“มันออกจะเหลือเชื่อ” จูดี้กล่าวกับ HELLO! ถึงการคว้าชัยครั้งประวัติศาสตร์ของบุตรชาย ซี่งทำให้เขากลายเป็นชาวอังกฤษคนแรกที่ได้ขึ้นอันดับสูงสุดในวงการเทนนิส “กว่าจะมาถึงจุดที่ได้ครองแชมป์หนึ่งปีไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โดยเฉพาะในยุคสมัยที่มีแต่นักเทนนิสชายฝีมือฉกาจ ทั้งโนวัค (โยโควิค) และโรเจอร์ (เฟเดเรอร์) สำหรับแอนดี้แล้ว เส้นทางคว้าชัยของเขาค่อนข้างสดใสทีเดียว”
แอนดี้ เมอร์เรย์เจ้าของแชมป์วิมเบิลดันและโอลิมปิก เพิ่งโค่นบัลลังค์ปารีส มาสเตอร์จากแชมป์เก่าอย่างโนวัค โยโควิคมาได้หมาดๆ
บรรยากาศการฉลองให้แก่บุตรชายในการคว้าชัยขึ้นแท่นนักเทนนิสมือหนึ่งของโลก
ขณะทั้งคู่เดินทางกลับจากฝรั่งเศส ถูกทวีตขึ้นโซเชียลมีเดียพร้อมคำบรรยายว่า “ภารกิจสำเร็จ #1”
‘จูดี้’ ผู้เป็นทั้งมารดาและโค้ชเทนนิสแก่ลูกชายทั้งสองมาตั้งแต่สมัยอาศัยอยู่ที่ดันเบลน สก็อตแลนด์เล่าว่า “ฉันรู้ดีกว่าใครว่าลูกชายคนนี้ทุ่มเทชีวิตให้กับเทนนิสมากแค่ไหน ไม่เพียง 12 ปีในทัวร์นาเมนต์ แต่รวมถึงการฝึกซ้อมและแข่งขันมาตั้งแต่รุ่นเยาวชน “แอนดี้เจอความผิดหวังมาเยอะ ท้อถอยมาก็หลายหน ไหนจะอาการบาดเจ็บนับครั้งไม่ถ้วนที่หัวเข่าและหลัง แต่เขาไม่เคยหยุดความเชื่อที่ว่าจะไปถึงความฝันระดับโลกให้ได้ ชัยชนะครั้งนี้จึงเป็นเหมือนรางวัลแสนมหัศจรรย์สำหรับความทุ่มเทตลอดเวลาที่ผ่านมา”
แต่ดูเหมือนเจ้าของชัยชนะวัย 29 ปีผู้นี้จะไม่ยอมหลงระเริงไปกับเกียรติยศที่คว้ามาได้ เนื่องจากมีภารกิจหวดเพื่อคว้าตั๋วเข้ารอบชิงชนะเลิศ เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์ ที่สนามโอทู อารีนา ในกรุงลอนดอนรออยู่ (ปัจจุบันเมอร์เรย์หวดเอาชนะเป็นแชมป์รายการนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 20 พ.ย ที่เพิ่งผ่านมาสดๆ ร้อนๆ) “แอนดี้ไม่เคยดีใจกับอะไรออกนอกหน้าเกินเหตุ” จูดี้กล่าวพลางหัวเราะ “เขาทำแค่เพียงหายไปพักจากคอร์ท ซึ่งเหลือเชื่อมาก แต่เขาเป็นคนแบบนั้นจริงๆ ออกจะเป็นคนขี้อายและถ่อมตัว ไม่ใช่คนที่ประเภทออกมาป่าวประกาศชัยชนะหรือกระหายชื่อเสียงอะไรแบบนั้นเลย เขาเป็นคนแบบนี้แหละ”
ชีวิตนอกคอร์ทของแอนดี้ดูเหมือนจะไปได้สวยไม่แพ้กัน เพราะเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเขาและคิมผู้เป็นภรรยาเพิ่งได้รับขวัญลูกสาวตัวน้อยนามว่า ‘โซเฟีย โอลิเวีย’ ออกมาลืมตาดูโลก และนั่นทำให้จูดี้เชื่อมั่นว่าจะทำให้โลกของแอนดี้เปลี่ยนไป “ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ทำให้แอนดี้มีแรงผลักดันได้ขนาดนี้ และนอกคอร์ทเขายังผ่อนคลายมากๆ ด้วย คงเป็นเพราะโซเฟียน้อยมีอะไรให้เขาต้องทำมากมาย”
ใช่เพียงแอนดี้คนเดียวที่หลงรักหนูน้อยโซเฟียหัวปักหัวปำ คุณย่าวัย 57 อย่างจูดี้ก็หลงหลานสาวตัวน้อยไม่แพ้กัน ถึงขั้นลาออกจากตำแหน่งกัปตัน Woman’s British Federation Cup เพื่อทุ่มเทเวลาให้กับครอบครัวและหลานสาวคนแรกเช่นกัน “มันเยี่ยมมากเลยที่มีหลานสาวตัวน้อยอยู่ในบ้าน ฉันคุ้นเคยกับการเลี้ยงเด็กผู้ชายมากกว่า การมีเด็กหญิงตัวเล็กๆ อยู่ด้วยจึงเป็นสิ่งที่ยอดมาก” เธออยากมีหลานชายมาเสริมทีมอีกสักคนบ้างหรือเปล่านะ “ใครจะไปรู้ แต่คงไม่ใช่ปีนี้หรอกนะ” นอกจากความสำเร็จอันเป็นประวัติศาสตร์ของแอนดี้แล้ว เจมี่ พี่ชายซึ่งเป็นเจ้าของแชมป์คู่ผสมถ้วยวิมเบิลดันปี 2007 ก็มีปีทองของตัวเองไม่น้อยไปกว่ากัน ด้วยการคว้าแชมป์สองแกรนด์สแลมพร้อมขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของโลกประเภทคู่เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
………………………………..
Cr. Sally Morgan(Interview)
Cr. Photos : Getty Images,Andy Murrey’s Facebook,Judy Murrey’s Twitter