ฟังความเปลี่ยนแปลงของเทรนด์ Ulthera ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาจาก ‘หมอเติ้ล-นพ.อภิรุจ ทองวัฒน์’
ในยุคที่คำว่า “ความสวย” ถูกนิยามไว้ด้วยความมั่นใจ เป็นตัวของตัวเอง และดูอ่อนเยาว์สดใส จึงไม่แปลกที่ใครต่อใครต่างมองหาตัวช่วยที่มากกว่าสกินแคร์ และสามารถยืดอายุของใบหน้าให้แก่ช้าลงได้ ซึ่งในฐานะแพทย์เจ้าของคลินิกแถวหน้าในเมืองไทย หมอเติ้ล-นพ.อภิรุจ ทองวัฒน์ จึงมีโอกาสเฝ้ามองเทรนด์ความงามที่เปลี่ยนแปลงตลอดทศวรรษที่ผ่านมา และจะมาเล่าสู่กันฟังใน HELLO! Beauty & Health Digital Cover ฉบับนี้ว่า Ulthera หนึ่งในนวัตกรรมชะลอวัยที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปี 2022 เปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง
หากย้อนเวลากลับไปสัก 10 หรือ 20 ปีที่แล้ว การเดินเข้าสถาบันความงามเพื่อฉีดโบท็อกซ์ ร้อยไหม หรือทำทรีตเมนต์อื่นใดเพื่อยกกระชับใบหน้า ฟังดูเป็นเรื่องใหญ่ ต้องตัดสินใจนาน ไม่ได้เป็นเรื่องทั่วไปที่คนจากทุกช่วงอายุจะทำ แต่ปัจจุบันใครๆ ก็ล้วนพึ่งคลินิกและหมอให้เป็นตัวช่วยในการรักษาความดูดีแทบทั้งสิ้น
และถ้าถามว่า Ulthera (อัลเทอร่า) ได้รับความนิยมมากขนาดไหน ก็คงต้องตอบว่าตลอด 5 ปีของการสำรวจพฤติกรรมเหล่าเซเลบริตี้คนดังในการดูแลตัวเองผ่าน HELLO! Beauty Awards นั้น ชื่อของนวัตกรรม Ulthera จะติดโผท็อป 3 ที่ได้รับความนิยมสูงสุดเรื่อยมา สำหรับ HELLO! Beauty & Health Digital Cover ฉบับสิ้นปีนี้เราจึงไม่พลาดชวน คุณหมอเติ้ล แห่ง THE KLINIQUE มาพูดคุยลงลึกถึงเรื่อง Ulthera กัน

Ulthera เทรนด์ชะลอวัยแห่งปี 2022
เมื่อถามคุณหมอเติ้ลถึงเทรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปี 2022 นี้ คุณหมอก็ตอบทันทีว่า “เทรนด์หลักคือเรื่องยกกระชับปรับรูปหน้า ซึ่งทางแก้ไขมีทั้งแบบศัลยกรรมและไม่ศัลยกรรม ในปัจจุบันถ้าปัญหาไม่ได้เยอะมาก คนก็จะไม่นิยมศัลยกรรมผ่าตัดกัน ทำให้การยกกระชบด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ติดท็อปนวัตกรรมที่ได้รับความนิยมสูงสุดแห่งปี”
“อันที่จริงการยกกระชับด้วยคลื่นอัลตราซาวด์อยู่มาเป็น 10 ปีแล้ว ไม่ว่าจะ Mini Ulthera หรือ HIFU แต่ตัวท็อปสุดก็คือ Ulthera ที่สามารถให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับการผ่าตัดผิว แต่ไม่ต้องพักฟื้น ไม่เกิดแผล ผิวยกกระชับเองตามธรรมชาติล้วนๆ”
ทิศทางในปี 2023
ด้วยความที่ THE KLINIQUE มีเครื่อง Ulthera กว่า 30 เครื่อง ซึ่งถือว่าเป็นสถาบันเสริมความงามที่มีเครื่องให้บริการสูงที่สุดในเอเชีย จึงทำให้คุณหมอเติ้ลได้มีโอกาสรักษาเคสมากมาย จนสามารถเล็งเห็นเทรนด์ในแต่ละช่วงเวลาได้อย่างชัดเจน “ส่วนตัวหมอคิดว่าปีหน้าการยกกระชับปรับรูปหน้าก็จะยังอยู่ในกระแส แต่คนไข้น่าจะชอบการ Personalization มากขึ้น ซึ่งผู้ทำการรักษาอย่างหมอเองก็ต้องตามเทรนด์ตรงนี้ให้ทัน เมื่อก่อนหมออาจจะมีหน้าที่วิเคราะห์และเลือกว่าควรทำแบบไหน เพราะคำว่าสวยในสังคมไม่ได้หลากหลายและเปิดกว้างเหมือนทุกวันนี้”
