หนึ่งในปัญหาใหญ่ที่ส่งผลต่อบุคลิกภาพ และความมั่นใจ ไม่ว่าจะหญิง หรือ ชาย ต่างก็พบเจอกับปัญหาผมบาง ผมร่วง ศีรษะล้าน หรือหน้าผากเถิก ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยหลายวิธี แต่ในปัจจุบันวิธีที่เห็นผลที่สุดก็คือ ‘การปลูกผมถาวร’ นั่นเอง
Hairtran Clinic คือคลินิกปลูกผมที่ให้บริการครอบคลุมทุกปัญหาเกี่ยวกับเส้นผม นำทีมโดย คุณหมอแพตตี้ – พญ. ภัคภิญญา แจ้งเจ็ดริ้ว ที่ก้าวขึ้นสู่ชั้นแนวหน้าของวงการปลูกผม ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมจากการฝึกอบรมทั้งใน และต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ตุรกี มาเลเซีย หรือเกาหลีใต้ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการฝึกอบรมที่รับรองโดยสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (ISHRS) ตลอดจนชั่วโมงบินที่สะสมมาหลายต่อหลายปี ภายใต้การเคี่ยวกรำอย่างเข้มงวดจากแพทย์ศัลยกรรมปลูกผมชั้นนำของเมืองไทย จึงมั่นใจในมาตรฐานและคุณภาพที่เราให้บริการ พร้อมรับประกันผลลัพธ์
ทำไมต้องปลูกผมที่ Hairtran Clinic
การปลูกผมถาวร เป็นหนึ่งในหัตถการที่ต้องใช้ความสามารถเฉพาะทางของคุณหมอเป็นพิเศษ โดยเส้นผมที่ได้รับการปลูกใหม่ จะงอกขึ้นหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับเทคนิคของคุณหมอและอุปกรณ์ที่ใช้ อีกทั้งยังรวมไปถึงน้ำยาแช่กราฟท์ที่ต้องได้ประสิทธิภาพ
ซึ่งที่ Hairtran Clinic มีบริการที่หลากหลาย โดยเฉพาะการการปลูกผมด้วยวิธี FUE Hair Transplantation ที่เป็นวิธีที่นิยมมากที่สุด เพราะแผลเป็นจากการปลูกผมที่มีขนาดเล็ก และระยะพักฟื้นที่สั้น ซึ่งคุณหมอแพตตี้ก็จะช่วยวิเคราะห์สัดส่วนใบหน้าของผู้เข้ารับบริการในแต่ละท่าน เพื่อให้ได้แนวไรผมออกมาเข้ากับรูปหน้ามากที่สุดแบบเคสต่อเคส

ปลูกผมด้วยวิธี FUE Hair Transplantation
การปลูกผมแบบ FUE เป็นทางออกที่ดี ปลอดภัย และเป็นธรรมชาติที่สุด โดยวิธีปลูกผมด้วยเทคนิคนี้ คือการย้ายรากผมจากที่หนึ่ง (ด้านหลังของศีรษะ) ไปยังอีกที่หนึ่ง (บริเวณที่ล้านหรือบาง) การปลูกผม FUE จะใช้ระยะเวลาประมาณ 3-6 ชั่วโมง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของแต่ละเคส
ส่วนข้อเสียเพียงข้อเดียว ก็คือผมบริเวณด้านหลังศีรษะจะต้องถูกโกนทั้งหมดก่อน หลังจากนั้นคุณหมอจะค่อยๆ เจาะกอรากผมออกมาทีละกอ แต่ด้วยความที่ผมด้านหลังถูกโกนจนสั้น การเจาะกราฟท์ผมก็จะดำเนินไปด้วยความง่ายดาย และรวดเร็ว ราคาปลูกผมด้วยเทคนิคนี้จึงจะถูกกว่าแบบอื่นๆ แถมยังดูแลแผลได้ง่ายกว่าอีกด้วยเพราะผมด้านหลังสั้น
ปลูกผมด้วยวิธี Non-Shaven FUE
สำหรับวิธีนี้ จะเหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากโกนผมด้านหลังโดยเฉพาะการปลูกผมผู้หญิง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทคนิคการปลูกผมที่ไม่ใช่ใครก็ทำได้ เพราะมีความซับซ้อนมากกว่าการปลูกผม FUE แบบปกติ โดยจะเป็นการผสมข้อดีระหว่างสองเทคนิคเข้าด้วยกัน เพราะผมบริเวณด้านหลังจะไม่ถูกโกน แต่กอผมที่หมอเลือกเจาะออกมาจะถูกตัดให้สั้นไปก่อนแล้วค่อยทำการเจาะกอรากผมออกมา
ข้อดีของการปลูกผมวิธีนี้คือ ผมด้านหลังจะยาวเหมือนเดิม ดังนั้นแผลเป็นจะโดนผมบังตั้งแต่วันแรกที่ปลูก อีกทั้งผมที่ถูกปลูกจะเป็นผมที่สั้นจึงทำให้ดูแลง่าย และราคาไม่แพง ต่างจากแบบ Long Hair FUE ที่ไม่ต้องตัดให้ผมสั้นเลยก็จริง แต่ราคาก็จะแพง และมีการดูแลรักษาที่ลำบากกว่า แต่แบบ Non-Shaven คุณหมอเองก็ยังคงต้องทำงานกับผมที่ยาวกว่าแบบปกติ จึงทำให้การปลูกผมเทคนิคนี้ใช้เวลามากกว่า และราคาสูงกว่าการปลูกผมแบบ FUE ปกติ

ใครเหมาะกับการปลูกผมบ้าง?
แน่นอนว่าเหมาะกับทุกคนที่มีปัญหาผมทุกรูปแบบ โดยวิธีปลูกผมแบบ FUE สามารถนำไปใช้เพื่อแก้ปัญหาได้หลายประเภท ไม่ว่าจะ ผมบาง คิ้วบาง หนวดเคราบาง หรือแม้กระทั้งช่วยในการปกปิดแผลเป็น แต่ปัจจัยหลักๆ ในการรับการรักษา จะขึ้นอยู่กับว่าเส้นผมบริเวณด้านหลังมีพอหรือไม่ ถ้ามีมากพอที่จะนำมาปกคลุมบริเวณที่มีปัญหาก็สามารถปลูกผมได้
การบริการที่มีคุณภาพพร้อมการันตีผลลัพธ์
ปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้ลูกค้าไว้วางใจในการมารับบริการ ก็คือทางคลินิกมุ่งมั่นเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้านศัลยกรรมปลูกผมถาวรมาเป็นเวลายาวนาน มั่นใจในเทคโนโลยีที่ทันสมัย และเทคนิคพิเศษที่เลือกใช้ รวมถึงประสบการณ์ และฝีมือของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนทีมงานที่ได้รับการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี พร้อมกับการการันตีปลูกผมให้ใหม่ฟรี ถ้าผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ดังนั้นใครที่กำลังสนใจ ในการปลูกผมถาวร ก็สามารถแวะเข้าไปรับคำปรึกษาได้ที่ Hairtran Clinic