Home > Celebrity > Celebrity News > New Year’s Resolution 2022: ‘เชฟต้อง – นันทวดี’ เตรียมเสิร์ฟความอร่อยเมนูใหม่

หากถามเหล่าฟู้ดดี้ว่า ร้านอาหารร้านไหนติดท็อป The Best ในใจของแต่ละท่านกันบ้าง เชื่อว่าชื่อของ ‘Monster by Tong’ ร้านอาหารคอนเซปต์ Chef Table ของ ‘เชฟต้อง – นันทวดี นันทาภิวัฒน์ ไม่หลุดโผแน่นอน เพราะนอกจากเมนู ‘พายไก่ซอสขาว’ และเมนู ‘ซี่โครงบาร์บีคิว’ ที่แจ้งเกิดเปิดตัวเชฟต้องให้เป็นที่รู้จักของเหล่านักชิมแล้ว ยังมี ‘Beef Wellington’ เมนูพระเอกของร้าน ที่ไม่ว่าใครได้มาลิ้มลองรสชาติต่างก็ติดใจในความแตกต่าง แถมแห่จองคิวขอมาซ้ำยาวเหยียดตลอดทั้งปีที่ผ่านมา ถือเป็นปีทองของเชฟต้องเลยก็ว่าได้

แต่ก่อนจะไปพูดคุยถึงเคล็ดลับความอร่อยของเมนูต่างๆ ที่รังสรรค์ขึ้น เชฟต้องขอเล่าย้อนไปถึงที่มาของจุดเริ่มต้นของการทำอาหารให้ฟังเป็นออเดิร์ฟว่า “จริงๆ ตัวเองไม่ได้เรียนด้านอาหารมาเลย แต่ด้วยความที่เกิดและเติบโตในครอบครัวที่ชอบทำอาหารกันมาก ตั้งแต่คุณยาย (คุณเล็ก นันทาภิวัฒน์) คุณแม่ (คุณนันทา นันทาภิวัฒน์) จนทำให้เราซึมซับการทำอาหาร ประกอบกับตัวเองชอบออกไปสรรหาของอร่อยกิน แต่คุณแม่จะเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบออกไปกินข้าวนอกบ้าน ทำให้เราต้องทำอาหารกินกันเองในครอบครัวเกือบทุกวัน ฉะนั้นเวลาที่เราได้ไปกินของอร่อยตามร้านต่างๆ ต้องก็อยากให้คุณแม่ได้กินเหมือนกัน จึงเริ่มฝึกทำอาหารและคิดเมนูปรับสูตรให้อร่อยเหมือนรสชาติที่เราเคยกินมา”

เชฟต้อง – นันทวดี นันทาภิวัฒน์ ตั้งใจรังสรรค์เมนูอร่อยจัดเสิร์ฟให้นักชิม

กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการจับตะหลิวปรุงเมนูต่างๆ ให้คนในครอบครัวกินกัน รวมไปถึงเพื่อนๆ ของคุณแม่ที่บางครั้งนัดปาร์ตี้สังสรรค์กันที่บ้าน คุณต้องก็มักจะอาสาทำอาหารให้เพื่อนคุณแม่กินกันตลอด “พอเราได้ฝึกทำอาหารไปเรื่อยๆ ก็มีการพัฒนาฝีมือขึ้นทุกวัน จนได้รับคำชมหลายครั้งเวลาที่มีแขกมากินข้าวที่บ้าน กระทั่งเรียกร้องให้เปิดร้าน แต่ช่วงแรกต้องยังไม่ค่อยมั่นใจ พอหลังๆ คนเริ่มเชียร์มากขึ้น ก็ถึงยอมใจอ่อนค่ะ” ตอนนั้นเชฟต้องเริ่มจากการขาย ‘พายไก่ซอสขาว’ ซึ่งเป็นเมนูประจำบ้านสูตรของคุณยาย และเมนูซี่โครงหมูบาร์บีคิว เปิดรับออเดอร์ผ่าน facebook เพราะเมื่อ 2 ปีก่อนยังไม่มีหน้าร้าน และการบอกกันปากต่อปากถึงรสชาติความอร่อย จนมีออเดอร์สั่งเข้ามายาวเหยียดเป็นหางว่าวทุกวันเลย

