Home > Celebrity > Exclusive Interviews > เปิดใจตัวแม่แห่งวงการออกกำลังกาย กว่าจะเป็น ‘เบเบ้-ธันย์ชนก ฤทธินาคา’ อย่างทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย

ตั้งแต่โลกเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 และการกักตัวอยู่บ้านนานหลายเดือน ดูเหมือนผู้คนจะหันมาสนใจการดูแลสุขภาพและเริ่มออกกำลังกายที่บ้านกันมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในอินฟลูเอนเซอร์ที่ปลุกกระแสออกกำลังทุกที่ทุกท่าก็คงหนีไม่พ้น ‘เบเบ้ ธันย์ชนก ฤทธินาคา’ สาวสวยที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดีในฐานะนักร้อง นักแสดง และเน็ตไอดอลรุ่นแรกๆ ของประเทศไทย สำหรับปกแรกของ HELLO! Beauty & Health Digital Cover เราเลยขอชวนเธอมานั่งคุยถึงชีวิตที่ผ่านมา แรงขับเคลื่อนในปัจจุบัน ไปจนถึงอนาคตที่เธอมองไว้กัน

ด้วยตารางงานแน่นเอี๊ยดของสาวสวยตัวเล็กตรงหน้าเรา โอกาสในการพูดคุยเจาะลึกถึงชีวิตส่วนตัวในแต่ละด้านของคุณเบเบ้จึงเกิดขึ้นไปพร้อมๆ กับการแต่งหน้าทำผมเพื่อเตรียมถ่ายปกแรกของ Beauty & Health Digital Cover อากาศยามเช้าภายนอกห้องพักของ โรงแรม เพนนินซูลา กรุงเทพฯ มีเมฆลอยตัวประปรายพร้อมลมพัดเย็น คุณเบเบ้ยิ้มด้วยท่าทีกระตือรือร้นเมื่อเครื่องอัดเสียงถูกกดบันทึก และเราก็เริ่มต้นย้อนเส้นทางกลับไปก่อนจะเป็น “วงการเบเบ้” อย่างที่ทุกคนเห็นในปัจจุบัน

เบเบ้ ธันย์ชนก
เบเบ้-ธันย์ชนก ฤทธินาคา เน็ตไอดอลยุคแรกๆ ของเมืองไทย นักร้อง นักแสดง และปัจจุบันยังเป็นอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังในวงการออกกำลังกาย

เคยตกเป็นเหยื่อของ Beauty Standard บ้างไหม ?

ถึงแม้ว่าในปัจจุบันค่านิยมความงามหรือ Beauty Standard จะเปิดกว้างและโอบรับความแตกต่างหลากหลายมากขึ้น แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในวันที่คุณเบเบ้ก้าวเข้ามาในวงการบันเทิงและอยู่ใต้แสงสปอตไลต์เมื่อหลายสิบปีก่อน “ความสวย” ที่สังคมนิยามไม่ได้มีหลากหลายรูปแบบเท่าไหร่นัก

ทำให้เมื่อเห็นอินฟลูเอนเฟอร์ที่ชวนทุกคนลุกมาออกกำลังกายและรักตัวเอง เราจึงอดสงสัยไม่ได้ว่าเธอเคยมีช่วงที่ตกเป็นเหยื่อของ Beauty Standard และไหลไปกับเสียงวิจารณ์บ้างหรือไม่ ซึ่งสาวเบเบ้ตอบทันทีโดยไม่ต้องใช้เวลานึกคิดนานนักว่า “เคยเป็นค่ะ เราอยู่ในวงการตั้งแต่อายุ 12-13 ปี สมัยนั้นค่านิยมคือต้องตาโต ผิวขาว ผอม หลังจากนั้นเทรนด์ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นแนวหมวย แนวเกาหลี หลังๆ ก็เริ่มมีแนวฝรั่งผิวแทนเข้ามา ซึ่งตอนที่เราเป็นเด็กวัยรุ่น เราก็ตามทุกเทรนด์ อยากสวยแบบนั้นแบบนี้ เหมือนมันยังหาตัวเองไม่เจอ”

