รวมไฮไลต์และผลรางวัล ‘ออสการ์ 2022’ ปีแห่งประวัติศาสตร์ที่ต้องจดจำไปอีกนาน

กลายเป็นอีกหนึ่งปีแห่งประวัติศาสตร์ที่ทำเอาแฟน ๆ ต้องจดจำไปอีกหลายปีทีเดียว สำหรับงานประกาศประกาศผลรางวัลตุ๊กตาทอง ‘ออสการ์ 2022’ (Academy Awards – Oscars) ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 94 ที่โรงภาพยนตร์ดอลบีย์ เมืองลอส แอนเจลีส เมื่อช่วงค่ำวันที่ 27 มีนาคม 2022 ตามเวลาท้องถิ่น หรือช่วงเช้าวันที่ 28 มีนาคม 2022 ตามเวลาประเทศไทย HELLO! รวมไฮไลต์และผลรางวัล ‘ออสการ์ 2022’ มาให้ติดตามกันอีกครั้ง

ภาพรวมของการประกาศรางวัลในปีนี้ยังสร้างความสนใจให้แก่ผู้ชมทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการคว้ารางวัลของ ‘อาเรียนา เดโบซ’ (Ariana Debose) นักแสดงหญิงเพศทางเลือก (Queer) คนแรกที่ชนะรางวัลใหญ่ในด้านการแสดง, ครั้งแรกที่ภาพยนตร์จากแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งชนะรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และครั้งแรกในประวัติศาสตร์ออสการ์ที่มีผู้กำกับหญิงคว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม ต่อเนื่องถึง 2 ปี

ทว่าช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ของการประกาศรางวัล กลับไม่ได้รับความสนใจเท่ากับเหตุการณ์น่าตกใจเมื่อ ‘วิลล์ สมิธ’ เดินขึ้นไปตบหน้า ‘คริส ร็อค’ บนเวที เนื่องจากคริส ร็อค พูดจาหยอกล้อทรงผม ‘เจด้า พินเค๊ตต์ สมิธ’ ภรรยาของวิลล์ สมิธ ที่ขณะนี้ไว้ผมทรงสกินเฮด เพราะมีอาการผมร่วง ซึ่งภายหลังวิลล์ สมิธ ได้กล่าวขอโทษผู้จัดงานและผู้ร่วมงานทุกคนด้วยน้ำตา ระหว่างการขึ้นรับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมครั้งแรกของตัวเอง จนเกิดเป็นกระแสวิพากย์วิจารณ์ไปทั่วโลก

‘อาเรียนา เดโบซ’ นักแสดงจากภาพยนตรเรื่อง เวสต์ ไซด์ สตอรี่ (West Side Story 2021) คว้ารางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ประเดิมเป็นรางวัลแรกของเวทีออสการ์ 2022 อาเรียนา กล่าวถึงตัวตนของตัวเองในฐานะผู้หญิงเพศทางเลือกชาวเปอร์โตริโก “ตอนนี้ คุณเข้าใจแล้วว่าทำไมแอนนิต้าถึงร้องเพลง ‘I want to be in America’ เพราะแม้แต่ในโลกนี้ที่เราอาศัยอยู่ ความฝันก็กลายเป็นจริง และนั่นก็เป็นสิ่งที่น่ายินดีในตอนนี้” ก่อนพูดเพิ่มเติมว่า “คุณได้เห็นผู้หญิงผิวสีเพศทางเลือกที่พบความแข็งแกร่งในชีวิต ผ่านงานศิลปะ”

ขณะที่ ‘เจน แคมเปี้ยน’ (Jane Campion) ผู้กำกับมากความสามารถจากเรื่อง ‘The Power of the Dog’ คว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง The Power of the Dog ทำให้เธอเป็นผู้กำกับหญิงคนที่ 3 ที่เคยได้รับรางวัลนี้ และปี 2022 เป็นกลายเป็นปีแห่งประวัติศาสตร์ที่ทำให้เวทีออสการ์มีผู้กำกับผู้หญิงได้รับรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมต่อเนื่องกัน 2 ปีเป็นครั้งแรก โดยปีที่แล้ว 2021 รางวัลดังกล่าวตกเป็นของ ‘โคลอี้ เจา’ จากผลงานการกำกับเรื่อง ‘โนแมดแลนด์’ (Nomadland)

