เพราะอะไร ‘จัสติน ทรูโด’ จึงเป็นนายกรัฐมนตรีผู้ทรงเสน่ห์ หนุ่มหล่อที่มาแรงที่สุดในแคนาดา
หลายต่อหลายครั้งที่ HELLO! ลงเรื่องราวดีๆของชายหนุ่มคนนี้ ทายาทผู้สืบทอดมรดกแห่งวงศ์ตระกูลที่ทรงเกียรติตระกูลหนึ่งของประเทศแคนนาดา ‘จัสติน ทรูโด‘ ภาพลักษณ์ของการเป็นนักการเมืองที่สมบูรณ์แบบและเพียบพร้อม ทั้งใจดี มีเสน่ห์ และเป็นต้นแบบของการดูดีมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองจนทำให้มีแฟนๆผู้ติดตามในโซเชี่ยลมีเดียนับล้านๆคน นายกรัฐมนตรีของแคนาดาผู้นี้คือผู้ที่โปรยเสน่ห์สร้างปรากฏการณ์ ‘ทรูโดมาเนีย’เล่นเอาใครๆหลงหัวปักหัวปำ

บรรดาแฟนๆของตระกูลทรูโดนั้นได้เปรียบเทียบนายกรัฐมนตรีหนุ่มของแคนาดาคนนี้ กับอดีตประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคเนดี้ ของสหรัฐอเมริกา มานับครั้งไม่ถ้วน เช่นเดียวกันกับอดีตประธานาธิบดีผู้ล่วงลับ ชีวิตของจัสติน ทรูโด นั้นตกอยู่ภายใต้การจับตาของสื่อมาตั้งแต่เกิด ซึ่งเป็นสมัยที่บิดาของเขานาย ปิแอร์ ทรูโด ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีและถือเป็นบิดาแห่งรัฐแคนาดาสมัยใหม่ โดยดำรงตำแหน่งดังกล่าวอยู่ถึงสามปีด้วยกัน

การที่ได้ปรากฏตัวท่ามกลางสื่อมาตั้งแต่เด็กทำให้เขากลายเป็นนักโปรยเสน่ห์ตัวฉกาจ เป็นหนึ่งในนักการเมืองที่ใครๆก็ปฏิเสธเสน่ห์ที่ตัวเขามีได้ยากในยุคนี้ ตามที่เราก็ได้ประจักษ์กับสายตาไปแล้ว (และก็เห็นว่าเป็นที่นำมาวิจารณ์กันอย่างหนาหู) ว่าสายตาที่พราวเสน่ห์ที่เขามีให้กับสตรีชั้นนำของโลกไม่ว่าจะเป็น องค์สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่สองแห่งอังกฤษ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯอย่างเมลานี ทรัมป์,ดัชเชส แคทเธอรีน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ หรือแม้แต่บุตรสาวประธานาธิบดีของสหรัฐฯ อย่าง อีวังก้า ทรัมป์ เหลือร้ายเพียงใด สตรีทั้งหมดนี้ต่างก็ต้องยอมสยบให้กับนักการเมืองมาดหนุ่มสำรวยที่สง่างามมีการศึกษาอย่างเขา