“แต่ปัจจุบันทุกคนชอบที่จะเป็นตัวเอง ไม่ได้เป็นเหมือนใคร ทำให้บางคนเข้ามาทำ Ulthera อาจจะอยากให้หน้ายกหน้าเรียววีเชปเลย แต่บางคนอาจจะแค่อยากยกส่วนที่หย่อนคล้อย แต่ยังเก็บแก้มส้มเอาไว้ สิ่งเหล่านี้หมอก็จะต้องปรับเปลี่ยนการรักษาไปตามความต้องการของคนไข้ให้ได้”


อัพเดตเทคนิคการทำ Ulthera ที่ผ่านมาในช่วง 10 ปี
อย่างที่คุณหมอเติ้ลได้เล่าไปว่านวัตกรรม Ulthera ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด รวมถึงเทคนิคการยิงก็มีการอัพเดตใหม่อยู่เรื่อยๆ ทำให้ใครที่เคยทำ Ulthera เมื่อหลายปีก่อนแล้วรู้สึกเจ็บมาก หรือผลลัพธ์ออกมาไม่ตรงตามความต้องการ คุณหมอเติ้ลบอกเลยว่า “ปัจจุบันเครื่องได้รับการอัพเดตซอฟต์แวร์เพิ่ม รวมถึงเทคนิคการรักษาของแพทย์ยังมีการอบรมและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การรักษามีประสิทธิภาพขึ้นมาก”
รุ่นล่าสุดที่สายบิวตี้หลายคนคงเคยได้ยินกันแล้วก็คือ ‘Ulthera SPT’ เป็นเครื่องรุ่นล่าสุดที่ออกแบบและพัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับการรักษาที่ดียิ่งขึ้น โดยตัวอักษร SPT นั้นย่อมาจากความสามารถในการทำงานของนวัตกรรมรุ่นใหม่นี้
- See : มีหน้าจอแสดงผล สามารถมองเห็นชั้นผิวได้ครบทุกชั้น
- Plan : การมีหน้าจอแสดงผล ทำให้แพทย์สามารถใช้เครื่องประเมินสภาพผิวก่อนเริ่มการยิง และวางแผนการรักษาว่าจะต้องใช้จำนวนช็อตเท่าไหร่ ในบริเวณไหนบ้าง ได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ ระหว่างทำการรักษาก็จะสามารถมองเห็นได้ด้วยว่ายิงพลังงานลงไปตรงไหนบ้าง เพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- Treat : นอกจากจะสามารถมองเห็นทุกชั้นผิวทั้งก่อนและระหว่างยิงคลื่นพลังงานแล้วนั้น ตัวเครื่องยังพัฒนาให้เทคนิคการยิงรู้สึกเจ็บน้อยลง คนไข้จึงสามารถให้ความร่วมมือระหว่างทำการรักษาได้ดียิ่งขึ้น เกิดผลลัพธ์ที่ดีสูงสุด
หลังจากอธิบายถึงเครื่อง Ulthera รุ่นล่าสุดที่พัฒนาขึ้น จนทำให้ปี 2022 นวัตกรรมยกกระชับด้วยคลื่นพลังงานได้รับความนิยมแบบพุ่งพรวดแล้ว คุณหมอเติ้ลยังแชร์ให้ฟังอีกด้วยว่าเทรนด์การทำ Ulthera ในปัจจุบันก็เปลี่ยนไปจากแต่ก่อน
