รู้หรือไม่? งานวิวาห์ที่หรูหราที่สุดของเซเลบคนดังเมืองไทยอย่างคู่ของ คุณน็อต-วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์ และ นักแสดงสาว ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต นอกจากชุดเจ้าสาวสุดหรูอลังการแล้ว ชุดสูทสุดเนี๊ยบของเจ้าบ่าวก็มีความพิถีพิถันในการเลือกแถมราคาสูงลิบไม่แพ้กัน….
HELLO! เจอคุณน็อตในงานเลี้ยงเอ็กซ์คลูซีฟงานหนึ่งในร้านอาหารหรูกลางกรุงเทพ ที่ คุณเบียร์ -ธิตินันท์ ชุ่มภาณี เป็นผู้เชื่อเชิญหนุ่มๆ สุดเนี๊ยบของวงการเซเลบคนดังมารวมตัวสังสรรค์กันเพื่อตัดสูท! ฟังแล้วชวนแปลกใจหน่อยๆ แต่เมื่อได้พบปะคุณน็อตที่กำลังสนทนากับเพื่อนอย่างออกรสเขาก็รีบแนะนำให้เรารู้จักกับคุณ ‘โทมัส ลาโซ-อาร์กอส’ หนุ่มสเปนข้างกายทันทีว่า “คนนี่แหละคือผู้อยู่เบื่องหลังชุดสูทในงานแต่งงานของผมทุกตัว”
โทมัส ลาโซ-อาร์กอส (Tomas Laso-Argos) ชายหนุ่มสเปนรูปหล่อหุ่นดี เรามองเขาเป็นผู้ชายที่มีสไตล์และเป็นผู้ก่อตั้งแบรนด์Absolute Bespoke ที่มีอายุได้ 6 ปีแล้ว เขาบินมาไทยทุกๆ 3 เดือน เพื่อนัดพบลูกค้าแบบเอ็กซ์คลูซีฟเล็กๆ เพียงไม่กี่คนนี่คือวิธีการขายที่เป็นเอกลักษณ์ และถูกบอกต่อกันมาเรื่อยๆ ครั้งนี้ก็เช่นกัน เราถูกเชิญมาในงานพบป่ะกลุ่มลูกค้าของเขาที่ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนการขาย ชวนให้เราสนใจจับจ้องในเทคนิคและผลงานของเขาอย่างจริงจัง
“ผมค่อยๆ เริ่มจากเล็กๆ ก่อน ตอนนี้มีทีมงาน 30 คนแล้ว อยู่ที่มาดริด และผมเดินทางไปพบกับลูกค้าทั่วโลก ทั้งนิวยอร์ก แอลเอ ลอนดอน ดูไบ แต่ในเอเชียมีที่เมืองไทยเท่านั้น เพราะผมรู้จักกับคุณเบียร์ที่ดูไบ หลังจากนั้นเขาก็ชวนผมมาที่เมืองไทย เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ”
แต่ละครั้งที่เขามาเมืองไทย เขาจะนัดพบกับลูกค้าในสถานที่ดีๆ เช่น โรงแรม หรือร้านอาหารหรู เพื่อพูดคุยและออกแบบสูทให้กับลูกค้าเฉพาะบุคคล ซึ่งมีอาชีพแตกต่างกัน มีทั้งราชวงศ์ นักธุรกิจ เซเลบริตี้ และคนในวงการบันเทิง
“ผมต้องทำความรู้จักกับลูกค้าใน 20 นาทีแรก ต้องทำความเข้าใจใน ไลฟ์สไตล์และความต้องการของเขา ผมจะคุยกับลูกค้าเองทุกคน และสัญญากับลูกค้า 10 คนแรกในเมืองไทยว่า จะรักษาความเอ็กซ์คลูซีฟไว้คือหนึ่งปีจะทำให้เพียง 10 – 15 คนเท่านั้น เพราะผมไม่อยากให้ทุกคนใส่เสื้อผ้าเหมือนกัน”
เท่ากับว่าในหนึ่งปีเขาตัดสูททั้งหมด 700 – 800 ตัวเท่านั้น และเขาก็บอกอย่างชัดเจนว่า “ไม่อยากทำมากกว่านี้ เราอยากให้เอ็กซ์คลูซีฟ!”
สไตล์ของสูท Absolute Bespoke เป็นสูทเข้ารูป ไม่หนุนไหล่ มีความคลาสสิกแฝงอยู่ ต้องสวมใส่สบาย ไม่ฟิตมากแต่พอดีตัว
“สำหรับผมสิ่งแรกคือต้องเข้าใจรูปร่างของลูกค้า ไม่ใช่ว่าทุกคนจะใส่สูทเหมือนกันได้ คนตัวสูงหรือคนตัวเตี้ยจะทำให้ดูดีด้วยสูทได้ ทุกอย่างต้องได้สัดส่วน ต้องทำให้เขาดูดีที่สุด นั่นคือความสำคัญของสูทสั่งตัด ไม่ใช่แค่การวัดตัว แต่คือการดีไซน์ที่ช่วยให้เขาดูดีขึ้น”
ส่วนผ้าที่นำมาตัดสูทนั้นย่อมต้องได้รับการคัดเลือกสิ่งที่ดีที่สุด โดยความชอบส่วนตัวแล้ว เขาชอบผ้าจากอิตาลีมากที่สุด ด้วยสีสันและ เนื้อผ้าที่มีความมันนิดๆ เมื่อถามถึง 3 คำ สำหรับสูทของเขาๆ ตอบทันทีว่า “difference elegance cool”