บนพื้นที่กว่า 2 ไร่ย่านใจกลางเมืองบ้านหลังใหญ่ทรงแบบโมเดิร์นจากฝีมือการออกแบบของ ‘จอห์น ไรเฟนเบิร์ก’ สถาปนิกตัวฉกาจระดับโลกที่ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นการออกแบบตั้งแต่เมื่อสี่สิบสองปีที่แล้ว เพราะยังดูทันสมัยและใหม่เหมือนเพิ่งสร้างเสร็จแค่เพียงไม่นาน

บ้านหลังโตที่ออกแบบตกแต่งได้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของสมาชิกใน ‘ครอบครัวทีปสุวรรณ’ ได้อย่างสวยงาม และลงตัว บ้านที่บอกได้คำเดียวว่าไม่ใช่แค่บ้าน แต่คือ สวนสนุกที่สมาชิกในครอบครัวมักจะใช้เวลาร่วมกันอยู่เสมอ นั่นคือคำนิยามของผู้นำครอบครัวอย่าง ‘คุณอีฟ-ทยา ทีปสุวรรณ’ และ ‘คุณตั้น-ณัฎฐพล ทีปสุวรรณ’

‘คุณอีฟ-ทยา ทีปสุวรรณ’ และ ‘คุณตั้น-ณัฎฐพล ทีปสุวรรณ’

‘น้องเฟย์-ณฤทัย ทีปสุวรรณ’
ชั้นบนแต่ละชั้นนั้นแยกเป็นพื้นที่ส่วนตัวของลูกๆทั้งสามคนห้องของ ‘น้องเฟย์-ณฤทัย ทีปสุวรรณ’ นั้นเจ้าตัวตกแต่งเองจึงออกแนวหวานสดใสด้วยเฉดสีรุ้งตามความชอบส่วนตัว

‘น้องฟินน์-นรุตม์ ทีปสุวรรณ’
ส่วนห้อง ‘น้องฟินน์-นรุตม์ ทีปสุวรรณ’ ก็เข้มขรึมตามประสาเด็กหนุ่ม

‘น้องฟีฟ่า-ณฤพล ทีปสุวรรณ’
และห้อง ‘น้องฟีฟ่า-ณฤพล ทีปสุวรรณ’ ไม่ค่อยตกแต่งอะไรมาก ขอแค่เป็นโทนสีเขียวเพราะเป็นสีโปรด และคงความเรียบง่ายตามสไตล์ห้องเด็กผู้ชาย

ตู้บอลและโต๊ะปิงปองเป็นที่เล่นเกมของครอบครัวและเพื่อนๆ “ห้องนี้ปอบปูลาร์มากค่ะ เพราะว่าพวกเด็กๆมักจะมากระโดดโลดเต้นเล่นกัน” คุณอีฟพูดพลางพาเราเดินชมที่พำนักของเธอและครอบครัว “เมื่อก่อนสระว่ายน้ำก็เล็กกว่านี้เกือบครึ่งหนึ่ง แล้วมันว่ายลำบาก สโตรกไม่ได้ ก็เลยขยายให้สุดๆไปเลย”
“ลูกทุกคนมีห้องส่วนตัว แต่ไม่นอน จะมานอนห้องพ่อแม่กัน เวลาปิดเทอมกลับมาบ้านทีไรนอนเรียงกันเป็นตับเลย เราเป็นแม่ก็ถือโอกาสตักตวงเวลาที่จะได้อยู่กับพวกเขา จะพยายามเคลียร์งานเพื่อให้กลับบ้านเร็ว จะได้อยู่กับเขาอย่างเต็มที่ เพราะเผลอแป๊บเขาก็ต้องไปเรียนอีกแล้ว”
สำหรับผู้ที่พำนักในบ้านหลังนี้บอกได้เลยว่ารวย! รวยเพื่อน เพราะมีโอกาสใช้เป็นที่รับรองเพื่อนอยู่บ่อยครั้ง “ตอนนี้เราโอนบ้านหลังนี้ให้ลูกทั้งสามคนแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าลูกแต่งงานก็อยากให้อยู่ที่นี่” คุณอีฟหันไปส่งสายตาให้ลูกสาวคนโตและคนเดียว “เป็นการผูกมัดในอนาคต แม่จะยกให้เฟย์ทั้งชั้นเหมือนที่แม่เคยอยู่ แล้วแม่ก็จะเดินไปหาเฟย์ทุกวัน”

เราคุยได้สักพ้กเจ้าอูนิโกลเด้นรีทรีฟเวอร์สีน้ำตาลทอง ก็เดินส่ายหางมาทักทายสมาชิกในครอบครัวและผู้มาเยือนอย่างเรา ตามด้วยเจ้าโอรีโอเฟรนช์บูลด๊อกที่เดินดุ๊กดิ๊กมาต้อยๆ ห้องทั้งห้องสว่างไสวด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ เมื่อเจ้าสุนัขสองตัวมาปรากฏกายอย่างเงียบๆ
รักของสองเรา
การเริ่มต้นชีวิตครอบครัวย่อมต้องเกิดจากชายและหญิงหนึ่งคู่ เหมือนอย่างอีฟพบกับอดัมซึ่งเป็นมนุษย์คู่แรก และคุณตั้นก็เป็นอดัมที่มาพบกับคุณอีฟโดยมีประเทศฝรั่งเศสเป็นฉากหลัง “ใครที่จีบอีฟต้องอดทนมากค่ะ เพราะว่าจะไม่ไปไหนกันสองต่อสอง จะแห่กันไปเป็นโขยง” คุณอีฟบอกกับเรา
“ช่วงแรกๆก็ยังรู้สึกสนุกกับชีวิตโสดหลังจากเลิกกับแฟนแล้ว เรามีเพื่อนหลายกลุ่ม พี่ตั้นก็จะเข้ามาแบบเพื่อนรุ่นพี่ เขาโตกว่าอีฟหกปี ไม่ว่าจะกิจกรรมอะไรก็ทำกับเราได้หมด เขาชอบกีฬา อีฟรู้สึกว่าคนชอบกีฬาเป็นคนที่สนุกสนาน สปอร์ต มีน้ำใจนักกีฬา ตอนนั้นเล่นกีฬาแบบบ้าระห่ำมาก ตกกลางคืนก็ไปเต้นรำกัน