“ถึงจะหันมาออกกำลังกายแล้ว ช่วงแรกๆ เราก็ยังเจอเสียงวิจารณ์นะคะ อาจจะเพราะว่าหลายปีก่อนการที่ผู้หญิงเข้ายิมยังไม่เป็นที่ชินตา เคยเจอมาหมดทุกคอมเมนต์เลยค่ะ ทั้งกล้ามเยอะไปไม่สวย หรือผอมไปแล้วนะ ซึ่งช่วงแรกที่ออกกำลังไปด้วยทำงานในวงการไปด้วย เราก็พยายามหาตรงกลางเพื่อให้เป็นไปตามค่านิยมตอนนั้น” และยังไม่ทันที่เราจะถามต่อว่าเธอจัดการกับความรู้สึกเหล่านี้ยังไง สาวเบเบ้ก็เล่าต่อด้วยแววตามีความสุขว่า “แต่พอเราออกกำลังกายไปเรื่อยๆ เหมือนเราหาตัวเองเจอ รักตัวเองมากขึ้น ไม่ได้สนใจว่าจะต้องมีหุ่นตามเสียงวิจารณ์แล้ว”

เบเบ้ ธันย์ชนก
เบเบ้-ธันย์ชนก ฤทธินาคา เน็ตไอดอลยุคแรกๆ ของเมืองไทย นักร้อง นักแสดง และปัจจุบันยังเป็นอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังในวงการออกกำลังกาย

อะไรคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้หันมาออกกำลังกาย ?

คุณเบเบ้นึกย้อนไปถึงเส้นทางที่พาให้เธอมาอยู่ในจุดนี้ พร้อมเล่าให้เราฟังด้วยเสียงสดใส “จุดเริ่มต้นที่เบหันมาออกกำลังจริงจังคือ 6 ปีที่แล้ว ก่อนหน้านั้นเราไม่ได้เข้ายิมออกกำลังกายเลย มีแต่พื้นฐานเรียนเต้น แจ๊ส บัลเลต์ เต้นระบำสเปน จนกระทั่งเราจะแต่งงาน อยากใส่ชุดเจ้าสาวสวยๆ เลยจูงมือแฟนไปสมัครฟิตเนสซื้อคอร์สเทรนเนอร์ แล้วตั้งเป้าหมายว่าในอีก 6 เดือนจะต้องได้หุ่นในฝัน กลายเป็นว่ามันติดเป็นนิสัยจนออกกำลังทุกวันถึงตอนนี้”

คำตอบนี้ทำเอาเราร้องว้าวด้วยความประหลาดใจ เพราะเราคุ้นเคยกันดีกับการออกกำลังกายฟิตหุ่นก่อนเป็นเจ้าสาว แต่ส่วนใหญ่แล้วรูทีนนี้ก็มักจะจบลงหลังเข้าสู่ช่วงฮันนีมูน ไม่บ่อยนักที่จะได้เห็นการเตรียมตัวเป็นเจ้าสาว กลายเป็นกิจวัตรประจำวันที่ขาดไม่ได้อย่างที่สาวเบเบ้เป็น

หุ่นในฝันที่เป็นแรงบันดาลใจให้เบเบ้คือใคร ?