เมื่อ 5-10 ปีที่แล้ว คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาทำ Ulthera จะอยู่ในช่วงอายุ 35-40 ปีขึ้นไป เนื่องจากคนมักเข้าใจว่าการทำ Ulthera ถือเป็นนวัตกรรมที่คล้ายคลึงกับการผ่าตัดดึงหน้า แค่ไม่ต้องศัลยกรรม ทำให้รู้สึกเข้าถึงยาก แต่ปัจจุบันคนรุ่นใหม่เข้าถึงข้อมูลได้เยอะขึ้น เข้าใจตัวนวัตกรรมมากขึ้นว่าไม่ได้ช่วยแค่เรื่องยกกระชับริ้วรอยเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยลดไขมันและกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวดูอิ่มฟูได้ด้วย
ทำให้ในปัจจุบันคนไข้ที่เข้ามาทำ Ulthera มีความหลากหลายสูง ตั้งแต่เด็กวัยรุ่น ไปจนถึงวัย 50-60 ปีเลยทีเดียว “นอกจากเรื่องวัยแล้ว เพศก็หลากหลายขึ้น ปัจจุบันทั้งผู้หญิงและผู้ชายเข้าคลินิกเหมือนกัน ทำให้หมอคิดโปรแกรม Ulthera For Men ขึ้นมา คือใช้เครื่องเดียวกัน แต่ดีไซน์การปรับรูปหน้าต่างกัน อย่างเช่น ผู้ชายอาจจะไม่ได้อยากหน้าวีมาก แต่เน้นช่วงสันกรามให้ดูคมชัด รวมถึงผิวของผู้ชายมีความหนากว่าชั้นผิวของผู้หญิงถึง 25%”
การเปลี่ยนแปลงในเทรนด์การทำ Ulthera ข้อสุดท้ายที่คุณหมอเติ้ลสรุปให้เราฟังก็คือ “เมื่อก่อนคนจะเข้าใจว่า Ulthera นี่ทำกับใบหน้าอย่างเดียว แต่ปัจจุบันเทรนด์การทำ Ulthera Body ก็เริ่มมามากขึ้น ไม่ว่าจะท้องแขน หน้าท้อง หรือแม้แต่ผิวหลังมือที่จะเกิดริ้วรอยและความเหี่ยวย่นก็ช่วยยกกระชับได้”

3 สิ่งที่คนเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Ulthera
ข้อแรกเลยที่อยากให้ทุกคนเข้าใจใหม่เกี่ยวกับการทำ Ulthera คือ “เจ็บน้อยลงกว่าเมื่อก่อนมาก” ด้วยเทคโนโลยีของเครื่องมือที่ได้รับการพัฒนา บวกกับเทคนิคการยิงที่ได้รับการอัพเดตใหม่อยู่เสมอ อย่างที่ THE KLINIQUE ก็มีการส่งแพทย์ไปเทรนกับแพทย์ระดับโลกเป็นประจำ ทำให้คนไข้ 70% – 90% บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเจ็บน้อยลง
ถัดมาคือ “Ulthera มีเพียงเครื่องเดียว” การตลาดหลายที่อาจจะนำเสนอโปรแกรมโดยใช้คำว่า HIFU Ulthera หรือ Mini Ulthera แต่ที่จริงแล้ว Ulthera นั้นมีแค่เครื่องแบบเดียว ถ้าเป็นนวัตกรรมอื่นๆ ถึงแม้จะใช้การยิงคลื่นพลังงานเหมือนกัน แต่ซอฟต์แวร์ของเครื่องก็ไม่เหมือนกัน รวมถึงเครื่องอื่นๆ จะไม่สามารถมองเห็นทุกชั้นผิวของคนไข้ได้
และข้อสุดท้ายคือ “เครื่องเดียวกัน แต่หมอคนละคน ก็ให้ผลลัพธ์ไม่เหมือนกัน” นอกจากการเลือกนวัตกรรมที่น่าเชื่อถือและปลอดภัยแล้ว การเลือกแพทย์ผู้ทำการรักษาเองก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับประสบการณ์และฝีมือของแพทย์ โดยเฉพาะการทำ Ulthera ที่ยิงพลังงานลงลึกถึงชั้น SMAS ที่มีกล้ามเนื้อและเส้นประสาท ถ้าแพทย์ที่ทำการรักษาไม่เชี่ยวชาญ บางกรณีก็อาจเกิดผลข้างเคียงได้ อย่าง คิ้วตก หรือหน้าชา
ปัจจุบันคำว่าสวยไม่จำเป็นต้องจมูกโด่งตาโตหน้าเรียว แต่คำว่าสวยคือการดูดีในแบบของตัวเอง ในฐานะหมอ เรามีหน้าที่ดูว่าทำแค่ไหนถึงจะพอดีและปลอดภัย
หมอเติ้ล-นพ.อภิรุจ ทองวัฒน์
