Home > Beauty & Health > Quiet Quitting คือ สภาวะทิ้งใจ แต่ไม่ได้ทิ้งตัว คนทำงานไม่อยากทุ่มเทเกินกว่าหน้าที่ได้รับมอบหมาย

Quiet Quitting คือ อะไร?

คนทำงานในปัจจุบันกำลังประสบปัญหาทั้งเรื่องโรคโควิด-19 หรือแม้แต่ Great Resignation การลาออกครั้งใหญ่หลังสภาวะโรคระบาด ทำให้คนทำงานเจอสภาวะต่างๆ มากมายทั้ง หมดไฟการทำงาน มีคนทำงานไม่เพียงพอ หรือแม้แต่ปัญหาจากเพื่อนร่วมงาน และ คนที่เป็นหัวหน้างาน ซึ่ง Quiet Quitting อาจจะเป็นเฟสต่อไปของ Great Resignation ก็เป็นไปได้ ซึ่ง HELLO! อยากให้ทุกคนได้รู้จักแนวคิดนี้กัน

Quiet Quitting คือ

Quiet Quitting (ไควเอต ควิตติง) คือ อะไร เราอาจจะให้คำนิยามสั้น ๆ ไม่ได้ แต่น่าจะเข้าข่ายคำที่ว่า “ทำตามหน้าที่” เป็นการทำตามหน้าที่ในรายละเอียดของงานจริง ๆ จะไม่มีการทุ่มเททำงานเป็นพิเศษ เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่ใครทั้งนั้น ไม่ว่าจะเจ้านาย หรือ เพื่อนร่วมงาน รวมถึงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจที่ปฏิเสธที่จะทำ เช่น การตอบอีเมลยามเย็น หรือเวลาสุดสัปดาห์ และ งานพิเศษที่เกินจากหน้าที่หลัก ซึ่งแน่นอน Gen Z หรือเด็กรุ่นใหม่กำลังถูกจับตาเรื่องนี้เป็นพิเศษ

เพราะนับตั้งแต่เกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ หลายคนเกิดความรู้สึกเบื่อ เหนื่อยหน่าย ท้อใจ จากการทำงานที่เกินหน้าที่ และ เกินเวลา แต่กลับไม่ได้รับคุณค่าจากเพื่อนร่วมงานหรือผู้บังคับบัญชาในองค์กรที่ตัวเองได้สังกัดอยู่

ถ้าจะเทียบกับเคสคนทำงานหมดไฟจากการหนักมากเกินไป หรือเรารู้จักกันในนาม “Burnout Syndrome” ภาวะหมดไฟที่เป็นความเครียดสะสมเรื้อรังจากการทำงาน และ ไม่ได้รับการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้จัดเป็นปัญหาทางด้านสุขภาพอย่างหนึ่ง ซึ่งควรได้รับการดูแลจากแพทย์เฉพาะทางก่อนจะรุนแรง และ คุกคามการใช้ชีวิต

ส่วน Quiet Quitting กลายเป็นเทรนด์ฮิตขึ้นในติ๊กต็อกจากผู้ใช้คนนึงที่ ซาอิด ข่าน (Zaid Khan) วิศวกรจากนิวยอร์ก ที่เขาพูดเรื่องนี้ในคลิปไว้ว่า

“คุณยังคงทำตามหน้าที่ต่อไป แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมีวัฒนธรรมการทำงานที่เร่งรีบที่ส่งผลต่อจิตใจ ชีวิตเป็นของเรา ส่วนความเป็นจริงคือ ไม่สามารถทำได้ คุณค่าของคนไม่ได้นิยามโดยผู้ใช้แรงงาน”

มีการตั้งข้อสังเกตว่า แนวคิดแบบอาจจะมาจากประเทศจีน ที่มีกระแสติด #tangping (ถ่างผิง) ที่มีความหมายว่า “นอนราบ” ซึ่งแฮชแท็กนี้ในดินแดนมังกรก็ถูกปิดกั้นไปเรียบร้อย เป็นเหมือนการต่อต้านของผู้คนในประเทศจีน ที่มีวัฒนธรรมการทำงานที่หนัก แต่ไม่สามารถได้รับค่าตอบแทนที่ทำให้รู้สึกได้ว่าคุ้มค่า นั้นเป็นสาเหตุให้คนรุ่นใหม่ไม่เอากับการทุ่มเทที่ไร้ค่า

คำว่า “ถ่าง ผิง” (นอนราบ) เป็นคำที่ถูกนำไปทำเป็นภาพจำนวนมากในโซเชียลมีเดียของจีน/ ภาพจาก Sina Weibo

