จากที่เคยทำงานในวงการบันเทิงติดต่อกัน 16 ปี วันนี้คุณโบใช้คำว่า “โฟกัสชีวิตเปลี่ยน” เธอสมัครใจจะเป็นแม่บ้านและตกลงใจแล้วว่าอยากทำงานที่ให้กลับคืนสู่สังคม
“โบมีโปรเจกต์ทำเวิร์กช็อป Cook and Craft สอนทำขนมและศิลปะให้เด็กๆ โบได้แรงบันดาลใจจากกิจกรรมที่โบทำกับน้องอชิ (อชิรวัตติ์ มัสยวาณิช) และลูกๆ หลานๆ ในครอบครัว สมัยทำรายการทีวี 16 ปีก็เคยทำรายการเนื้อหาแบบนี้ สุดท้ายโบคิดว่าการพัฒนาและให้การศึกษากับเด็กเป็นสิ่งที่ยั่งยืนที่สุด เป็นการคืนสู่สังคม ช่วยสร้างเด็กๆขึ้นมาให้เขามีทักษะติดตัวและเกิดเป็นอาชีพได้ เรียกว่าตอนนี้โบสนใจการเป็น Social Entrepreneur ซึ่งโบเชื่อว่าสิ่งนี้เราทำไปได้จนตลอดชีวิตด้วยค่ะ”
คุณแบมและคุณโบ ยังแชร์ความสนใจในเรื่องอาหารเหมือนกัน โดยคุณแบมที่วันนี้กลายเป็นผู้ประกอบการด้านธุรกิจอาหารเต็มตัว มีแบรนด์ดังในเครือออเดรย์กรุ๊ปมากมาย
“เอาจริงๆ นะคะ ทุกวันนี้ชีวิตมีอยู่ 3 เรื่อง คือร้าน บ้าน และลูก แบมไม่เคยหยุดทำงาน จนเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เป็นช่วงที่แบมเพิ่งจะแต่งงานมีลูก แต่แบมเป็นคนที่ต้องมีอะไรทำ อยู่ว่างไม่ได้ เลยคิดว่าควรจะต้องทำอะไรสักอย่าง และต้องเป็นสิ่งที่เราชอบ เลยเริ่มคิดจากการที่เราชอบทำกับข้าว ชอบตกแต่งบ้าน ชอบคิดเมนูใหม่ๆ มาจัดปาร์ตี้เลี้ยงเพื่อนๆ เป็น จุดเริ่มต้นของการทำร้านอาหารค่ะ”
จากพิธีกร นักการเมือง มาถึง นักธุรกิจ ดูเหมือนงานหลังสุดนี้จะทำให้แววตาเธอเป็นประกายอย่างมีความสุขมากกว่างานไหนๆ “แบมเคยทำร้านอาหารมาก่อนหน้านี้นะคะ แต่ล้มเหลว ยังเคยบอกตัวเองว่าทำอะไรก็ได้ แต่จะไม่ทำธุรกิจอาหารแล้ว แต่สุดท้ายพอเราเปิดร้าน Audrey มัน ไม่เหมือนครั้งที่แล้ว เพราะตอนนั้นเราทำเป็นธุรกิจเสริมในขณะที่เราทำงานการเมืองเป็นหลัก เราไม่ได้ลงไปดูแลเต็มตัว เข้าใจว่าทำไมจึงไม่ประสบความสำเร็จแต่ครั้งนี้มาจากแพชชั่นล้วนๆ เป็นความปรารถนาที่อยากจะทำอาหาร อยากให้บริการคน อยากตกแต่งสถานที่ให้คนมาใช้บริการแล้วมีความสุข ทุ่มเททุกอย่าง 100 เปอร์เซ็นต์ พอเปิดร้านเดือนแรกก็ได้รับการตอบรับที่ดีมาก อาจเป็นเพราะเราเป็นร้านอาหารรายแรกๆที่ตกแต่งแนว French European แต่เข้าถึงได้ เมนูอาหารมิกซ์หลากหลายชาติ ซึ่งยังไม่ค่อยมีคนทำ เหมือนเป็นสิ่งใหม่”
สองพี่น้องไม่เคยละทิ้งหน้าที่ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด คือหน้าที่การเป็นลูกสาว ภรรยา และแม่ที่ดีของครอบครัว
“โบมาถึงช่วงเปลี่ยนของชีวิต เพราะเราเองตัดสินใจจะมีครอบครัวอีกครั้ง แต่ลูกยังเป็นดวงใจเป็นที่หนึ่งของเราเสมอ” แม่โบกล่าวถึงน้องอชิ ที่เติบโตเป็นหนุ่มน้อยวัย 13 ปี “การเลี้ยงลูกทุกวันนี้ไม่ใช่แค่รับส่งลูกไปโรงเรียน โบตื่นเช้ามาทำอาหารให้ลูกกิน พาเขาไปออกกำลังกาย สอนเขา คุยกัน แลกเปลี่ยนความคิดกันเหมือนเพื่อน โบคิดว่าการเป็นแม่เป็นความรับผิดชอบที่หนักมากในการสร้างเด็กหนึ่งคนให้โตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ และนี่คืองานหลักของโบที่ต้องทุ่มเทเพื่อเขา ยิ่งตอนนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่เขากำลังจะเป็นวัยรุ่นด้วย”
“ครอบครัวเป็นความฝันสำหรับเรามาโดยตลอด แบมโชคดีที่สุดท้ายได้แต่งงานในวัยที่ไม่สายเกินไปที่จะมีลูก มีสามีที่ดีมีทั้งลูกสาวและลูกชาย (น้องเวนิส-วณิสตา และน้องวินซ์-นราธิปพงศ์) แบมเอนจอยกับการเลี้ยงลูกมาก”
สิ่งซึ่งทำให้พวกเธองามนั้นมิใช่ผลจากการดูแลตนเองที่ภายนอกเท่านั้น แต่การพบและผ่านอุปสรรคต่างๆในชีวิต จนมายืนหยัดอย่างมั่นคงได้ในวันนี้ต่างหาก ที่ทำให้เธอทั้งสองคือ ผู้หญิงสวยอย่างแท้จริง