ตามด้วย ‘ทรอย คอตเซอร์’ (Troy Kotsur) ชนะรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากเรื่อง ‘โคด้า หัวใจไม่ไร้เสียง’ (CODA) โดยทรอยถือเป็นนักแสดงคนหูหนวกคนที่สองที่เคยได้รับรางวัลบนเวทีออสการ์ หลังจาก ‘มาร์ลี แมทลิน’ (Marlee Matlin) หนึ่งในนักแสดงร่วมของเรื่องนี้ เป็นคนหูหนวกคนแรกที่รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากเรื่อง ‘Children of a Lesser God’ ในปี 1986

ปีนี้เป็นปีที่ ‘ทิม คุก’ ซีอีโอแอปเปิ้ล (Apple) ร่วมงานออสการ์เป็นครั้งแรก เนื่องจากยนตร์เรื่อง ‘โคด้า หัวใจไม่ไร้เสียง’ (CODA) ของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง Apple TV+ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลถึง 3 สาขา และก็ไม่เป็นที่ผิดหวังเมื่อสามารถคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมมาครองได้สำเร็จ สร้างประวัติศาสตร์เป็นภาพยนตร์จากแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเรื่องแรก ที่คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์

นอกจากนี้ยังมี ‘เคนเนธ บรานาห์’ (Kenneth Branagh) นักแสดงและผู้สร้างภาพยนตร์ชาวไอร์แลนด์ ที่ทำลายสถิติในการเป็นบุคคลแรกที่ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลในสาขาต่าง ๆ มากถึง 7 ประเภทตลอดอาชีพการทำงาน ซึ่งในเวทีนี้เขาก็สามารถคว้ารางวัลตุ๊กตาทองสาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง ‘เบลฟาสต์’ (Belfast)

สรุปผลรางวัล ‘ออสการ์ 2022’

• ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม – โคด้า หัวใจไม่ไร้เสียง
• ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม – เจน แคมเปี้ยน (The Power of the Dog)
• นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม – วิลล์ สมิธ (King Richard)
• นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม – เจสสิก้า แชสเทน (The Eyes of Tammy Faye)
• นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม – ทรอย คอตเซอร์ (โคด้า หัวใจไม่ไร้เสียง)
• นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม – อาเรียนา เดโบซ (West Side Story 2021)
• ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม – Drive My Car
• ภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยม – Encanto
• บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม – เบลฟาสต์
• บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม – โคด้า หัวใจไม่ไร้เสียง
• ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม – ครูเอลล่า (Cruella)
• ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม – ดูน
• ตัดต่อภาพยนตร์ยอดเยี่ยม – ดูน
• แต่งหน้าและออกแบบทรงผมยอดเยี่ยม – The Eyes of Tammy Faye
• ถ่ายภาพยอดเยี่ยม – ดูน
• ภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม – Summer of Soul (…Or, When the Revolution Could Not Be Televised)
• ภาพยนตร์สารคดีสั้นยอดเยี่ยม – The Queen of Basketball
• เทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม – ดูน
• ออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม – ดูน
• Best Sound – ดูน
• เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม – No Time To Die โดย บิลลี่ อายลิช และ ฟินเนียส โอ’คอนเนลล์ (No Time To Die)
• ภาพยนตร์แอนิเมชันสั้นยอดเยี่ยม – The Windshield Wiper
• ภาพยนตร์เหตุการณ์สั้นยอดเยี่ยม – The Long Goodbye

Courtesy Photos : Getty Image, Tim Cook Twitter, Apple TV+ Twitter