้น เราจะยิ่งมั่นใจ พอทำอะไรก็ยิ่งออกมาดูดี มีเสน่ห์ และเป็นที่จับตามอง
หมอเบนซ์ – นพ.ณัฐภัทร มีนชัยนันท์

4 สิ่งที่คนเข้าใจผิดเกี่ยวกับเลเซอร์
ถึงแม้ว่าปีที่ผ่านมาการทำ Picosecond Laser จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ก็ยังมีหลายจุดที่คนยังเข้าใจผิดอยู่ เราจึงถือโอกาสนี้พูดคุยกับคุณหมอเบนซ์เพื่อเคลียร์ความเข้าใจกันใหม่ ข้อแรกคือ คือ “เลเซอร์ ไม่ได้ทำครั้งเดียวแล้วจบเลย” หลายครั้งที่คนมักเข้าใจผิดว่าสามารถยิงครั้งเดียวแล้วจบทุกปัญหาได้เลย แต่อันที่จริงแล้วต้องพิจารณาเป็นเคสไป บางคนมีปัญหาไม่เยอะ อาจสามารถทำครั้งเดียวได้ แต่บางเคสคุณหมอก็จะแนะนำให้ยิงหลายครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน และจบปัญหา
ถัดมาข้อที่สองที่เราเคยพูดกันไปแล้วว่า “เครื่องเหมือนกัน แต่หมอคนละคน ผลลัพธ์ย่อมไม่เหมือนกัน“ เพราะความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และเทคนิคเฉพาะตัวของคุณหมอแต่ละคน โดยคุณหมอเบนซ์ได้อธิบายว่าอย่างที่ Alpha Medical Clinic เองแพทย์ทุกคนจะต้องผ่าน Board เฉพาะทางด้านเลเซอร์โดยตรง หรือ Board ด้านผิวหนัง หรืออย่างน้อย คือจบปริญญาโท สาขาตจวิทยา (Dermatology) และจะต้องผ่านการเทรนเรื่องการยิงเลเซอร์โดยตรงกับเรา เพราะไม่มีโรงเรียนแพทย์และโรงพยาบาลไหน สอนแพทย์ยิงเลเซอร์จนชำนาญ ตั้งแต่เรียนจบ แม้จะมีความรู้ แต่ทักษะ ประสบการณ์ และเทคนิคต้องมา เทรนเพิ่มเติมจนชำนาญก่อนยิงให้ลูกค้า นี่คือมาตรฐานของ Alpha
ข้อที่สามคือ “Pico Laser ต่อให้เรียกเหมือนกัน แต่เครื่องคนละยี่ห้อ ประสิทธิภาพต่างกันมาก” โดยคุณหมอเบนซ์อธิบายให้เราเข้าใจอย่างง่ายๆ ว่า Picosecond Laser คือชื่อของเทคโนโลยีของเลเซอร์ ที่สามารถยิงได้ไวระดับ 1 ต่อล้านๆ วินาที ก็จะนับว่าเป็น Picosecond laser
แต่ทว่าใน Picosecond laser ด้วยกันเอง ก็มีตัวที่ยิงได้ไวกว่าและช้ากว่า อย่าง Pico StarWalker PQX จากบริษัท Fotona ที่คลินิกใช้นั้นมีเพียงเครื่องเดียวในประเทศไทย และปัจจุบันยังถือเป็น Pico Laser ระดับ world class ทั้งด้านกำลังเครื่องสูงที่สุดในโลก พลังงานมากที่สุดในโลก และ pulse duration สั้นที่สุดในโลก ซึ่งหมายถึง ยิงได้ไวที่สุดในโลก เพราะใช้เวลาเพียง 300 picoseconds เท่านั้นในการกระแทกเม็ดสี
ซึ่งตามทฤษฎีการกระแทกเม็ดสียิ่งเร็ว ยิ่งแตกละเอียดเป็นผุยผง และร่างกายกำจัดได้โดยง่าย จึงทำให้เป็น Pico Laser ที่ยืนหนึ่งด้านกำจัด รอยดำ ฝ้า กระ และรอยสัก ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยหัวมากกว่า 11 หัว 20 กว่าโหมด จึงตอบโจทย์รูขุมขนและหลุมสิวได้ดีมากๆ “ถ้าเปรียบเทียบ Pico Laser ก็เหมือนกับโบท็อกซ์ ที่มีทั้งเกรดอเมริกา เยอรมัน และ เกาหลี คุณภาพย่อมไม่เท่ากัน ซึ่งทางเราเลือก Pico Laser ตัวที่สเปคสูงที่สุดในโลก ณ เวลานี้มาใช้” คุณหมอเบนซ์กล่าวปิดท้าย
ดังนั้นคนไข้ควรศึกษาให้ดีก่อนเข้าไปทำเลเซอร์ เพราะ Picosecond Laser เป็นเครื่องที่ใช้พลังงานสูง และมีหลายรุ่น หลายสเปค เครื่องบางยี่ห้ออาจไม่ได้มาตรฐานอย. หรือผ่านแต่ไม่ครบทุกโหมด มีหลายเครื่องไม่ผ่าน อย.สหรัฐ (US FDA) สำหรับยิงหลุมสิวและ รูขุมขนกว้าง
แต่ที่ Alpha ทุกเครื่องจะต้องผ่าน US FDA ปลอดภัยและเห็นผลจริงในทุกโหมด โดยคุณหมอเบนซ์ยังได้เล่ารายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยให้ฟังว่า “ภายในห้องยิงเลเซอร์ของเราจะต้องไม่มีน้ำ เพื่อไม่ให้มีความชื้น แม้จะมีก๊อกน้ำทิ้งไว้ตามกฎสาธารณสุข แต่ก็ปิดท่อเพื่อไม่ให้มีการใช้น้ำในห้อง ส่วนแว่นกันแสงที่คนไข้สวมจะต้องได้มาตรฐาน สามารถกันแสงเลเซอร์ได้ 100% รวมถึงเครื่องจะต้องบำรุงรักษาเป็นประจำ มีการทำความสะอาดหัวยิงสม่ำเสมอ และต้องถูกวิธี”
และข้อสุดท้ายคือ “การทำเลเซอร์ ไม่ได้ทำให้ผิวบางลง” หลายคนที่ได้ยินคำว่าเลเซอร์หน้าใส อาจกังวลว่าทำให้ผิวบางลงหรือเปล่า แต่อย่างที่คุณหมอเบนซ์เล่าไปตอนต้นว่าการยิง Picosecond Laser จะเกิดการจับตัวกับน้ำ ซึ่งอาจทำให้ผิวแห้งได้ จนคิดไปเองว่าผิวบาง
แต่เนื่องจาก Picosecond Laser สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดีมาก จึงไม่ได้ทำให้ผิวบาง ในทางตรงกันข้าม หากทำเป็นประจำ จะช่วยให้ชั้นผิวหนาและแข็งแรงขึ้นด้วยซ้ำ ซึ่งที่คลินิกของคุณหมอเบนซ์เองจะมีเครื่องตรวจผิว ultrasound วัดผลลัพธ์ก่อน-หลังทำ ช่วยให้คนไข้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าการยิงเลเซอร์ไปแล้วชั้นผิวมีความบางลงหรือไม่ รวมทั้งมีเครื่อง 3D ที่ใช้ส่องคุณภาพผิวและผลลัพธ์ก่อนหลังทำในทุกมิติ