Home > Celebrity > Celebrity News > New Year’s Resolution 2022: เดินสายกลาง ‘อรจนา เคหสุขเจริญ’ เน้นปรับสมดุลกาย-ใจ

ด้วยถูกปลูกฝังให้เริ่มปฏิบัติธรรมมาตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่น จนทำให้ ‘คุณแซนดี้ – อรจนา เคหสุขเจริญ’ เซเลบริตี้สาวศิษย์กอร์ดอน เบลอ ที่หันมาเปิดร้านส้มตำ และเดินทางท่องเที่ยวหาประสบการณ์ให้ชีวิตอยู่เนืองๆ บาลานซ์ชีวิตด้วยธรรมะ  อีกทั้งยังเรียนรู้ศาสตร์คลื่นเสียงบำบัดจาก Crystal Singing Bowl ปรับสมดุลกาย-ใจ สร้างพลังงานบวกให้กับตัวเองและคนรอบข้าง

คุณแซนดี้เล่าท้าวความให้ฟังถึงความสนใจในการปฏิบัติธรรมที่เริ่มต้นตั้งแต่สมัยสอบเข้ามหาวิทยาลัยว่า “เหตุเกิดจากคุณแม่กลัวจะสอบไม่ติด ก็เลยส่งไปเข้าคอร์สปฏิบัติธรรม 2 ปีก่อนจะเอ็นทรานซ์ เพื่อใช้ธรรมะขัดเกลา ให้จิตใจสงบ มีสมาธิในการอ่านหนังสือ ณ เวลานั้นตัวเองก็ไม่ได้เข้าใจเหตุผลของคุณแม่ซะทีเดียว แต่ด้วยความที่เราเป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่าย ใครแนะนำให้ทำอะไร ก็เปิดรับหมดถ้าเป็นสิ่งที่ดี ก็เรียนรู้การปฏิบัติธรรมอยู่นานเลยค่ะ แต่ช่วงที่เรียนจบ เริ่มทำงานก็ห่างไป”

คุณแซนดี้ – อรจนา เคหสุขเจริญ

จากนั้นเธอก็กลับมาปฏิบัติธรรมอีกครั้งตอนอายุ 30 ต้นๆ กับเหตุผลที่ว่า ” ‘ไม่สมหวังกับความรัก’ ประกอบกับเป็นช่วงที่คุณแม่ป่วยเส้นเลือดในสมองแตก เราก็มีอะไรยึดเหนี่ยวจิตใจ อีกอย่างคิดว่าที่ชีวิตเราราบรื่นมาตลอด อาจเป็นเพราะผลบุญที่เราสร้างมาตั้งแต่ในอดีต เพราะฉะนั้นเราอยากจะสร้างบุญต่อ และคิดว่าการปฏิบัติธรรม วิปัสสนากรรมฐาน คือการสร้างบุญและกุศลกรรมที่ยิ่งใหญ่ ถ้าจิตใจเราสบาย ร่างกายเราก็จะสบายตามไปด้วย ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว ”

เรียนรู้ศาสตร์คลื่นเสียงบำบัด

และเมื่อไม่นานมานี้ คุณแซนดี้ยังมีโอกาสไปสร้างภูมิคุ้มกันที่ ‘บ้านทอฝัน’ ของ ‘ครูนาท – ดร.กัมปนาท บัวฮมบุรา’ หรือที่ชาวต่างชาติรู้จักกันในนาม ‘Krishna Kantha’ นักคลื่นเสียงบำบัดด้วย Crystal Singing Bowl ฝีมือระดับโลก ที่เดินทางไปเรียนรู้ศาสตร์การบำบัดต่างๆ ที่อินเดียตั้งแต่อายุ 15 ปี เพราะสนใจในเรื่องของธรรมชาติบำบัด การกระตุ้นและสร้างภูมิคุ้มกันด้วยวิธีจากธรรมชาติ จนมาสร้างบ้านทอฝัน ที่สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ให้เป็นที่พักสำหรับคนรักสุขภาพ หรือเรียกอีกอย่างว่า ‘โรงซ่อมมนุษย์’ กับคอร์สคลื่นเสียงบำบัดและล้างพิษกายใจ 3 วัน 2 คืน

ใช้ศาสตร์คลื่นเสียงจาก Crystal Bowl บำบัดกาย-ใจ

“ตอนแรกที่เพื่อนชวนไป ยอมรับว่าไม่เคยรู้มาก่อนว่าเป็นศาสตร์ด้านไหน แต่พอฟังแล้วน่าสนใจก็ตัดสินใจไปทันที อย่างที่บอกว่า เป็นคนที่ชอบไปเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่แล้ว ปรากฎว่า พอไปถึง ต้องอดอาหารและงดน้ำ 36 ชั่วโมง คุณครูบอกว่าเป็นการปรับร่างกายให้สามารถฟื้นฟูตัวเองได้เร็ว เหมือนเป็นการดับเครื่องชน เพราะการไม่เติมอาหารและน้ำใหม่ให้ร่างกาย จะทำให้ภายในร่างกายเย็น หยุดกระบวนการทำงาน เซลล์ต่างๆ สามารถซ่อมแซมตัวเองได้เร็วขึ้น หรือแม้กระทั่งโรคต่างๆ สามารถแสดงออกมาให้เห็นได้ชัดเจน

