ผนึกกำลัง 6 ซีอีโอหนุ่มสาวแห่งอาณาจักร RENATAR กับความสำเร็จที่มาพร้อมยอดขายพันล้านเพียงข้ามปี
ในยุคที่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีผู้ลงเล่นในสนามมากมาย แต่กลับมีตัวจริงที่ประสบความสำเร็จ และสามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างเข้มแข็งเพียงจำนวนน้อยนิด หนึ่งในนั้นก็คือ Renatar แบรนด์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ที่แม้จะก่อตั้งมาได้เพียง 4 ปี แต่ด้วยการวางรากฐานที่มั่นคง และมองขาดเรื่องกลยุทธ์ จึงสามารถฝ่าคลื่นลมจนทำยอดหลักพันล้านได้ดังตั้งใจ พร้อมจะเติบโตไปได้ต่ออย่างแข็งแกร่ง ทั้งหมดนี้ต้องยกให้พลังและฝีมือของ 6 ซีอีโอผู้ก่อตั้ง ‘คุณโด้-ชาลิน หัตถกิจโกวิท คุณพีร์-พีรภัทรา เชาวลิต คุณบิ๊ก-นักรบ มังกรหงษ์ คุณมิ้น-ธันยพร เสรีดีเลิศ คุณเอ็ดดี้-เอศรา และคุณโบว์-ศศินนาศ ไกรภัสสร์พงษ์’ กลุ่มเพื่อนที่รวมตัวกัน จนเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของทุกแง่มุมธุรกิจ
เริ่มต้นทำแล้วต้องสำเร็จ
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ‘คุณโด้-ชาลิน หัตถกิจโกวิท’ ผู้คลุกคลีกับธุรกิจเพื่อสุขภาพและประสบความสำเร็จในด้านการขายมานานนับสิบปี จึงเกิดความมุ่งมั่นที่จะเริ่มต้นสร้างสรรค์แบรนด์ของตนเอง ประกอบกับมีที่ปรึกษามือฉมังอย่าง ‘คุณแบงค์–ภัคคณวัฒน์ เหมะธนานันท์’ พ่อมดทางการตลาด ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร Brother Global ที่นับเป็นเบอร์หนึ่งในแวดวง Health Industries เขาจึงพร้อมและกล้าชักชวนกลุ่มเพื่อนๆ มาเริ่มต้นสร้างแบรนด์ใหม่ของตัวเองในชื่อ Renatar (อ่านว่า เร-นา-ต้า) มาจากรากศัพท์เดิม คือ Renata ที่แปลว่า เกิดใหม่ “สำหรับพวกเราตัว R ตัวสุดท้ายที่เพิ่มเข้ามา เปรียบเสมือนตัวแทนทุกคนที่มาเติมเต็มแบรนด์ของเราให้สมบูรณ์แบบ” คุณโด้กล่าวก่อนอธิบายว่า การทำงานสั่งสมประสบการณ์มากว่า 10 ปี ก่อนจะเริ่มนับหนึ่งใหม่กับสิ่งที่ตนสร้าง เป็นคล้ายกับการเกิดใหม่ของทุกคนนั่นเอง
“เราเลือกทำการตลาด แบบมุ่งเน้นผู้ใช้จริง
เห็นผลจริง ขยายฐานผู้บริโภคไปเรื่อยๆ
ดังนั้น ในช่วงแรกของการเริ่มธุรกิจ จึงเป็นการเติบโต
ที่เน้นการสร้างรากฐานให้มั่นคงที่สุด
เพราะ เราเชื่อว่า ความสำเร็จที่แท้จริง ต้องเป็นความสำเร็จที่ยั่งยืน”