และสิ่งนี้ก็เกิดขึ้นกับ โซฟี เกรกัวร์ พิธีการรายการโทรทัศน์และครูสอนโยคะมาแล้วเช่นกัน ซึ่งเป็นสาวตัวจริงที่เขาเลือกเดินเข้าสู่ประตูวิวาห์ด้วยเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ในปี 2005จากการสมรสกันในครั้งนี้ทั้งคู่ก็ได้มีทายาทร่วมกันถึง 3 คน ได้แก่ ฮาเบียร์ เจมส์,แอลล่า เกรด และฮาเดรียน จัสติน ภรรยาและลูกๆใช้ชีวิตสมรสและครอบครัวที่สมบูรณ์ซึ่งต่างจากบิดาของจัสติน
ในหนังสือชีวประวัติของเขาที่ชื่อ “Common Ground” จัสตินเล่าย้อนไปว่าเขามีช่วงเวลาในวัยเด็กที่มีอภิสิทธิ์มากแต่ก็ต้องแลกมากับการต้องพลัดพรากจากพ่อและแม่ซึ่งหย่าร้างกันตอนที่เขาอายุได้เจ็ดขวบเท่านั้น มารดาของเขาอย่างมากาเร็ต ทรูโด ที่เป็นทั้งสาวสังคม นักเขียน และนักแสดงที่ต่อมาได้กลายมาเป็นนักเคลื่อนไหวที่ต่อสู้เพื่อผู้ป่วยจิตเวช (ซึ่งเธอเองก็ป่วยเป็นโรคไบโพล่าหรืออารมณ์แปรปรวนแบบสุดขั้ว) ตกเป็นข่าวฉาวมากมายในแวดวงสังคมยุค 70s-80s ตอนที่เธอเข้าไปพัวพันกับวุฒิสมาชิก เท็ด เคนเนดี้ หรือกับ รูนี้ วูด รวมถึงมิกค์ แจ๊กเกอร์แห่งวงโรลิงส์ สโตนส์
ความล้มเหลวในเรื่องครอบครัวของบิดาของเขาทำให้คนทั้งแคนาดาจับจ้องและตั้งความหวังไว้ที่นายกหนุ่มคนนี้ซึ่งโปรยเสน่ห์เฉพาะตัวอย่างเหลือล้น เมื่อปรากฎตัวต่อหน้าสื่อ อย่างเช่นเมื่อครั้งที่เขาต้องทำหน้าที่พูดแทนทุกคนในครอบครัวตอนที่เสียพี่ชาย มิคาเอล ไป ในปี 1998 และสองปีต่อมาในงานศพของบิดาต่อหน้าประธานาธิบดีฟิเดล คาสโตร จิมมี่ คาร์เตอร์ และลีโอนาร์ด โคเฮน ในขณะที่ผู้คนคนก็เริ่มพูดกันอย่างหนาหูว่าเขานี่แหละคือผู้สืบทอดมรดกและความรุ่งเรืองแห่งตระกูลทรูโดที่แท้จริง
ในช่วงแรกเริ่มบนเส้นทางสายการเมืองของเขาหลังจากทำงานเป็นอาจารย์มาหลายปีเขาก็ได้รับสมญานามจากนักข่าวสาวๆยุคนั้นๆที่เขาให้สัมภาษณ์ด้วยว่าเป็น “อาชาหนุ่มที่เปร่งประกาย” ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะชนะการเลือกตั้งได้ที่นั่งในรัฐสภามาครองในปี2008 ไม่เพียงแต่ชนะสองครั้งติดกันแต่เขายังคว้าเก้าอี้หัวหน้าพรรคเสรีนิยมมาครองได้อีกด้วยในปี2013 และก็มาชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทะลายอีกคราในปี 2015โดยได้เสียงข้างมากไปแบบเป็นเอกฉันท์

หลังจากที่จัสตินได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งแคนาดาก็พลิกโฉมปฏิวัติตัวเองกลับเข้ามายืนบนพื้นที่การเมืองโลกอย่างสง่างงามซึ่งทั้งหมดก็ต้องยกความดีความชอบให้กับผู้ชายคนนี้ซึ่งเป็นตัวแทนของอุดมการณ์แนวคิดใหม่ให้กับการเมืองสากลซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับที่ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า สหายคนสำคัญของเขาสนับสนุนมาตลอด ถึงขนาดที่ว่าหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ต้องกล่าวว่าเป็นเพราะจัสตินเองโดยแท้ที่ทำให้ชื่อของแคนาดาฮ็อตฮิตติดลมบนได้ขนาดนี้

ทั้งประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาคร็อง,เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ หรือแม้กระทั่งพระสันตะปาปาฟราซิสโก (ซึ่งทรูโดนั้นประกาศชัดว่าเขานับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก) ต่างก็เอ็นดูผู้นำหนุ่มที่ได้รับการเลือกเข้ามาทำให้ตระกูลทรูโดสามารถกลับมาสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับแคนาดาได้อีกครั้ง
ด้วยบุคลิกที่เข้าถึงคนอื่นๆได้ง่าย เป็นนักสตรีนิยม รวมถึงเปิดรับการเจรจาต่างๆทำให้คนที่ลงคะแนนเสียงไว้วางใจเขาด้วยคำพูดจากปากของเขาที่ว่า “บางทีเรื่องนี้อาจจะยังหาข้อตกลงร่วมกันยังไม่ค่อยได้ ทว่าผมก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าในเรื่องอื่นๆทุกท่านก็ยังจะให้เกียรติผมพอที่จะได้รับใช้ทุกท่านบ้าง” นอกจากนี้เขายังชอบต่อยมวยเป็นชีวิตจิตใจตามที่เขามักจะบอกให้เราๆได้ทราบกัน ทั้งยังมีแฟนๆคอยติดตามความเคลื่อนไหวของเขาในโลกโซเชี่ยลนับล้านๆคนซึ่งเป็นสิ่งที่รับประกันได้ว่าความคลั่งไคล้ในตัวผู้นำหนุ่มแห่งตระกูลทรูโดผู้นี้นั้นแรงดีไม่มีตก