เปิดสไตล์การทำงาน ‘รองกลาง’ ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ หลังรับรางวัลสตรีนักวิชาชีพตัวอย่าง 2566
เพื่อยกย่อง เชิดชู สตรีนักธุรกิจและนักวิชาชีพที่ประสบความสำเร็จให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่รุ่นต่อไป และเป็นแรงบันดาลใจแก่สตรีผู้ประกอบธุรกิจและนักวิชาชีพรุ่นใหม่ สหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ (สสธวท) จัดพิธี “ประกาศเกียรติคุณรางวัลสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ ประจำปี 2566” ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพ เมื่อวันจันทร์ที่ 17 กรกฎาคม 2566 โดยมีคนดังในแวดวงสังคมร่วมรับรางวัล อาทิ ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าด้านการตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และว่าที่ผู้ว่าททท., สุนันทา สมบุญธรรม ประธานกลุ่มบริษัทธนิยะกรุ๊ป, จรรย์สมร วัธนเวคิน ประธานบริษัท สากลสถาปัตย์ จำกัด และ สุภาพรรณ พิชัยรณรงค์สงคราม เป็นต้น

โอกาสนี้ คุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ เจ้าของรางวัลสาขานักวิชาชีพสตรีตัวอย่างระดับประเทศ เล่าถึงสไตล์การทำงานของตัวเองว่า “ถ้าทุกคนรู้จัก ‘รองกลาง’ ก็จะรูเลยว่าตั้งแต่เริ่มต้นการทำงานเราจะเป็น doer คือเป็นนักปฏิบัติ เรื่องทฤษฎีเองก็สำคัญ แต่เราเชื่อว่าทฤษฎีมีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ไม่ตายตัว แต่ความมุ่งมั่นที่จะลงมือปฏิบัติเป็นสิ่งที่ต้องทำให้ได้ และเราไม่เคยปฏิเสธสิ่งที่ได้รับมอบหมาย แม้ว่ามันจะเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้องบ้างก็ตาม ถ้าหัวหน้าหรือผู้บังคับบัญชามอบหมายมา แสดงว่าเขาเห็นอะไรบางอย่างที่เราน่าทำได้ ดังนั้นเราก็จะใช้ความสามารถ คอนเน็กชั่น และแพสชั่น ผลักดันให้ทุกอย่างประสบความสำเร็จ“
“นอกจากนี้ในฐานะนักวิชาชีพสตรีตัวอย่าง คุณกลางยังฝากถึงผู้หญิงคนอื่น ๆ อีกว่า “ถ้าเรามีแพสชั่นหรือมีแรงบันดาลใจในการทำอะไรก็แล้วแต่ เมื่อเราเดินตามรอยความฝันและแพสชั่นของตัวเราเอง แล้ววันหนึ่งเราจะมีความสุขมากกับคำว่า “ประสบความสำเร็จ” ประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน ไม่สำคัญ เท่ากับเราได้เดินตามความฝันและแรงบันดาลใจ อย่างกลางเองชอบการทำงานมากๆ ชอบในจิตบริการ การขึ้นมาเป็นจุดสูงสุดขององค์กรที่เรียกว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่เป็นองค์กรธุรกิจด้านการบริการ กลางก็จะทำให้ดีที่สุด เพราะแรงบันดาลใจของเรา คือการให้บริการ”

ด้าน คุณสุนันทา สมบุญธรรม ประธานกลุ่มบริษัทธนิยะกรุ๊ป ได้รับรางวัลนักธุรกิจสตรีตัวอย่าง ระดับประเทศ ประจำปี 2566 เผยว่า “ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว หนึ่งในมิชชั่นของเราคือการแสวงหาความรู้ต่าง ๆ ผ่านการอ่านหนังสือ เพื่อเสริมสร้างภูมิให้แก่ตัวเองแล้วส่งต่อองค์ความรู้ต่าง ๆ ที่เรามีให้แก่พนักงาน สู่การร่วมพัฒนาองค์กรให้ดียิ่งขึ้นไปด้วยกัน ขณะเดียวกันก็เน้นการบริหารจัดการและดูแลพนักงานด้วยความเท่าเทียม นอกจากนี้ยังมองว่า ข้อผิดพลาดก็ดี หรือปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาก็ดี เราจะมองว่ามองว่าสิ่งเหล่านี้คือหนึ่งในบทเรียนสำคัญที่จะช่วยสอนให้เรานำกลับมาพัฒนาตัวเองแล้วส่งต่อสิ่งดี ๆ ให้แก่ทุกคนต่อไป”
นอกจากเป็นผู้บริหารมากความสามารถ คุณสุนันทายังเป็นนักสังคมสงคราะห์ที่มุ่งมั่นทำงานเพื่อสังคมโดยตลอด โดยเฉพาะมูลนิธิเซ็นต์โยเซฟ องค์กรการกุศลของครอบครัว ซึ่งล่าสุดเพิ่งมีโครงการจัดซื้อแผ่นบอร์ดเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินจำนวนกว่า 1,400 ชุด มูลค่า 4,000 ล้านบาท เพื่อส่งมอบให้แก่หน่วยกู้ชีพฉุกเฉินในโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศ คุณสุนันทาจึงฝากถึงผู้หญิงและนักธุรกิจว่า “นอกจากทำธุรกิจซึ่งเป็นอาหารกาย ควรทำบุญเป็นอาหารใจ หมั่นทำสมาธิให้จิตใจผ่องใสอยู่เสมอ และต้องมองโลกในแง่ดีด้วย”

