Home > Celebrity > Celebrity News > สองพี่น้องสุดซี้ คิม-เจน ทายาท “นานมีบุ๊คส์”

น่ารักและอบอุ่นเอามากๆสำหรับสมาชิกของครอบครัว ”จงสถิตย์วัฒนา” ทั้งคุณพ่อพิชิต คุณแม่สุวดี ที่ถ่ายทอดวิชาความรู้ในการทำงานพร้อมกับบ่มเพาะความรักภายในครอบครัวได้อย่างดีเยี่ยม จนทำให้คุณคิมและคุณเจน พี่น้องที่อายุห่างกัน 3 ปีแต่สนิทกันมากชนิดที่ว่าแค่มองตาก็รู้ใจเลยทีเดียว

“เจนเขาเป็นคนหนักแน่น นิ่ง เป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจให้ทุกคนในครอบครัว เวลาเจนไม่อยู่บ้านไปต่างประเทศทุกคนก็จะบ่นถึงอยากให้รีบกลับ เขาเป็นคนที่ใครอยู่ใกล้แล้วรู้สึกดี ส่วนคิมเองจะเซนสิทีฟ อารมณ์ปรวนแปรค่ะ”

โดยชมขนาดนี้คุณเจนน้องสาวเลยขอออกตัวว่า “เป็นคนอารมณ์ดี แต่มีเครียดนะคะ” แต่ไม่วายพี่สาวก็ยังแก้ต่างให้ว่า “แต่ไม่แผ่รังสีในแง่ลบออกมา เขามองโลกแง่ดี แต่ถ้าเป็นคิมอารมณ์เสียทุกคนจะรู้ ไม่พูดนะแต่ออกทางสีหน้า แต่ของเจน ไม่มีใครรู้ แต่ถ้าเจนปล่อยปุ๊บเขาก็น่ากลัวเหมือนกัน”

แถมคุณคิมยังบอกเล่าสิ่งที่ประทับใจที่สุดในตัวน้องสาวนั่นก็คือ “ความมีสติ และความมีน้ำใจ เขางานยุ่งไม่น้อยไปกว่าคิม แต่เขายื่นมือเข้ามาช่วยจัดการเสมอ ซึ่งสะท้อนทั้งกับสมาชิกครอบครัว เพื่อนๆ ญาติๆ คนที่รู้จักจะรักเจน ส่วนมุมดาร์ก เนื่องจากไม่แสดงความรู้สึก เขาจะเก็บกด (หัวเราะ)”

“พี่คิม เป็นคนดูแลเราดีมากตั้งแต่เด็ก ชวนเราทำทุกอย่าง วันเกิดเพื่อนเขาแต่เขาเป็นคนเดียวที่ขอเอาน้องสาวไปด้วย แนะนำน้อง เวลาเราทำอะไรผิด หรือไม่ดี จะไม่ตัดสินเรา แต่จะเข้าใจและเตือน ทำให้เราสนิทกัน กล้าจะบอก เกิดอะไรขึ้นในชีวิตบ้าง กล้าเล่าให้ฟัง เราสามารถไว้ใจ พึ่งพาพี่ได้ ให้คำปรึกษาได้ มองตาก็รู้ใจกัน” น้องสาวเล่าพลางหันไปสบตายิ้มขอบคุณพี่สาวที่นั่งอยู่ข้างๆ

ความลับเรื่องของความรัก…?

สำหรับเรื่องความรักระหว่างพี่สาวกับน้องสาวนั้น ถ้ามีหนุ่มๆมาจีบใครล่ะก็ ทั้งคู่บอกว่าทราบเรื่องราวหมดเพราะต่างก็ไม่มีใครปิดบังกันและกัน คุณคิมเล่าถึงน้องสาวในช่วงมัธยมต้นว่า

“มีผู้ชายคนหนึ่งมาขอเจนเป็นแฟน ถึงกับต้องประชุมครอบครัวเลยค่ะ เอ่ยข้อดีและข้อเสียของการเป็นแฟนกับคนนี้ สรุปข้อเสียเยอะมาก ข้อดีมีข้อเดียว แต่พอกลับไปโรงเรียนที่ภูเก็ตปุ๊บ เอ้า! สรุปเจนมาบอกไปเป็นแฟนกับเขาแล้ว” คุณเจนที่นั่งข้างๆ หัวเราะเสียงดังขึ้น “ตอนนั้นป๊อปปี้เลิฟค่ะ”

แต่สถานะตอนนี้เจ้าตัวบอกว่า สถานะโสด (โปรดจีบ) เธอมีมุมมองความรักในวัย 30 ว่าทุกวันนี้มีความรักให้ตัวเอง เห็นคุณค่าตัวเองมากขึ้น

“การจะมองหาใครสักคน คนๆนั้น ต้องมองเห็นคุณค่าของเรา ต้องให้เกียรติเรา ยอมรับว่าเราเป็นแบบไหน ส่วนตัวไม่มีสเปค แต่แอบชอบคนผิวสีแทนๆ มั้งคะ ชอบคนตั้งใจทำงาน ดูแลตัวเอง พร้อมไปผจญภัยหลายๆ ที่ด้วยกัน ไม่ใช่เอาแต่อยู่บ้าน อยู่ในเมือง แต่ต้องไปสนุกกับเราได้ด้วย”

ทุกครั้งเวลามีหนุ่มมาขายขนมจีบ สองสาวประสานเสียงเดียวกันว่า จะให้พามาให้คุณพ่อคุณแม่รู้จัก รวมไปถึงญาติๆ เพื่อนๆ เรียกว่าผ่านด่านสกรีนก่อน ถ้าโอเคถึงไฟเขียว

“เราโชคดีที่ครอบครัวค่อนข้างเปิดใจ ปล่อยให้มีอิสรภาพในการใช้ชีวิต ไม่ได้ออกกฎห้าม ซึ่งเราสองคนก็ไม่ได้ออกนอกลู่นอกทาง ทำให้คุณพ่อคุณแม่เชื่อใจเราในระดับหนึ่ง แต่ถ้าเรื่องคู่ชีวิต คุณพ่อจะลงดีเทลมากสักหน่อย แต่เปิดโอกาสนะคะ อยากคบคบเลย แต่จะมีความคิดเห็นเสนอแนะคอยเตือนบ้าง ซึ่งเราก็รับฟัง”

“เขาไม่ได้กำหนดว่าเส้นทางชีวิตของเราควรเป็นแบบนี้ เพียงแต่สุดท้ายการมีครอบครัวที่ดี เป็นคู่ชีวิตกันได้ดี นั่นก็เป็นเรื่องที่ดีที่พ่อแม่รู้สึกหายห่วง อย่างตอนนี้คิมมีแฟน อยู่ช่วงทำความรู้จัก ต่างคนต่างพยายามสร้างตัว ไม่ได้มีแพลนจะแต่งงาน วันข้างหน้าปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต เราทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก่อน”

หนุ่มๆได้ฟังอย่างนี้แล้วเร่งสปีดหน่อยนะคะ ถึงจะต้องผ่านด่านอรหันต์อยู่สักหน่อย แต่ขอบอกเลยค่ะว่าสาวบ้านนี้ทั้งสวยทั้งเก่งแถมจิตใจดีงาม หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว!

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.