เมนูข้าวผัดเนื้อ อีกหนึ่งเมนูโปรดในความทรงจำของเชฟต้อง

หลังจากนั้นก็เริ่มทำการตลาดออนไลน์มากขึ้น โดยเปิดเป็น Instagram official ของร้านอย่างเป็นทางการ พร้อมเพิ่มเมนูที่หลากหลายมากขึ้น และไม่นานก็มีลูกค้าหลายท่านร้องขอมานั่งกินที่บ้าน จนกลายเป็นคอนเซปต์ของ Monster by Chef Table มาจนถึงทุกวันนี้ โดยพยายามนำประสบการณ์ที่ได้จากการไปชิมอาหารหลากหลายมาปรับและคิดค้นสูตรด้วยตัวเอง เช่น เมนู ‘คาเวียร์พานาคอตต้า’ ที่เพิ่งปรับสูตรและลองเสิร์ฟให้ลูกค้าชิม ทั้งนี้หลายๆ เมนูที่คิดค้นขึ้น นอกจากจะทดลองชิมเองแล้ว เชฟต้องบอกว่า ยังให้ลูกค้าที่แวะเวียนมากินที่บ้าน ได้ช่วยคอมเมนท์รสชาติและรูปแบบในการนำเสนอ พร้อมสลับสับเปลี่ยนเมนูไปเรื่อยๆ สร้างความแปลกใหม่และไม่ซ้ำจำเจ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่มากินอาหารของที่ร้าน รวมไปถึงเมนูต่างๆ ที่ปรับสูตรมาจากของคุณยาย เช่น เมนู ‘ตับไก่บด’ (Chicken Lever Pâté) หรือเมนูแซนวิชไข่ซึ่งเป็นเมนูที่คุณยายเคยทำให้คุณแม่ของเธอกินตอนเด็กๆ เมนู ‘สตูหมูก้อน’ หรือแม้กระทั่งเมนูง่ายๆ อย่างข้าวผัดเนื้อ และข้าวผัดไส้กรอก อีกหนึ่งเมนูในความทรงจำทั้งของคุณแม่และของเชฟต้องนั่นเอง

คุณนันทา นันทาภิวัฒน์ (ซ้าย) ผู้เป็นแรงบันดาลใจในการทำงานอาหารให้กับเชฟคนเก่งแห่ง Monster by Tong

และอย่างที่บอกว่าเมนูชูโรงของร้าน คือ ‘Beef wellington’ ที่สร้างชื่อให้กับเชฟต้อง หลังเข้าร่วมในรายการมาสเตอร์เชฟ ในโจทย์ของการทำ Beef wellington ซึ่งหลังจากออกอากาศไปทำให้กระแสของเมนูนี้เป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น และต้องขอบคุณเชฟป้อม – ม.ล.ขวัญทิพย์ เทวกุล หนึ่งในคณะกรรมการตัดสินรายการดังกล่าวที่แวะมาชิมเมนูนี้ที่ร้าน และชมว่า “ถ้าจะกินเมนู Beef wellington ในเมืองไทย ต้องมากินที่ร้านนี้เท่านั้น” ทำให้เหล่านักชิมตามมาสัมผัสรสชาติของเมนูนี้กันอย่างไม่ขาดสาย

Beef wellington เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน Monster by Tong
ความชุ่มฉ่ำของเนื้อและความเหลืองกรอบของแป้ง ชวนให้ลิ้มลองมากๆ

แม้ว่าเมนูนี้จะราคาค่อนข้างสูง เชฟต้องอธิบายว่า “เนื่องจากเราเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพและคัดสรรมาอย่างดี โดยเฉพาะเนื้อที่เราใช้ เป็นเนื้อเทนเดอร์ลอยน์ ส่วน centercut ที่มีราคาแพงที่สุด เพราะเป็นส่วนที่มีความนุ่มและขนาดเท่ากันทั้งชิ้น ทุกเมนูเราใส่ใจเรื่องคุณภาพและรสชาติความอร่อย สิ่งสำคัญคือการเลือกใช้วัตถุดิบในการปรุงอาหาร ต้องใช้ คอนเซปต์เหมือนกับการเลือกวัตถุดิบทำอาหารให้กับคนในครอบครัวกิน”