“ส่วนอีฟจะชอบท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ ไม่ชอบอยู่ในเมือง ไม่ชอบเข้าห้าง ชอบเดินสวนสาธารณะมากกว่า อีฟพยายามสอนลูกให้ประหยัด ด้วยการเอาพ่อเป็นตัวอย่างว่าไม่ควรทำแบบนี้ แต่สองคนโตรู้จักค่าของเงิน จะซื้ออะไรคิดแล้วคิดอีก แต่ฟีฟ่าไม่ค่อยประหยัดเท่าไร เพราะพ่อค่อนข้างตามใจลูกคนเล็ก”
น้องฟินน์เสริมว่า “คุณพ่อคุณแม่ชอบลืมให้เงินเวลาไปเรียนเมืองนอก แต่ก็ดีครับทำให้เราประหยัด อย่างผมเข้า security check ไปแล้ว คุณแม่เพิ่งตะโกนว่า เฟย์ฟินน์มีเงินใช่ไหม แต่เราก็ไม่ได้สุรุ่ยสุร่ายอะไร”
“ส่วนฟ่าชอบซื้อของเล่น แล้วก็เล่นวีดิโอเกมส์กับพี่ฟินน์ แล้วพี่ฟินน์ก็ชนะ ฟ่าเคยชนะพี่ฟินน์เหมือนกัน แต่ไม่ถึงสิบครั้ง เวลาพี่เฟย์พี่ฟินน์ไปเรียนเมืองนอก ก็คิดถึงครับ แต่ไม่ได้โทรหา”
ระหว่างคุณพ่อกับคุณแม่ใครดุกว่ากัน เราถามน้องเฟย์ “คุณแม่ดุกว่าค่ะ จะดุเรื่องจุกจิก ทำไมมาสาย ทำไมไม่อ่านหนังสือ แต่เวลาคุณแม่มาสายไม่มีใครกล้าดุคุณแม่เลย (หัวเราะเบาๆ) ส่วนคุณพ่อใจเย็นมาก เป็นคนที่ใจเย็นที่สุดในโลกเท่าที่เคยเห็นมา”

“อีฟเลี้ยงลูกเหมือนเพื่อน ถ้าเราทำผิดก็ขอโทษลูกได้ เราต้องฟังเขา การเลี้ยงลูกยุคนี้ไม่ง่ายนะคะ ยิ่งลูกวัยรุ่นเขาจะมีความคิดของตัวเอง เราคุยกันทุกเรื่อง อาจมีบ้างความลับเล็กๆน้อยๆ เราก็ต้องเคารพความเป็นส่วนตัวของเขาในบางเรื่อง แล้วสามคนนี้สนิทกัน ไม่เคยทะเลาะกัน ฟินน์จะผู้ใหญ่หน่อย คอยดูแลพี่สาวและน้องชาย”
ชีวิตที่ลงตัว
สิ่งที่เราสังเกตเห็นตลอดเวลาของการมาพูดคุยทำความรู้จักกับครอบครัวนี้ ก็คือความเป็นธรรมชาติของทุกคน เราจึงถามทั้งคุณอีฟและคุณตั้นว่าตลอดเวลาที่ผ่านมารู้สึกประทับใจอะไรในตัวกันและกัน
“ชีวิตตอนนี้ลงตัวมาก ถึงแม้ว่าจะมีคดีติดตัวต้องขึ้นโรงขึ้นศาล แต่เราไม่เคยเสียใจในสิ่งที่ทำแม้แต่วันเดียว ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เราก็ยังจะทำเหมือนเดิมทุกอย่าง เพราะมีเป้าหมายว่าทำเพื่อประเทศชาติ พี่ตั้นก็บวชแล้ว เราภูมิใจในตัวเขา ทุกวันนี้เขายังเข้าห้องพระ นั่งสมาธิ สวดมนต์เป็นประจำ

“ลูกๆก็รับผิดชอบตัวเองได้รักกัน เป็นเด็กดีทุกคน อีฟสวดมนต์ทุกวันขอบคุณที่ชีวิตลงตัวได้ขนาดนี้ แต่เราก็ยังต้องเตรียมรับมือกับสิ่งที่ไม่คาดฝันเสมอ เพราะเป็นไปไม่ได้ว่าชีวิตเราจะราบรื่นตลอดเวลา คุณพ่อคุณแม่มักจะสอนอีฟเสมอว่า ทุกเวลามีค่า ทำแต่ละวันให้ดีที่สุด เพื่อเราจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง ที่สำคัญต้องสำนึกและตอบแทนคุณแผ่นดินเมื่อเรามีโอกาส”
…………………………………………………………………………………………….
ติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้ที่ นิตยสารเฮลโล ฉบับวันที่ 30 มีนาคม 2560