ซีอีโอทั้ง 6 กำลังสำคัญในการขับเคลื่อนแบรนด์แบบรอบด้าน
การที่แบรนด์แบรนด์หนึ่งที่มีผู้บริหารถึง 6 คน นี่เรียกว่าเป็นจุดแข็งของ Renatar เพราะทั้ง 6 คนที่มีความสามารถกันคนละด้าน จึงจัดสรรหน้าที่ดูแลการทำงานได้อย่างลงตัว เริ่มจากคุณโด้ ที่ดูแลการบริหารทั้งหมด และหากมีประเด็นที่ต้องตัดสินใจในขั้นสุดท้าย เหล่าเพื่อนๆ จะยกให้เขาฟันธง คุณพีร์ (พีรภัทรา เชาวลิต) ดูแลเรื่องงานเบื้องหลังทั้งหมด รวมถึงบัญชีและการจัดงานอีเวนต์ต่างๆ คุณบิ๊ก (นักรบ มังกรหงษ์) เน้นที่การสร้างระบบการเทรนนิ่ง พัฒนาบุคคลและวางกลยุทธ์ทางการตลาด คุณมิ้น (ธันยพร เสรีดีเลิศ) ดูแลภาพลักษณ์แบรนด์ และการสร้างคอนเทนต์ต่างๆ ทั้งหมดเพื่อสร้างความแตกต่างให้แบรนด์ได้อย่างชัดเจน ในขณะที่คุณเอ็ดดี้ (เอศรา กรภัสสร์พงษ์) ควบคุม Key Visual เรียกว่าหยิบเอาคอนเซปต์ทั้งหลายให้กลายเป็นภาพกราฟิกที่สื่อสารได้อย่างตรงเป้า ส่วนคุณโบว์ (ศศินนาศ ไกรภัสสร์พงษ์) รับหน้าที่ดู แลและพัฒนาผลิตภัณฑ์ทุกตัวให้ได้คุณภาพสูงสุด
“ในช่วงต้นเราผ่านเวลาที่ยากลำบากมาไม่ต่างจากคนที่เริ่มธุรกิจคนอื่นๆ ตอนที่ตัดสินใจลาออกจากงานประจำมาทำ Renatar เต็มตัว รายได้ปันผลที่ผมได้จากบริษัท คือ 4,000 บาท ซึ่งน้อยมากจนน่าใจหาย แต่ด้วยความที่เราตัดสินใจแล้วว่าจะมุ่งมาทางนี้ก็ต้องลุยกันเต็มที่ ศึกษากันมาแล้วเรื่องเทรนด์ของธุรกิจเสริมอาหารก็มีความเชื่อมั่นว่ามันต้องสำเร็จ ที่สำคัญคือเรา 6 คนเชื่อใจกัน ก็ต้องอดทนและพาธุรกิจไปให้ได้” คุณเอ็ดดี้-เอศรา ไกรภัสสร์พงษ์ กล่าว
Renatar เชื่อมั่นว่า ‘คุณภาพ คือ จุดขาย’ กับนิยามสำคัญ ‘ผลิตเพื่อบริโภคเอง’
ปัจจุบันแบรนด์ Renatar เดินทางมากว่า 4 ปีแล้ว กับผลิตภัณฑ์หลัก 3 ชนิด ได้แก่ Renatar Aura Plus+ ดูแลผิวพรรณ, Renatar Fiber X ดูแลระบบย่อยอาหารและการขับถ่าย และ Renatar Boostburn Plus+ ดูแลการเผาผลาญไขมัน จนเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเพิ่งออกสินค้าตัวใหม่อย่าง Renatar Ultra Me ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหาร แบรนด์เดียวของไทยที่ผลิตโดยคนไทย และได้รับการรับรองมาตรฐานจาก อย.
พวกเราเชื่อว่า การดูแลสุขภาพที่ต้องเริ่มต้นจากภายใน
Renatar จึงมีนิยามสำคัญว่า ‘ผลิตเพื่อบริโภคเอง’