“ระหว่างนั้นครูนาทจะเติมพลัง ปรับสมดุลกายใจให้เรา ผ่านคลื่นเสียงจาก Crystal Bowl ที่ทำจากแร่รัตนชาติต่างๆ ทั้ง ซิลิกา โกล์ดไดมอน โรสควอตซ์ ฯลฯ ซึ่งแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันในการเยียวยา ร่างกายตามฐานต่างๆ (จักระ) เวลาได้รับคลื่นเสียง จะรู้สึกว่าเราได้รับการเยียวยา” คุณแซนดี้อธิบายถึงหลักการของศาสตร์ Crystal Singing Bowl อย่างละเอียด

ทั้งนี้ระหว่างวันจะมีกิจกรรมกระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วยน้ำร้อนน้ำเย็น หรือที่เรียกว่า ‘ห่มร้อน อาบเย็น’ สำหรับกิจกรรมนี้คุณแซนดี้บอกว่า เป็นการใช้ภูมิปัญญาที่มีมาแต่โบราณ เพราะน้ำเย็นอุณหภูมิติดลบสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีที่สุด และช่วยซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ ในร่างกายได้เป็นอย่างดี โดยมีวิธีการ คือเราจะนอนอาบแดดห่มใบตอง เป็นเวลา 1 ชั่วโมง และต้องเป็นใบตองจากต้นกล้วยน้ำว้าเท่านั้น เนื่องจากมีคลอโรฟิลล์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และความร้อนจะขับเชื้อโรคต่างๆ ออกมาทางเหงื่อตามรูขุมขน วิธีการคล้ายๆ กับการอบซาวน่า เสร็จแล้วเราจะไปลงดำในน้ำเย็นจัดที่มีน้ำแข็งต่ออีก 10 รอบหรือที่คุณครูเรียกว่า ‘MRI จากธรรมชาติ’ เพราะสามารถสแกนทุกอย่างได้จริงๆ ”

ปรับกายใจด้วยวิธีธรรมชาติ

จากเป็นหนึ่งคนที่ชอบพกยารักษาโรคต่างๆ เวลาเดินทางไปไหนมาไหน เรียกว่ามีเป็นกระเป๋าพยาบาลเลยก็ว่าได้ ใครเจ็บป่วยโรคอะไร สามารถหยิบยานั้นมาให้กินได้เลย ตอนนี้คุณแซนดี้พกแค่พาสเตอร์ปิดแผลเท่านั้น เพราะพยายามเรียนรู้การใช้ธรรมชาติบำบัดแทน คุณแซนดี้ยกตัวอย่างเช่น ปกติตัวเองจะชอบคันตา ครูนาทก็แนะนำว่า น้ำตาของเราคือยาหยอดตาที่ดีที่สุด ฉะนั้นเวลาที่เรามีอาการเคืองตาขึ้นมา ทำยังไงก็ได้ให้มีน้ำตาไหลออกมา หรือถ้าโดนยุงกัด ก็ใช้น้ำแข็งประคบเอา ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงต้องหายามาทาให้วุ่นวาย การใช้ธรรมชาติบำบัดทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้น และจะยังคงใช้วิธีนี้ต่อไป เพราะสำหรับตัวเองคิดว่าเป็นการเดินทางสายกลาง ที่ทำให้ชีวิตเราบาลานซ์ แต่สิ่งที่อยากจะพยายามทำให้ดีกว่าเดิม ก็คือการเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ เพราะที่ผ่านมายังกินตามใจปากอยู่

 “ธรรมะและคลื่นเสียงช่วยกล่อมเกลาจิตใจให้นุ่มนวลขึ้น ละเมียดขึ้น จากเมื่อก่อนตัวเองเป็นคนใจร้อน ตอนนี้อาจจะเป็นบ้าง แต่ทำอะไรช้าลง มีสติ พิจารณามากขึ้น วิธีการพูดเปลี่ยนไป ใช้คำพูดที่น่าฟัง ตรงข้ามกับเมื่อก่อนที่เรามักจะพูดตรงหรือทำอะไรโดยไม่ทันได้คิด แล้วมานั่งเสียใจทีหลัง ฉะนั้นอย่างที่บอกว่า กิเลสในใจมนุษย์เกิดขึ้นได้เร็วมากๆ ถ้าเราไม่ได้ฝึกปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ เราอาจจะกลับมาเป็นคนเดิมที่ดูแย่ได้ทุกเมื่อ เราสามารถฝึกได้ตลอดเวลา ปรับให้เข้ากับการใช้ชีวิตประจำวัน อย่าตัดสินการกระทำของใคร หัดปล่อยวางให้เป็น เพราะถ้าจิตเราไม่ปรุงแต่ง ใจเราก็จะไม่ทุกข์ตาม พยายามปรับทุกอย่างให้สามารถใช้ชีวิตในโลกปัจจุบันให้ได้ด้วยค่ะ” คุณแซนดี้กล่าวทิ้งท้าย

———————————————————————————————————————————————————————————————

ติดตามเรื่องราวสัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คลูกซีฟได้ใน

นิตยสาร HELLO! ฉบับเดือนมกราคม 2565 วางแผงแล้ววันนี้ !!!

ติดต่อสั่งซื้อโทร 0 2676 8999 ต่อ 217 หรือ 084 079 5678

สั่งซื้อออนไลน์ที่ shop.burdathailand.com หรือ Line ID: @hellomagazineth

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.