ริ้วรอย เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ถึงแม้ว่าริ้วรอยอาจจะดูไม่ได้เป็นภัยที่ร้ายแรงนัก แต่สำหรับหลายๆ คน อาจจะดูเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหญ่ เพราะการมีริ้วรอย นั่นหมายถึงการมีอายุที่เยอะ อีกทั้งยังส่งผลหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะทำให้ใบหน้าดูสูงวัย ดูเศร้าหมอง ไม่สดชื่น ความมั่นใจลดน้อยลง จึงทำให้การดูแลปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าอย่างถูกวิธี เป็นสิ่งที่ทุกคนเฟ้นหา และครั้งนี้ HELLO! Beauty & Health ก็ไม่พลาดที่จะมาเผยเคล็ดลับฟื้นคืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวด้วยสารลดเลือนริ้วรอย พร้อมข้อมูลสุดพิเศษ หรือที่รู้จักกันกับ โบม่วง WrinkleRelaxer จากอเมริกา
สาเหตุของการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า
ริ้วรอยบนใบหน้าสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ และหลายปัจจัย โดยสาเหตุหลักก็มาจากอายุที่มากขึ้น เมื่อคอลลาเจนที่เป็นโปรตีนช่วยให้ผิวหนังยืดหยุ่นลดลงจากกระบวนการเกิดของอายุ ผิวหนังก็จะส่งสัญญาณของการมีริ้วรอย และความหย่อนคล้อย อีกทั้งยังเกิดจากการที่กล้ามเนื้อหดตัวเมื่อเวลาแสดงอารมณ์ จนกลายเป็นริ้วรอยถาวร โดยส่วนมากจะเริ่มมีริ้วรอยเมื่ออายุประมาณ 30 ปีขึ้นไป
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น การที่ไม่ปกป้องผิวหนังจากอันตรายของแสงแดด รวมไปถึงนิสัย และพฤติกรรมของการดูแลผิวหนังในแต่ละบุคคล การดูแลผิวหนังที่ไม่ถูกต้อง หรือไม่เพียงพอ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้า การไม่ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างเหมาะสม หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมสำหรับประเภทผิวหน้าที่มีอายุเพิ่มขึ้นอาจทำให้ริ้วรอยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องได้
เคล็ดลับคงความอ่อนเยาว์ของผิว
การทวงคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว เป็นสิ่งที่แก้ไขได้ไม่ยาก แต่ก็ไม่ได้ง่ายซะทีเดียว แต่ละคนมักจะมีวิธีการดูแลผิว และริ้วรอยที่แตกต่างกันออกไป แต่หนึ่งในวิธีที่เห็นผลลัพธ์ทันใจมากที่สุดก็คือ การใช้สารลดเลือนริ้วรอย หรือที่หลายคนรู้จักกันดีกับคำว่า “Botulinum Toxin (โบทูลินั่ม ท็อกซิน)” เนื่องจากเป็นวิธีที่ได้รับความนิยม แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด ไม่กี่วันก็เห็นผล และมีความปลอดภัย
ฉีดสารลดเลือนริ้วรอยอย่างไรให้สวยเป๊ะ และปลอดภัย ?
หลักๆ ของเลือกฉีดสารลดเลือนริ้วรอย แน่นอนว่าควรพิจารณาจาก 3 สิ่งที่สำคัญ นั่นก็คือ คลินิกที่จดทะเบียนอย่างถูกต้อง ตามมาด้วยประสบการณ์ของแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญ และสิ่งสุดท้ายที่ห้ามพลาด นั่นก็คือ ตัวยาต้องมีประสิทธิภาพ และความปลอดภัย เพราะสารลดเลือนริ้วรอยนั้นมีหลายยี่ห้อ หลายคุณภาพ หากเลือกได้ไม่ดีก็อาจจะไม่ปลอดภัย และยังรวมไปถึงเทคนิคของแพทย์ที่ก็มีส่วนสำคัญในการรักษา ควรปรึกษาและหาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการฉีด
ทำไมการเลือกสารลดเลือนริ้วรอยจึงมีความสำคัญ ?
ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า สารลดเลือนริ้วรอย ที่เรารู้จักกันดี คือ Botulinum Toxin type A ซึ่งทุกคนมักจะเรียก สั้นๆ ว่า “โบ” แล้วต่อด้วยสัญชาติ เช่น โบอเมริกา โบเยอรมัน โบเกาหลี
ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีโบหลายยี่ห้อ ผลิตมาจากผู้ผลิตหลากหลายประเทศ โดยบริษัทจากอเมริกาเป็นรายแรกที่ค้นพบ ซึ่งแต่ละยี่ห้อนั้นก็จะมีชื่อ และ Generic name ที่ต่างกันออกไป รวมไปถึงมีเทคโนโลยีเฉพาะทำให้ผลลัพธ์ที่ได้มีความแตกต่างกันทั้งในแง่ของ ประสิทธิภาพ ความปลอดภัย ผลการรักษาทางคลินิก และการดื้อยา
และถึงแม้ว่าจะเป็น Botulinum Toxin type A ที่เหมือนกัน แต่ก็ได้รับการรับรองข้อบ่งใช้จากอ.ย.ไทยที่ไม่เหมือนกัน เช่น ได้รับรองข้อบ่งใช้ครบ 3 บริเวณ คือ รอยย่นบริเวณหางตาหรือรอยตีนกา, รอยพับหน้าผาก, รอยขมวดคิ้ว หรืออาจได้รับแค่ 1 หรือ 2 ข้อบ่งใช้เท่านั้น ดังนั้นการเลือกใช้สารลดเลือนริ้วรอยที่ได้รับอนุมัติข้อบ่งใช้ทั้ง 3 บริเวณ ย่อมมีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือกว่า เนื่องจากเวลารับการรักษา แพทย์มักจะให้การรักษาไปทั้ง 3 บริเวณพร้อมกัน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
สำหรับคลินิกที่จะเลือกผลิตภัณฑ์สารลดเลือนริ้วรอยที่มีคุณภาพสูง จึงต้องมีผลการศึกษาวิจัยว่าลดริ้วรอยได้จริงในระยะสั้น และระยะยาว รวมถึงมีข้อมูลความปลอดภัยในผู้ป่วยจำนวนมาก เนื่องจากคนไข้เมื่อเริ่มใช้แล้วก็จะต้องใช้อย่างต่อเนื่องดังนั้นข้อมูลการศึกษาในระยะยาวจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก
เทคนิคการลดเลือนริ้วรอยให้หน้าเป๊ะด้วยสารลดเลือนริ้วรอย Botulinum Toxin type A
1. แพทย์จะมีการแนะนำให้รักษาริ้วรอยใบหน้าส่วนบนทั้ง 3 จุด พร้อมกัน เพราะจะช่วยให้ได้ประสิทธิภาพที่ดี และใบหน้ามีความสมดุลดูเป็นธรรมชาติ
2. แนะนำว่าควรฉีดซ้ำทุกๆ 4-6 เดือน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว
3. ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ถ้าเป็นเรื่องริ้วรอย แนะนำแบบที่มีการกระจายตัวแคบ ช่วยให้ลดริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และออกฤทธิ์ได้นาน
เทรนด์การฉีดสารลดเลือนริ้วรอยในอดีต Vs ปัจจุบัน
ในสมัยก่อนจะเน้นการแก้ไขปัญหาเฉพาะจุด เช่น กังวลเรื่องริ้วรอยหางตา ก็จะแก้เพียงแค่หางตา ทำให้การแสดงออกของสีหน้าที่ได้ไม่สมดุล ซึ่งปัจจุบันการแก้ไขปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า จึงเน้นไปที่ใบหน้าส่วนบน และจะรักษาริ้วรอยทั้ง 3 จุด คือ ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ระหว่างคิ้ว และรอยตีนกา เพื่อช่วยให้ได้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ และกล้ามเนื้อทำงานได้อย่างสมดุล ทำให้การแสดงอารมณ์ดูเป็นธรรมชาติกว่าเมื่อก่อน
ฉีดโบมาแล้วทำไมหน้าตึง ไม่อยากให้หน้าตึงต้องทำอย่างไร ?
สำหรับบางคนที่ฉีดโบแล้ว รู้สึกว่าหน้าตึงๆ อาจเกิดมาจาก 2 สาเหตุ
1. เทคนิคการฉีดของแพทย์ที่ไม่รู้จักกล้ามเนื้อของคนไข้ ทำให้ฉีดผิดจุด จนหน้าตึงได้
2. เกิดจากสารลดเลือนริ้วรอยที่ไม่มีคุณภาพ มีการกระจายตัวที่ไม่แม่นยำ ทำให้ลดเลือนริ้วรอยได้ไม่ตรงจุด
เมื่อไหร่ที่ควรเริ่มฉีดสารลดเลือนริ้วรอย Botulinum Toxin type A ?
เมื่อเริ่มสังเกตแล้วเห็นว่ามีริ้วรอยที่ชัดเจน หรือมีริ้วรอยในขณะที่ยังไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ ควรเริ่มใช้ Botulinum Toxin ตั้งแต่ริ้วรอยเกิดใหม่ๆ จะช่วยป้องกันไม่ให้ริ้วรอยเหล่านั้น พัฒนาไปเป็นริ้วรอยที่ลึก และถาวร ซึ่งอาจจะทำให้การรักษายากขึ้น โดยในปัจจุบันมีการศึกษาเกี่ยวกับการได้รับ Botulinum Toxin เป็นระยะเวลานานออกมาแล้วว่ามีความปลอดภัย ถ้าเลือกโบที่มีคุณภาพ
นอกจากนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยใหม่ๆ ก็ควรให้ความสำคัญในการดูแลผิวอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับประเภทผิว การปกป้องผิวหนังจากแสงแดด และการดูแลสุขภาพทั่วไปเพื่อส่งเสริมความยืดหยุ่นของผิวหนัง เท่านี้ก็ได้ผิวที่คงความอ่อนเยาว์ และไร้ริ้วรอยมารบกวนใจ