“โบว์เป็นคนที่กินอาหารเสริมมาตลอด ทั้งยังชอบเข้าคอร์สเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพและผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เรามีการลองผิดลองถูกเองมานานว่าแบบไหนกินแล้วให้ผลดีหรือไม่ดี รู้ว่า Active Dose ของสารสกัดแต่ละตัวที่จะให้ประสิทธิภาพที่ดีควรอยู่ในระดับไหน พอวันหนึ่งที่มีโอกาสได้ผลิตสินค้าเอง เราจึงเลือกในสิ่งที่ดีที่สุด เป็นมาตรฐานเดียวกับที่เรากิน” คุณโบว์-ศศินนาศ ไกรภัสสร์พงษ์ กล่าว
ทีมเวิร์คที่ดี คือต้องมีหลังบ้านที่แข็งแรง
ทุกเรื่องราว ทุกกระบวนการย่อมต้องประสบกับปัญหาจุกจิก เล็กๆ น้อยๆอยู่เสมอ ดังนั้นความสำเร็จจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากขาดระบบจัดการหลังบ้าน และองค์ประกอบอื่นๆ ที่ช่วยสนับสนุนให้การทำงานทุกมิติเป็นไปอย่างราบรื่น “หน้าที่ของพีร์คือแผนกหลังบ้าน เป็นคำสั้นๆ ที่มีรายละเอียดจุกจิกมากมาย ไล่ตั้งแต่เรื่องการเงิน บัญชี จัดซื้อ รวมไปถึงการทำเอกสารต่างๆ ทั้งกับ Supplier การทำเอกสารให้กับลูกค้าหรือตัวแทนจำหน่ายของเรา และที่เพิ่มเติมเข้ามาคือการจัดอีเวนต์ ซึ่งพักไปในช่วงที่เกิดโควิด-19 พีร์รู้สึกว่าเราเริ่มทำงานนี้มาตั้งแต่วันแรก เรารู้จักแบรนด์มากที่สุด รู้จักเพื่อนๆ ทุกคนมากที่สุด พีร์รู้ว่าบริษัทชอบอะไรแบบไหน รู้ว่าตัวแทนจำหน่าย ลูกค้าของเราต้องการแบบไหน เวลาจัดงานแต่ละครั้ง เขาต้องการธีมการตกแต่งแบบไหน อะไรที่พีร์ทำได้ เราก็อยากทำเองให้สุดความสามารถ และรู้สึกว่าเป็นพีร์นี่แหละที่ต้องดูแลตรงนี้และต้องดูแลตลอดไป” คุณพีร์-พีรภัทรา เชาวลิต กล่าว

การตลาดออนไลน์ ภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่จะสื่อสารต้องชัดเจน
สองคีย์หลักสำคัญในการสื่อสารเรื่องราวของแบรนด์คือ ‘ภาพลักษณ์ และคอนเทนต์’ ซึ่งเป็นเหมือนกลิ่นของ Renatar โดยมีสองหัวเรือใหญ่รับหน้าที่ดูแลกันไปในแต่ละด้าน “สิ่งที่มิ้นคิดในทุกวัน คือ เราจะทำอย่างไรให้ตัวแทนแบรนด์เราที่ส่วนมากเป็นผู้หญิง เป็นแม่บ้าน กล้าลุกขึ้นมาเพื่อประสบความสำเร็จ และจะทำอย่างไรให้แบรนด์เรามีความชัดเจน โดดเด่น และแตกต่าง ให้คนที่เข้ามาอ่าน จะไม่ใช่แค่ได้สีสัน ความสนุก แต่จะได้ความรู้ แนวคิด ทัศนคติต่างๆ ได้แรงบันดาลใจ ได้กำลังใจดีๆ ที่จะสู้ต่อเพื่อเป้าหมายของตัวเอง ซึ่งสิ่งที่มิ้นจะสื่อออกไปเสมอคือ การสร้างคุณค่าในตัวเองของผู้หญิงทุกคน ลบค่านิยมบางอย่าง เช่น เธอต้องผอม ต้องขาว เพราะใน Renatar ความสวยหรือไม่สวยไม่ได้ขึ้นอยู่กับใคร แต่อยู่ที่ความมั่นใจ ความรู้สึกดีๆ ที่ได้ดูแลตัวเอง รวมถึงล้มล้างแนวคิดตีกรอบที่หลายคนมักมองว่า แม่บ้านมีหน้าที่แค่อยู่บ้านเลี้ยงลูกเฉยๆ อยากให้ Renatar เป็นขุมพลัง เป็นเครื่องมือที่จะทำให้ผู้หญิงทุกคนยืนได้ด้วยขาของตัวเองอย่างสง่างามสุด” คุณมิ้น-ธันยพร เสรีดีเลิศ หนึ่งในกำลังสำคัญที่ช่วยผลักดัน และดูแลในส่วนงานคอนเทนต์กล่าว
แต่คอนเทนต์ต่างของ Renatar จะไม่ปัง ไม่เปรี้ยงถ้าขาดบุคคลนี้ คุณเอ็ดดี้-เอศรา ไกรภัสสร์พงษ์ รับหน้าที่หลักในการดูแลด้านสื่อการตลาดที่เจ้าตัวชื่นชอบ และฝึกปรือฝีมือมาตั้งแต่วันแรกที่เริ่มทำแบรนด์ ทำไปจนเชี่ยวชาญจนกลายมาเป็นหนึ่งจุดเด่นของ Renatar เพราะเขารู้สึกว่าคงไม่มีใครรู้จักตัวตนของแบรนด์ได้มากเท่าคนที่ทำมาตั้งแต่ต้นอีกแล้ว

