เงินทองแม้เป็นของนอกกาย แต่ก็สำคัญจนแทบจะเรียกว่าเป็น 1 ในปัจจัย 4 ไปแล้วล่ะค่ะ และอาชีพไหนละที่รวย บ้างก็ว่านักธุรกิจ แต่นั้นก็ต้องมีเงินทุนเกื้อหนุน ดังนั้นอาชีพที่โดดเด่นทั้งชื่อเสียง และเงินทอง ที่ได้รับการนึกถึงเป็นอันดับต้นๆคงไม่พ้นดารา นักแสดง และวันนี้ HELLO! จะขอเปิดโพล 8 คนดังฮอลลีวู้ดกับรายได้เกือบ 10,000 ล้านบาทในปี 2018 จะมีใครกันบ้าง แล้วรับทรัพย์หนักแค่ไหนมาดูกัน
เริ่มที่หนุ่มใหญ่ดาวค้างฟ้าที่มีภรรยาสวยสง่ามากคนหนึ่งในวงการ ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน ‘จอร์จ คลูนีย์’ นักแสดงหนุ่มวัย 57 ปี แม้ว่าจะไม่เห็นผลงานการแสดงของเขาบ่อยนัก แต่รายได้หลักของจอร์จมาจากการลงทุนธุรกิจเครื่องดื่ม Casamigos Tequila ร่วมกับเพื่อนซี้ ทำให้มีรายได้เข้ากระเป๋ามากถึง 239 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 9,400 ล้านบาท
(นับระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 2017 ถึง 1 มิถุนายน 2018)
ยังไม่นับรวมบทบาทเบื้องหลังในวงการมายาอย่างการเป็นผู้กำกับ และแบรนด์แอมบลาสเดอร์นาฬิกา เครื่องดื่มแบรนด์ต่างๆอีกด้วย
ต่อกันที่อีกหนึ่งหนุ่มกล้ามโต ‘ดเวย์น จอห์นสัน’ หรืออดีตนักมวยปล้ำที่ใครต่อใครรู้จักกันดีในนาม “เดอะ ร็อค” พอหันมารับบทเป็นนักแสดงแม้ว่าในช่วงแรกจะไม่เปรี้ยงเท่าไหร่ แต่ปัจจุบันนี้เขาได้รับการพูดถึงอย่างมาก จนทำให้มีรายได้มากถึง 124 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4,000 ล้านบาทนั่นเอง
ส่วนหนุ่มๆที่มีรายได้รองลงมานั้น ก็คือหนุ่มๆสมาชิกทีมอเวนเจอร์ อย่าง ‘โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์’ จากภาพยนตร์ชื่อดังเรื่อง Iron Man กับรายได้ 81 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 2,600 ล้านบาท
และ ‘คริสเฮมส์ เวิร์ธ’ เจ้าของบทเทพเจ้าสายฟ้า กับรายได้ 64.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ประมาณ 2,100 ล้านบาท นอกจากนี้ยังรวมถึง ‘เฉินหลง’ หรือ ‘แจ็คกี้ ชาน’ ดารานักแสดงสัญชาติเอเชีย กับรายได้ตลอดปี 2018 รวมกว่า 45.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1,400 ล้านบาท
ด้านฝ่ายหญิงก็ไม่น้อยหน้าส่ง ‘สการ์เล็ต โจฮันส์สัน’ กับความสำเร็จเมื่อได้เป็นหนึ่งในทีมนักแสดงนำจากภาพยนตร์เรื่อง ดิ อเวนเจอร์ ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จากค่ายมาร์เวล จนในที่สุดเธอมีรายได้มากถึง 40.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,300 ล้านบาท เบียดแซงแชมป์เก่าตัวแม่อย่างสาว ‘แองเจลิน่า โจลี่’ ไปอย่างฉิวเฉียด เพราะการจัดอันดับครั้งนี้แองเจลิน่า มีรายได้อยู่ที่ 28 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 912 ล้านบาท จากผลงานภาพยนตร์เรื่อง Maleficent
ปิดท้ายด้วย ‘เจนนิเฟอร์ อนิสตัน’ กับรายได้ 19.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 635 ล้านบาท ซึ่งมาจากกำไร จากการลงธุรกิจส่วนตัวเป็นหลัก