ส่งกำลังใจให้ ‘น้องโรเตอร์ ทองเจือ’ ให้หายจากการบาดเจ็บจากการเล่นสเก็ตบอร์ด
สืบเนื่องมากจากช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา ‘คุณแม่เจง-วิไลลักษณ์ ทองเจือ’ ได้โพสภาพลูกชาย ‘น้องโรเตอร์’ บนรถเข็นวีลแชร์ เนื่องจากเข้ารับการรักษาอาการบาดเจ็บบริเวณสะโพก อันเกิดจากการเล่นสเก็ตบอร์ดใน Bowl เรียกว่าเป็นอุบัติเหตุที่ทำเอาคุณแม่ใจหายไม่น้อย โดยคุณเจงได้ให้รายละเอียดอาการของลูกชายว่า
“น้องเกิดอุบัติเหตุตกลงมาจาก Bowl สะโพกกระแทก กระดูกส่วนที่เป็น growth plate ตรงหัวสะโพกเคลื่อนทำให้ขาข้างที่บาดเจ็บลงนำ้หนักไม่ได้ คุณหมอให้พิจารณาผ่าตัด แต่ครอบครัวเรากังวลเรื่องผลที่จะตามมาหลังการผ่าตัดมากเลย ยังอยู่ในช่วงศึกษาข้อมูลการรักษาอยู่ค่ะ”
ซึ่งเหตุการครั้งนี้ส่งผลให้น้องโรเตอร์ ไม่สามารถเดินได้ ต้องนั่ง และรับประทานอาหารอยู่บนเตียงแทยจะตลอดเวลาเพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระเทือน และได้รับบาดเจ็บเพิ่มขึ้น งานนี้คุณแม่เจงออกมาโพสต์ขอความคิดแลกจากเหล่าแฟนคลับ เพื่อแชร์ข้อมูลเพิ่มเติมประกอบการตัดสินใจในการเลือกวิธีการรักษา
“ใครเคยมีลูกหลานหรือคนรู้จักมีอาการเหมือนตี๋บ้างคะ รบกวนขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ เจงคิดจนหัวจะแตกแล้วว่าควรตัดสินใจรักษาลูกแบบไหนดี ต้องผ่าตัดยึดสกรูทางเดียวอย่างที่คุณหมอบอกใช่มั้ย!?? ตี๋เกิดอุบัติเหตุล้มกระดูกส่วน Growth plate ตรงหัวสะโพกเคลื่อนหรือทางการแพทย์เรียกว่าโรค Slipped Capital Femeral Epiphysis คุณหมอแนะนำว่าต้องผ่าตัดใส่สกรูวิธีเดียวเท่านั้นเพื่อป้องกันไม่ให้มันเคลื่อนเยอะไปกว่านี้ไม่งั้นอาจทำให้กระดูกโตผิดรูปหรือหัวสะโพกขาดเลือดจนหัวสะโพกตายถ้ามันเคลื่อนไปมากกว่านี้ มันจะมีทางรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัดใส่สกรูมั้ย ใครให้คำปรึกษาได้หรือมี opinion เจงรบกวนด้วยนะคะ ส่งข้อความมาหาเจงหน่อยค่ะ ?????? สงสารตี๋”
โดยระหว่างนี้น้องโรเตอร์ซึ่งเป็นเด็กร่าเริง และชื่นชอบกิจกรรมแนวแอนเวนเจอร์ ก็เลือกเล่น Finger Board แทนระหว่างรักษาอาการ จนคุณแม่อดแซวไม่ได้ว่า “ถึงขาจะเล่นสเก็ตบอร์ดไม่ได้แต่ยังเหลือมือที่เล่น finger board ได้นะคับตี๋บอกหนูเล่น finger board กับ hand board เก่งแล้วนะคับ ฝึกฝนอยู่ยนเตียงนี่แหละ”
ที่สำคัญคือ เล่นได้ดีจนคุณพ่อพีท ทองเจือแสนจะภูมิใจ ในฝีมืออันเป็นที่ยอมรับของลูกชาย “เล่นhandboard ลีลาไม่ธรรมดา skillเต็มร้อย เจ้าของbrandที่อเมริกาเห็นถึงกับเอาไปลงStoryของเค้าเลย”