“ต้องยอมรับว่าสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้ตัวแทนขายสินค้าได้ดีขึ้น คือ เขาต้องมีความมั่นใจและความภูมิใจในแบรนด์ Renatar รวมทั้งเขายังสามารถอวดกับใครๆ ได้ว่าฉันเป็นตัวแทนของที่นี่ ดังนั้นรูปที่จะสื่อออกไปต้องช่วยซัพพอร์ต ให้เขากล้าโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียของตัวเองว่ามันมีความแตกต่าง มีความดึงดูด และมีความคิดสร้างสรรค์”
“เพราะ Renatar ไม่ใช่แบรนด์ที่ขายอาหารเสริม
แต่เป็นแบรนด์ที่ขายโอกาสและไลฟ์สไตล์
เพียงแค่มีอาหารเสริมเป็นเครื่องมือเท่านั้น”

เพราะเราเชื่อว่า Renatar จะเป็นดั่ง ‘ครอบครัวที่แข็งเกร่ง’
ด้วยลักษณะของธุรกิจที่ทำการตลาดอยู่บนโลกออนไลน์ ‘ตัวแทน’ จึงเป็นสมาชิกครอบครัวคนสำคัญ การปูพื้นฐานที่ดีผ่านตัวแทนที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ทำให้เมื่อก้าวขึ้นปีที่สอง ความสำเร็จของธุรกิจจึงเป็นไปอย่างก้าวกระโดด ยอดจำหน่ายแตะหลักร้อยล้านและทะยานขึ้นสู่หลักพันล้านในปีต่อมา ครอบครัว Renatar มีตัวแทนมากกว่า 23,000 คนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งหมดนี้ส่วนหนึ่งมาจากการวางแผนบริหารงานที่ดี ซึ่งผู้ที่ดูแลเรื่องนี้คือ ‘คุณบิ๊ก-นักรบ มังกรหงษ์’ ที่เขาให้นิยามคำว่า CEO ของตนเองคือ Chief Education Officer เขาทำหน้าที่เป็นเหมือนครู ที่ช่วยสอนทั้งเรื่องการทำธุรกิจและการเข้าใจ ‘คน’ ให้กับตัวแทนกว่าสองหมื่นชีวิต ผ่านคลาสออนไลน์และสัมมนาต่างๆ มาตั้งแต่เริ่มต้น

“งานของผมไม่ใช่แค่การสอน สำหรับผมชีวิตที่มีคุณค่า คือชีวิตที่ทำให้ผู้อื่นมีคุณค่า การที่เราได้เป็นผู้ให้ มันมีค่ากับเรามากกว่าการเป็นผู้รับ พอเราสอนให้คนอื่นไปแล้วเขาประสบความสำเร็จ มันเป็นความภูมิใจ และสิ่งที่มากกว่านั้นคือการที่เขาสามารถนำความรู้ตรงนั้น ไปสอนคนอื่นให้สำเร็จต่อไปได้ จุดนี้เป็นสิ่งที่สำคัญกว่า Renatar ไม่ได้อยากให้ทุกคนเป็นแค่เจ้าของธุรกิจ แต่อยากให้แต่ละคนเป็นเจ้าของชีวิตตนเอง ผมจะไม่ตกปลาให้ทุกคนกิน แต่จะสอนวิธีให้ทุกคนหาปลากินเองได้ไปตลอดชีวิต”

บทสรุปของความสำเร็จในครั้งนี้ของ Renatar หัวใจหลักสำคัญคือความสามัคคี และความแข็งแกร่งของทีม ถ้าทุกคนในทีมมีเป้าหมายเดียวกันนั่นคือความสำเร็จของแบรนด์ ไม่ว่าเส้นทางจะถูกปูมาอย่างไร จะโรยด้วยกลีบกุหลาบมาหรือไม่ หรือจะพบกับอุปสรรคขวางหนามเพียงใด ถ้าทุกคนตั้งมั่นด้วยหัวใจที่เข้มแข็งและพร้อมสู้กับทุกปัญหา ความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกล
ติดตามบทสัมภาษณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ แง่มุมอื่นๆ กว่าจะประสบความสำเร็จเป็นธุรกิจระดับพันล้าน
ได้ใน นิตยสาร HELLO! ฉบับเดือน กรกฎาคม 2564
วาง แผงแล้ววันนี้! ? ติดต่อสั่งซื้อโทร 0 2676 8999 ต่อ 217 หรือ 084 079 5678
? สั่งซื้อออนไลน์ที่
shop.burdathailand.com หรือ Line ID: @hellomagazineth