จะเรียกว่าทั้งสองคนเป็นไอดอลให้กับชีวิตของหนุ่มสาวเลยก็ว่าได้ เพราะแม้จะเวิร์คฮาร์ดกันทั้งคู่แต่ความหวานกลับไม่น้อยลงเลย โดยคุณนัท-ธนัท ตันอนุชิตติกุล และคุณกิ๊ฟ-สรัญทร เตชะไพบูลย์ คบหาดูใจกันมากว่า 7 ปีครึ่งก่อนแต่งงานกันและใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมาได้ราวๆ 2 ปีนิดๆแล้ว
“เราสองคนยังอายุไม่เยอะ รู้สึกว่าตอนนี้เป็นช่วงชีวิตของคนทำงานและเรายังไฟแรงอยู่ หลายๆ งานก็เป็นโอกาสดีๆที่หยิบยื่นมาให้ เลยดูเหมือนว่าเรา busy แต่เป็นจังหวะช่วงนี้มากกว่าค่ะ” คุณกิ๊ฟสาวสวย PR Marketing Manager ที่ Dior ประเทศไทยบอกกลับเรา ในขณะที่ฝ่ายสามีซีอีโอบริษัทการ์ตูนคลับโกลบอล รวมถึงรองประธานและที่ปรึกษากว่าอีกหลายบริษัท กลับยอมรับว่าจริงๆก็ทำงานหนักมาตั้งแต่คบกันเป็นแฟนกันแล้ว
“กิ๊ฟท์ว่านัทเป็น workaholic นิดๆ นะคะ บางทีนั่งอยู่ในรถด้วยกัน อยู่ดีๆ นัทบ่นพึมพำ กิ๊ฟฟ์หันไปถาม พูดว่าอะไรนะ เขาบอกเปล่าๆ คิดเรื่องงานอยู่ ซึ่งเราเองก็เป็น นึกอะไรได้จะรีบจด กลัวลืมไอเดีย และไม่ชอบดองงาน เลยมีบ้างที่เอางานกลับมาทำที่บ้าน เพราะไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะมีงานอย่างอื่นเพิ่มอีกหรือเปล่า กิ๊ฟท์ว่าตัวเองก็เป็น workaholic เหมือนกันนะ (หัวเราะ) แต่ก่อนเป็นหนักกว่านี้อีก นี่ตัดออกไปเยอะมากแล้ว”
แม้จะฟังดูเหมือนว่าทั้งสองจะยุ่งจนไม่มีเวลาแต่จริงๆแล้วทั้งคู่ทำอะไรด้วยกันบ่อยมาก เพราะต่างปรับตัวเข้าหากันอยู่ตลอด
“เราสองคนปรับเข้าหากันมากขึ้น อย่างนัทชอบดูบอล กิ๊ฟท์นั่งดูเป็นเพื่อนได้ หรือเราชอบช็อปปิ้ง นัทก็ไปเป็นเพื่อน เวลาไปทริปต่างประเทศด้วยกัน เราจะแบ่งเวลาว่าตอนนี้เราจะไปช็อปปิ้ง พอถึงเวลาที่เขาอยากไปดูรถ เราก็ไปโชว์รูมกับเขาได้ กิ๊ฟท์รู้สึกว่าเป็นความชอบส่วนตัวที่ไม่ต้องเหมือนกันไปหมดทุกอย่าง เป็นอะไรเล็กๆ น้อยๆ ที่เราหาเวลาทำในสิ่งที่เราอยากทำ แต่มีเวลาเจอกัน ไปทำกิจกรรมร่วมกัน อย่างไปกินข้าว ดูหนังหรือพาน้องหมาไปอาบน้ำ
นอกจากนั้นทั้งคู่ยังทำให้สาวหลายคนต้องอิจฉาเพราะคุณนัทเป็นหนุ่มโรแมนติกไม่น้อยเลยทีเดียว
“บางคนบอกว่าเราเป็นคู่หวานเพราะนัทให้ดอกไม้กิ๊ฟท์ทุกอาทิตย์มาตั้งแต่เดทแรกจนถึงวันนี้ สม่ำเสมอมาตลอดเกือบ 10 ปีที่คบกันมา ครั้งแรกเป็นกุหลาบขาว แล้วก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ค่ะ”
“ผมชอบให้ดอกไม้กิ๊ฟท์ ไม่ต้องรอเทศกาลนะ วันวาเลนไทน์จะไม่ให้ เพราะทุกคนให้ดอกไม้กันหมด แล้วมันเปลืองด้วย ไม่ใช่เปลืองดอกไม้ แต่วันนั้นดอกไม้มันแพงอย่างไม่สมเหตุสมผล (หัวเราะ) เราสองคนไม่ได้ทำอาหารเอง กิจกรรมโปรดก็จะเป็นการหาร้านอาหาร ผมจะตามใจกิ๊ฟท์ เขาอยากไปร้านไหน ผมไปได้หมด แต่ขออย่างเดียวคือร้านนั้นต้องมีไวน์ดีๆ เพราะผมชอบไวน์ เรื่องอาหารปล่อยเขา เรื่องช็อปปิ้งปล่อยเขา ผมก็อินกับไวน์ รถและนาฬิกาของผมไป”

สามีแอบชมภรรยาให้ Hello! ฟังว่าเป็นผู้หญิงที่เข้าใจทุกอย่าง มีเหตุผล ไม่ขี้น้อยใจหรือขี้งอน แล้วถ้าเขาลืมวันสำคัญอย่างวันเกิดหรือวันครบรอบ เธอจะเคืองไหม “กิ๊ฟท์ไม่ซีเรียสขนาดนั้นเลยค่ะ แต่ก็ควรจะจำได้นะ” สิ้นเสียงเข้มทั้งคู่ก็หัวเราะประสานเสียงกัน
“กิ๊ฟท์เป็นคนมีเหตุและผลนะครับ มีความเข้าใจสูง ซึ่งผมว่านี่คือสิ่งสำคัญของภรรยา ตัวผมไม่ได้ทำอะไรผิดอยู่แล้ว ไม่มีอะไรต้องให้อภัย เพราะเราให้เกียรติซึ่งกันและกัน เข้าใจซึ่งกันและกัน สองอย่างนี้เป็นแรงผลักที่ทำให้ผมก้าวมาถึงจุดนี้ ได้มี success story ของตัวเองในหลายๆเรื่องอย่างที่หวังไว้ ผมมีครอบครัวที่อบอุ่นและมีคู่ชีวิตที่ดี พร้อมให้เราทุ่มเทกับสิ่งที่เราต้องการได้เต็มที่ แม้จะไปสู้ข้างนอกมาจนเป๋ แต่เมื่อกลับถึงบ้านก็ยังมีภรรยาคอยให้กำลังใจอยู่เสมอ”
ทั้งเก่งและเข้าใจกันในทุกด้านแบบนี้ สมกับเป็นคู่รักแห่งยุคจริงๆ