เรียกได้ว่ากำลังใจล้นหลาม เหล่าเพื่อนพ้อง แฟนคลับ ต่างพากันเข้ามาคอมเม้นท์ พูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวที่มีประโยนช์ ทั้งยังแนะนำแพทย์ให้คุณแม่เจงเพื่อประกอบการตัดสินใจอีกด้วย ล่าสุดคุณเจงได้ออกมาโพสต์ขอบคุณ และอธิบายรายละเอียดต่างๆเพิ่มเติม เพื่อให้แฟนคลับได้ทราบกัน
ก่อนอื่นต้องขอบคุณทุกๆคนมากๆนะคะที่ส่งข้อความมาแนะนำการรักษา แนะนำแพทย์ ให้กำลังใจครอบครัวเรากันเยอะมากๆ ขออธิบายให้เข้าใจนิดนึงนะคะ ”การที่เจงโพสต์เจงต้องการที่จะได้คุยปรึกษากับครอบครัวที่ลูกหรือคนใกล้ตัวเค้าเคยเป็นอาการแบบโรเตอร์ ซึ่งพบน้อยมาก อยากพูดคุยสอบถามผลดีผลเสียและวิธีที่เค้ารักษาอาการนี้”
เพราะที่ผ่านมาพาไปหาหมอมาหลายท่านมาก ทั้งแพทย์แผนปัจจุบัน แผนไทย กายภาพซึ่งคำตอบการรักษาก้อไม่เหมือนกัน พูดว่าพยายามทุกทางดีกว่าศึกษาข้อมูลจากทางเน็ต ทั้งอ่านวิจัยในประเทศต่างประเทศ ทั้งเข้าไป join กลุ่มของคนที่เป็นโรคนี้ในเพจ ส่งข้อความไปถามคนที่เคยรักษาอาการนี้ที่ตปท.ทั้งที่เราไม่รู้จักเค้าเลย เพื่อจะหาทางรักษาที่ดีที่สุดให้ลูก และหวังว่าจะมีทางรักษาทางอื่นที่ไม่ต้องใส่สกรู ข้อมูลทางการแพทย์ก้อได้มาเยอะ จาก online ผลเสียก้อมีหลายเคสจากการผ่าตัดใส่สกรู ไม่ใช่ว่าไม่เขื่อหมอเลยซะทีเดียวแต่ลูกเราทั้งคนแค่อยากหาทางที่ดีที่สุดให้ลูกซึ่งจริงๆแล้วอาจจะคิดว่าคงไม่มีใครบอกได้ 100%หรอกว่าทางไหนดีที่สุด เพราะแต่ละเคสผลก้อมาต่างกัน(ในแง่ผลเสียนะคะหรืออาจจะไม่มีเลยกัอได้) แต่การศึกษาหาข้อมูลสอบถามเป็นเรื่องที้เจงคิดว่าเจงควรทำให้ลูกไม่ใช่หรอคะ และก้อโชคดีที่มีพ่อแม่ของน้องๆที่เป็นอาการแบบโรเตอร์ติดต่อมาหลายท่านมากๆๆ เจงได้ข้อมูลเยอะมากๆจากการโพสต์วันก่อน และจะเอามาประกอบการตัดสินใจในการรักษาลูกต่อไป หลายคนพูดว่าจะบ้าป่าวมาถามคนใน social เค้าไม่ใช่หมอไปถามหมอสิมาถามอะไรใน social ก้อขอบคุณมากๆนะคะอุตส่าเสียเวลาพิมพ์มาตอบทั้งที่ไม่เข้าใจว่าเจงต้องการอะไร หรือยังอ่านข้อความที่เจงพิมพ์ไม่ครบด้วยซำ้ แต่ยังไงเจงก้อยังคิดว่าการโพสต์วันก่อนให้ประโยชน์กับเจงมากๆค่ะได้ข้อมูลเพิ่มเติมมาหลายอย่าง ได้คุยกับคนที่ผ่านเหตุการณ์แบบครอบครัวเรามา ทำให้เราพอมีทิศทางที่จะรักษาน้องโรเตอร์ต่อไปค่ะ”
***ขอบพระคุณทุกๆคนมากๆๆที่เข้าใจเห็นใจและช่วยแนะนำการรักษาหรือแม้แต่แนะนำคุณหมอเก่งๆให้ครอบครัวเรานะคะ เป็นประโยชน์กับเรามากๆค่ะ ขอบคุณจากใจจริงๆค่ะ??????
ถือว่าเป็นกรณีตัวอย่างให้เหล่าคนรักบอร์ดได้ศึกษากัน และเพิ่มความระมัดระวัง ไม่ลืมที่จะใส่อุปกรณ์ป้องกันทุกครั้ง ด้วยความห่วงใย^^
Cr.Pete Thongchua,Jeng Thongchua