และความตั้งใจในปีนี้ นอกจากจะคิดสูตรเมนูอาหารใหม่ๆ ให้เหล่านักชิมได้สัมผัสรสชาติความอร่อยที่หลากหลายแล้ว เชฟต้องยังได้ปรับปรุงหน้าร้าน ที่บ้านย่านสุขุมวิท ด้วยการจัดสวนใหม่ พร้อมเตรียมจัดเสิร์ฟเมนูเบเกอรี่อย่างเต็มรูปแบบ ที่ตอนนี้กำลังง่วนอยู่กับการคิดค้นเมนูต่างๆ โดยเฉพาะเมนูที่มีส่วนผสมของทรัฟเฟิล ไม่ว่าจะเป็น ครัวซองส์ทรัฟเฟิล และที่เซอร์ไพร้สสุดๆ เห็นจะเป็นเมนูใหม่ที่เชฟต้องบอกกับ HELLO! เป็นที่แรกว่า “ จะมี ‘ทรัฟเฟิลเค้ก’ เสิร์ฟที่ร้านเร็วๆ นี้ เอาใจสายทรัฟเฟิลเลิฟเวอร์อีกด้วย”

เมนู ‘ครัวซองส์ทรัฟเฟิล’ ชวนท้องให้ร้องหิว

นอกจากนี้ช่วงล็อกดาวน์ที่ผ่านมา ซึ่งร้านอาหารก็ปิดให้บริการ แต่ยังคงจัดส่งแบบ Delivery แต่ความสดใหม่อาจจะแตกต่างจากการมานั่งกินที่ร้าน ทำให้เชฟต้องคิดหาวิธีเพื่อตอบโจทย์ลูกค้า ว่าจะทำอย่างไรให้ลูกค้าที่สั่งอาหาร Delivery  สามารถรับรสชาติอาหารเหมือนเดิม คุณภาพไม่ลดลง และความอร่อยไม่แตกต่าง ทว่าเป็นโจทย์ที่ยากไม่น้อย แต่เชฟต้องก็กำลังพยายามอย่างเต็มที่ และจะไม่หยุดพัฒนาตัวเอง

จากคนที่ชอบสรรหาของอร่อยกิน จนกระทั่งวันหนึ่งอยากเข้าครัวจับตะหลิว ปรุงเมนูอาหารให้คนในครอบครัวกินบ้าง พร้อมพัฒนาฝีมือปรับสูตรความอร่อยเรื่อยมา จนมีคนติดใจในรสมือและชื่นชมไม่ขาดปาก เชฟต้องบอกว่า “รู้สึกดีใจมากๆ เพราะเราเองไม่ได้ร่ำเรียนด้านอาหารมาเลย แต่อาศัยครูพักลักจำ และลองผิดลองถูก คิดแค่ว่าทำในสิ่งที่ตัวเองชอบและมีความสุขแค่นั้นก็พอแล้ว”

และอีกหนึ่งความภูมิใจที่เชฟต้องบอกกับ HELLO! นั่นก็คือ การทำอาหาร ทำให้ ‘เด็กเกเร’ คนหนึ่งที่ไม่ตั้งใจทำงานอะไรเลย จนวันหนึ่งมีร้านอาหารของตัวเอง “เป็นอะไรที่เกินฝันมากๆ เพราะต้องอยากทำให้คุณแม่ภูมิใจ อยากลบน้ำตาทุกหยดที่คุณแม่เสียไปตอนที่ต้องทำตัวไม่ดี และวันนี้คุณแม่ก็ยิ้มได้และมีความสุขกับสิ่งที่ลูกสาวคนนี้ทำ เป็นอะไรที่ดีใจมากๆ และจะพยายามทำให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปค่ะ”

———————————————————————————————————————————————————————————————

ติดตามเรื่องราวสัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คลูกซีฟได้ใน

นิตยสาร HELLO! ฉบับเดือนมกราคม 2565 วางแผงแล้ววันนี้ !!!

ติดต่อสั่งซื้อโทร 0 2676 8999 ต่อ 217 หรือ 084 079 5678

สั่งซื้อออนไลน์ที่ shop.burdathailand.com หรือ Line ID: @hellomagazineth

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.