“…สามัคคีนี้ก็คือการเห็นแก่บ้านเมืองและช่วยกันทุกวิถีทางเพื่อที่จะสร้างบ้านเมืองให้เข้มแข็ง ด้วยการเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันและทํางานด้วยการซื่อสัตย์สุจริตต้องส่งเสริมงานของกันและกันและไม่ทําลายงานของกันและกัน มีเรื่องอะไรให้ได้พูดปรองดองกัน อย่าเรื่องใครเรื่องมันและงานก็ทํางานอย่างตรงไปตรงมา นึกถึงประโยชน์ส่วนรวม…”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่พระราชทานในพิธีประดับยศนายตํารวจชั้นนายพล เมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ.2519 คือหนึ่งในหลายๆพระบรมราโชวาทที่พระองค์ทรงสอนให้คนไทยรู้รักสามัคคีและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันตลอดมา
ในยามที่ความโศกเศร้าเสียใจยังเกาะกุมอยู่ในห้วงความรู้สึกประชาชนคนไทยจำนวนไม่น้อยก็ขอแปรเปลี่ยนความเศร้าเป็นพลังด้วยการน้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาใช้ในชีวิตประจำวัน โดยคนรุ่นใหม่หัวใจภักดิ์อย่างศรัณย์ภัค เพ็ญชาติ หรืิออ้อมแอ้ม ก็น้อมนำเอาหลักคำสอนของพระองค์มาใช้ด้วยการร่วมเป็นจิตอาสาในวันที่ 25 ตุลาคม ที่ผ่านมา
จรสพรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา และศรัณย์ภัค เพ็ญชาติ
“แอ้มได้มีโอกาสไปร่วมโครงการจิตอาสาเฉพาะกิจซึ่งโรงเรียนจิตลดาได้ร่วมกับโรงเรียนวชิราวุธจัดขึ้น โดยเป็นฝ่ายสนับสนุนอยู่ในครัวคอยช่วยหั่นผัก ช่วยทำกับข้าวเพื่อนำไปแจกประชาชนที่สนามหลวง เราอยู่ในครัวที่โรงเรียนจิตรลดาสายวิชาชีพ สนามเสือป่า ตั้งแต่สิบเอ็ดโมงจนถึงประมาณห้าโมงเย็น เราใช้เวลาค่อนข้างนานเพราะทำปริมาณมาก ปกติแอ้มไม่ได้ถนัดทำอาหารแต่ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่เราพอจะช่วยได้ แม้ไม่ได้ไปแจกที่เต็นท์เราก็คอยสนับสนุนอยู่หลังบ้าน เราเป็นเด็กโรงเรียนนี้เราผูกพันเพราะได้เห็นโครงการพระราชดำริที่อยู่ในวังมาตลอดเวลาตั้งแต่อนุบาลหนึ่งจนถึงมัธยมศึกษาปีที่หก เรารู้ว่าพระองค์ท่านทรงทำอะไรเพื่อประเทศของเราบ้าง เพราะฉะนั้นอะไรที่ช่วยได้เราก็ทำให้เต็มที่ พอเราทำเราก็รู้สึกเลยว่ามันดี มันอิ่มใจที่เราเห็นคนรอบข้างร่วมมือกัน”


“รู้สึกดีใจที่ได้มาเป็นจิตอาสาในครั้งนี้ เพราะนอกจากได้มาช่วยแล้วยังได้เจอบรรยากาศเก่าๆเจอศิษย์เก่าโรงเรียนจิตรลดาทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องที่มาช่วยกันทั้งพี่จุ๋ย-จรสพรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา ผู้ที่ชวนให้มาร่วมกิจกรรม แล้วก็มีน้องๆรุ่นที่ห่างกับแอ้มเป็นสิบปีซึ่งเราทราบเพราะได้คุยกันตอนหั่นผักอยู่ เราก็เลยประทับใจว่ามีหมดเลยทุกรุ่น”
นอกจากเป็นจิตอาสาแล้ว ก่อนหน้านั้นคุณแอ้มก็ได้มีโอกาสไปวางพวงมาลัยถวายสักการะ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ รัชกาลที่ 9 ที่ถนนหน้าพระลาน กำแพงพระบรมมหาราชวัง
“แอ้มได้ไปกราบพระบรมศพตอนที่ที่บ้านเป็นเจ้าภาพหนึ่งครั้งและล่าสุดวันที่ 22 ก็ไปวางพวงมาลัยถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ที่ถนนหน้าพระลาน วันนั้นแอ้มขับรถไปจอดที่โรงพยาบาลศิริราชและนั่งเรือข้ามไป พอเดินเข้าไปแล้วก้มกราบพระองค์ท่านก็น้ำตาไหลเลย สิ่งที่แอ้มนึกถึงก็คือขอบคุณที่พระองค์ท่านทำอะไรให้ประเทศนี้เยอะมากและถ้าชาติหน้ามีจริงก็ขอให้เกิดมาในแผ่นดินนี้เป็นข้ารองบาทของพระองค์ตลอดไป”

ศรัณย์ภัค , ศรัณย์และณัฏฐกา เพ็ญชาติ
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ คุณแอ้มในฐานะคนรุ่นใหม่ก็นำหลักธรรมคำสอนที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 มาใช้เพื่อเป็นพสกนิกรที่ดีของพระองค์ท่านและเป็นประชาชนที่ดีของประเทศชาติต่อไป
“สิ่งที่พระองค์ท่านสอนมันอยู่ในชีวิตประจำวันของเราอยู่แล้ว พระองค์ท่านทรงบอกให้เราซื่อสัตย์สุจริต ไม่ใช่แค่หน้าที่การงานแต่รวมถึงเรื่องส่วนตัวและทุกอย่าง ซึ่งถ้าเราทำตาม ประกอบสัมมาอาชีพด้วยความซื่อสัตย์ ก็จะดีมากต่อประเทศของเรา”