ปิดท้ายที่ คุณกุลชญา วรพิรางกูร กรรมการผู้จัดการบริษัท 95 อินทีเรีย จำกัด ดูแลรับผิดชอบในส่วนการตลาดและประชาสัมพันธ์ นอกจากนี้ยังอุทิศตนทำงานช่วยเหลือสังคมตลอด โดยปัจจุบันดรงตำแหน่งที่ปรึกษามูลนิธิช่วยการสาธารณสุขชุมชน ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ได้รับรางวัลนักธุรกิจสตรีวัยก้าวหน้าตัวอย่าง กล่าวว่า “ส่วนตัวมองว่าสตรีวัยก้าวหน้าตัวอย่างต้องมีความคิดสร้างสรรค์อยู่เสมอ พัฒนาธุรกิจตัวเองตลอดเวลาเพื่อให้ทันกับเทคโนโลยีและความก้าวหน้าของโลก ซึ่งตัวบีเองหมั่นศึกษาหาความรู้จากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ โดยเฉพาะปัจจุบันเทคโนโลยีมีความก้าวหน้าเปิดโอกาสให้สามารถเรียนรู้ได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ต้องรู้จักปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงด้วย”
“ตอนนี้ความแตกต่างระหว่างเพศไม่ได้เข้ามาเป็นอุปสรรคกับการทำงานในสังคมมากนัก สิ่งสำคัญอันดับแรกคือต้องมีความอดทนอย่ายอมแพ้ต่ออุปสรรค หรือสิ่งแวดล้อมทั้งหลายที่เป็นปัจจัยภายนอกไม่สามารถควบคุมได้ ต้องต่อสู้ และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ถ้ามีโอกาสเข้ามาต้องพยายามทำโอกาสนั้น ๆ ให้ดีที่สุด”

สำหรับพิธีประกาศรางวัลเกียรติคุณนักธุรกิจสตรีและนักวิชาชีพสตรีตัวอย่าง และนักธุรกิจสตรีและนักวิชาชีพสตรีอนุรักษ์โลกตัวอย่าง ประจำปี 2566 ให้ความสำคัญแก่สตรีผู้ประกอบการและนักวิชาชีพหลากหลายคุณวุฒิและวัยวุฒิ อันประกอบด้วยสตรี 3 ช่วงวัย คือ วัยก้าวหน้า เป็นวัยแห่งการศึกษา เรียนรู้วิทยาการสิ่งใหม่ ๆ วัยพัฒนา ส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงาน ก่อร่าง สร้างความมั่งคั่งและมั่นคงในชีวิต วัยวัฒนา ที่เป็นผู้อาวุโส สร้างคุณค่าแก่องค์กรด้วยประสบการณ์และมันสมอง และเพื่อให้ครอบคลุมทุกช่วงวัยมากยิ่งขึ้น ในปีนี้จึงได้จัดให้มีการมอบรางวัลนักธุรกิจสตรีและนักวิชาชีพสตรีตัวอย่างผู้ทรงคุณค่า ประจำปี 2566 เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่สตรีนักธุรกิจและนักวิชาชีพที่สร้างคุณานุประโยชน์ให้แก่องค์กรและสังคมมาอย่างยาวนาน เพิ่มขึ้นอีก 1 สาขารางวัล
รวมมีผู้ได้รับรางวัลทั้งสิ้น 58 คน ประกอบด้วย นักธุรกิจสตรีตัวอย่างระดับประเทศ 4 คน, นักธุรกิจสตรีตัวอย่างระดับจังหวัด 18 คน, นักวิชาชีพสตรีตัวอย่างระดับประเทศ 3 คน, นักวิชาชีพสตรีตัวอย่างระดับจังหวัด 16 คน, นักธุรกิจสตรีตัวอย่างทรงคุณค่าระดับประเทศ 1 คน, นักธุรกิจสตรีตัวอย่างทรงคุณค่าระดับภาค 4 คน, นักธุรกิจสตรีวัยก้าวหน้าตัวอย่าง 3 คน, นักวิชาชีพสตรีวัยก้าวหน้าตัวอย่าง 2 คน, นักธุรกิจสตรีอนุรักษ์โลกตัวอย่าง 2 คน และ นักวิชาชีพอนุรักษ์โลกตัวอย่าง 4 คน และผู้ที่ได้รับทุนเดินทางไปร่วมประชุมในฐานะสมาชิกสตรีวัยก้าวหน้า 1 คน