วรรณพร (ล่ำซำ) พรประภา และพินรี สัณฑ์พิทักษ์ แฮปปี้! ยิงปืนนัดเดียว ได้นกถึง 2 ตัว

ด้วยความชื่นชอบผลงานของ  ‘คุณอาย – พินรี สัณฑ์พิทักษ์’ ศิลปินหญิงชื่อดังของเมืองไทย มาตั้งแต่สมัยยังเป็นวัยรุ่น ประจวบกับได้ไปเจองานศิลปะชิ้นหนึ่งที่ถูกชะตา ซึ่งจัดแสดงอยู่ในแกลลอรี่ในสิงคโปร์ โดยที่ ‘คุณปุ้ย – วรรณพร (ล่ำซำ) พรประภา’ ไม่ทราบมาก่อนว่าเป็นผลงานของศิลปินไทย และสั่งจองเป็นเจ้าของไว้ปลายปีก่อน แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 ทั่วโลกที่ผ่านมา ทำให้การขนส่งเกิดการล่าช้า

จนถึงตอนนี้ชิ้นงานยังมาไม่ถึงเมืองไทยเลย ทำเอาคุณปุ้ยอดใจรอไม่ไหว ต้องมองหาชิ้นงานอื่นเพิ่ม อีกอย่างเธอกำลังสร้างบ้านใหม่ จึงหวังจะนำงานศิลปะมาประดับตกแต่งไว้ที่บ้านหลังใหม่นี้ด้วย แต่ความยากอยู่ที่เธอไม่รู้จะติดต่อไปถึงศิลปินคนโปรดได้อย่างไร คุณปุ้ยเล่าความบังเอิญว่า ทุกครั้งที่เดินทางไปเที่ยวเชียงใหม่ จะต้องแวะไปกินข้าวที่ร้านอาหารแสนคำเทอร์เรส ทำให้คุยกันถูกคอกับ ‘คุณตั้ม – วันเพ็ญ ศักดาทร’ เจ้าของร้าน จนสนิทชิดเชื้อและนับถือเป็นเหมือนพี่สาวจริงๆ ต่างก็ให้การสนับสนุนซึ่งกันและกันมาตลอด วันหนึ่งคุณปุ้ยได้เกริ่นให้คุณตั้มฟังว่า “ชอบงานศิลปะของพี่อาย – พินรีมากๆ แต่ไม่รู้จะติดต่อเจ้าตัวได้ยังไง ?”  เมื่อได้ยินดังนั้น ทำเอาคุณตั้มถึงกับหัวเราะชอบใจ ก่อนจะบอกว่า “อายเป็นญาติพี่เองจ๊ะ” จึงเป็นที่มาของเรื่องราวดีๆ ที่แสนจะบังเอิญ

จากนั้นไม่นานคุณตั้มก็ทำหน้าที่ทูตเชื่อมโยงความสัมพันธ์และแนะนำให้ทั้งคู่รู้จักกัน ทว่าเวลานั้นคุณอายกำลังขยันขันแข็งเร่งรังสรรค์ชิ้นงาน เพื่อเตรียมไว้จัดประมูล หารายได้สบทุนให้กับโรงเรียนปิยมาตย์ จังหวัดพะเยา และโรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ โรงเรียนในเครืออุร์สุลินที่ตัวเองเป็นศิษย์เก่า ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความบังเอิญเพราะคุณแม่ (คุณยุพา ล่ำซำ) ของคุณปุ้ยเองก็เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัยด้วย ยิ่งทำให้คุณปุ้ยประทับใจหนักเข้าไปอีก จึงไม่รอช้า รีบยกมือแสดงตัวขอเป็นเจ้าของผลงานชิ้นดังกล่าวทันที

“คุณแม่ปุ้ยจะเล่าเรื่องสมัยที่ท่านเรียนอยู่เรยีนาเชลีวิทยาลัยให้ฟังเสมอ เพราะเป็นช่วงชีวิตวัยเด็กที่ท่านประทับใจ และท่านจะผูกพันกับมาแมร์ (ครูผู้สอน) มากๆ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ และปุ้ยเองก็เคยติดตามคุณแม่ไปเยี่ยมมาแมร์ที่โรงเรียนอยู่บ่อยครั้ง แม้กระทั่งเวลาป่วยไข้ ท่านก็จะส่งความห่วงใยให้ตลอด นอกจากนี้คุณแม่เป็นกรรมการคณะอุร์สุลินในประเทศไทยด้วย ทำให้ปุ้ยผูกพันกับโรงเรียนนี้ไปโดยปริยายค่ะ”

และแล้วคุณปุ้ยก็เดินทางไปรับผลงานที่มีชื่อว่า ‘White Dream’ ด้วยตัวเอง พร้อมนำเงินไปมอบให้ อ.สุมิตรา พงศธร ประธานชมรมศิษย์อุร์สุลิน (ประเทศไทย) ร่วมกับคุณแม่เรียบร้อยเมื่อวันก่อน เพื่อส่งต่อสนับสนุนการศึกษาโรงเรียนในเครืออุร์สุลิน เรียกว่าอิ่มใจที่ได้ผลงานของศิลปินคนโปรดมาชื่นชม แถมยังอิ่มบุญได้ร่วมช่วยเหลือโรงเรียนที่คุณแม่เคยเรียนสมัยตอนเป็นเด็กอีกด้วย

นอกจากนี้ทั้งคู่ยังได้ฝากถึงศิษย์เก่าโรงเรียนในเครืออุร์สุลินที่อยากแบ่งปันและมอบโอกาสให้กับรุ่นน้อง สามารถติดต่อคณะกรรมการชมรมศิษย์อุร์สุลิน (ประเทศไทย) ได้ตลอดเวลาเลยค่า…

_{Cr.Photos : HELLO! Magazine}