ตัดกลับมาในสหรัฐอเมริกาแนวคิด Quiet Quitting เป็นเหมือนกับ “ยาแก้พิษ” ที่ถอนความเชื่อที่ต้องเร่งรีบในการทำงาน อ้างอิงจาก นาเดีย เด อลา (Nadia De Ala) ผู้ก่อตั้งองค์กร Real You Leadership องค์กรที่พัฒนาศักยภาพคนที่อยู่ในตลาดแรงงาน ที่เธอบอกว่า “ลาออกแบบเงียบ ๆ (quietly quit)” มาแล้ว 5 ปี ในงานก่อนหน้านั้นของเธอ (คือยังทำงาน แต่ก็ไม่ได้ทุ่มเทมาก)

“ค่อนข้างมีแรงต่อต้าน และ การทำลายโดยตรงของวัฒนธรรมที่เร่งรีบ และ ดิฉันก็คิดว่าตื่นเต้นที่ผู้คนเริ่มต่อต้านประเพณีบางอย่างที่ไม่สมเหตุสมผล” นาเดีย เด อลา กล่าว

มาดูฝั่งวิชาการเรื่องนี้จากทางฝั่งยุโรป โดย มาเรีย คอร์โดวิชซ์ (Maria Kordowicz) รองศาสตราจารย์ในการจัดการพฤติกรรมของ มหาวิทยาลัยน็อตติ้งแฮม และ ผู้อำนวยการศูนย์การเรียนรู้แบบสหวิชาชีพ ได้กล่าวว่า แนวคิด Quiet Quitting มีเชื่อมโยงกับความพอใจในอาชีพอย่างเห็นได้ชัดเจน

รองศาสตราจารย์ คอร์โดวิชซ์ พูดถึงเรื่องนี้ว่า “นับตั้งแต่เหตุการณ์โรคระบาดเกิดขึ้น ความสัมพันธ์ของผู้คนในโลกแห่งการทำงานได้รับการศึกษามากมายหลากหลายหนทาง โดยพูดถึงทั่วไปในแง่อาชีพ ก็มีการถกเถียงมากมาย ใช่เลย ตอนนี้โลกแห่งการต่อสู้มันได้เปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ”

คอร์โดวิชซ์ กล่าวเสริมเพิ่มเติมอีกว่า “การวิจัยมีความหมายที่ชัดเจนไปมากกว่าความเป็นความตายในช่วงโรคระบาด ความเป็นปัจเจกบุคคลที่มีความคิดเป็นของตัวเองว่า การทำงานมันมีความหมายอะไรสำหรับฉัน แล้วฉันจะทำบทบาทที่มีอยู่ให้มีคุณค่ามากกว่านี้ได้อย่างไร”

ซึ่งรองศาสตราจารย์ มาเรีย คอร์โดวิชซ์ กล่าวสรุป คือผู้คนต้องการ สมดุลในชีวิตทั้งเรื่องงาน และ เรื่องส่วนตัว ถ้าเกิดความพอใจในแง่ตัวงานน้อยลง แรงกระตุ้นก็จะลดลงตาม

แต่ในเมื่อผู้เห็นความสำคัญจากเรื่องนี้ ก็ย่อมมีผู้ไม่เห็นด้วยเช่นกัน

แพตตี อาห์ไซ ผู้เชี่ยวชาญด้านมารยาทในที่ทำงาน ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ที่โพสต์ไว้ทาง TikTok โดยชี้ว่า คุณไม่มีวันจะประสบความสำเร็จหากมีทัศนคติแบบนี้

“quiet quitting คือการทำงานให้น้อยที่สุดตามที่ตำแหน่งงานของคุณกำหนดไว้ และ พึงพอใจกับงานคุณภาพปานกลางนี้” เธอกล่าวต่อ BBC

“ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน และ การได้ขึ้นค่าจ้างจะตกอยู่กับผู้ที่ทุ่มเททำงานมากพอที่จะนำไปสู่ความก้าวหน้า ซึ่งไม่ใช่คนที่ทำงานขั้นต่ำอย่างแน่นอน” เธอกล่าวเพิ่มเติม

Quiet Quitting คือ อะไรหลายคนคงทราบที่มาที่ไปแล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องนี้อาจจะต้องหาตรงกลางให้ได้ระหว่างนายจ้าง และ ลูกจ้าง เพื่อความสุขในการทำงาน และ ผลงานก็ออกมาดีไปพร้อม ๆ กัน

HELLO! สนับสนุนให้ทุกคนดูแล รักษากายใจ ให้มีวันใหม่ที่สดใสในการทำงาน พร้อมรับมือกับทุกสภาวะ

อ่านเรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับราชวงศ์ ทั้งไทย และ ต่างประเทศ เซเลบริตี้ ข่าวสารใหม่ ๆ และ เรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพและความงามได้ที่ HELLO!

Featured images and images credit: Pexel

Reference:

https://www.cnbc.com/2022/09/02/how-quiet-quitting-became-the-next-phase-of-the-great-resignation.html

https://www.theguardian.com/money/2022/aug/06/quiet-quitting-why-doing-the-bare-minimum-at-work-has-gone-global

https://www.bbc.com/thai/international-62783704

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.