แน่นอนว่าเบเบ้ก็เป็นเหมือนผู้หญิงทุกคนที่ล้วนต้องหาแรงบันดาลใจในการออกกำลังกายช่วงแรก นอกจากการมีเส้นตายเป็นวันแต่งงานที่ต้องสวมชุดเจ้าสาวแล้ว อีกแรงกระตุ้นชั้นดีก็คือรูปภาพหุ่นในฝันที่อยากปั้นตัวเองให้ได้แบบนั้น และโมเดลที่เป็นแรงบันดาลใจให้สาวเบเบ้ก็คือ “นางแบบวิคตอเรีย ซีเคร็ท” (Victoria’s Secret Models)

“ในยุคที่เบเริ่มออกกำลังกาย หุ่นแบบวิคตอเรีย ซีเคร็ทคือหุ่นในฝันของสาวๆ หลายคนเลยค่ะ คือมีลายกล้ามเนื้อ ขาเรียวยาว ตอนนั้นที่เราจ้างเทรนเนอร์ก็บอกว่าอยากได้หุ่นแบบนี้ แต่พอออกไปสักปีสองปี เห็นลายกล้ามเนื้อตัวเอง รู้จักสรีระตัวเอง ก็รู้ว่าทุกคนมีข้อจำกัดแตกต่างกัน เราเป็นคนไหล่กว้าง ขาเล็ก สูงแค่ร้อยห้าสิบกว่าเซ็น ต่อให้ออกกำลังกายเหมือนกัน กินอาหารเหมือนกัน ผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่เหมือนกัน เมื่อก่อนไม่มั่นใจเรื่องรูปร่างภายนอกเลย แต่การออกกำลังกายทำให้เรายอมรับตัวเอง รักตัวเอง และหันมาตั้งใจเป็นตัวเองให้ดีที่สุดมากกว่าจะเป็นเหมือนใคร”

“วงการเบเบ้” สำหรับเบเบ้แล้วคืออะไร ?

คำที่ดูจะพ่วงห้อยติดมากับชื่อของสาวเบเบ้ในตอนนี้ก็คงจะเป็น “วงการเบเบ้” ที่เธอชักชวนให้ทุกคนมาเข้าวงการออกกำลังกายไปด้วยกัน และหลายคนก็มักแซวขำๆ ว่าเป็นวงการที่เข้าแล้วขอออกเลย เพราะแค่ดูคลิปเธอออกกำลังกายก็เหนื่อยแล้ว เราจึงไม่พลาดคว้าโอกาสทองที่ได้มานั่งคุยกับเจ้าตัวในวันนี้ ล้วงความในใจกันเสียหน่อยว่าเธอรู้สึกอย่างไรกับคำคำนี้

“เอาจริงๆ แล้วรู้สึกว่าเป็นคำที่ Positive นะ เหมือนวงการเบเบ้เป็นกลุ่มย่อยของวงการฟิตเนสหรือวงการออกกำลังกายอีกที แต่วงการเบเบ้จะมีเราเป็นคนนำ เป็นคนคอยบิลด์ ส่วนตัวแล้วเบชอบคำนี้นะ (หัวเราะ) บางคนอาจจะรู้สึกว่าการออกกำลังกายเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าได้ลองเข้าวงการเบเบ้แล้ว จะรู้สึกเหมือนมีเพื่อนออกกำลังไปด้วย”

เคยอยากออกจากวงการเบเบ้เองบ้างไหม ?

เชื่อว่าหลายคนที่ติดตามคลิปออกกำลังกายของสาวเบเบ้มาตลอด คงมีคำถามในใจว่าเธอเคยเหนื่อยหรือขี้เกียจที่จะลุกมาขยับแข้งขยับขานำทุกคนออกกำลังในทุกวันบ้างไหม แต่เชื่อหรือไม่ว่าสาวเบเบ้ตอบเราด้วยน้ำเสียงฉะฉานทันควันพร้อมดวงตาเป็นประกายว่า “ไม่เคยเลยค่ะ เบไม่เคยมีวันที่รู้สึกเหนื่อยหรือขี้เกียจเลย เพราะปกติเราไม่ได้ไปไหนเยอะ ถ้าไม่ไปถ่ายยูทูปหรือคิดคอนเทนต์ เราก็จะออกกำลังกายของตัวเองอยู่แล้วทุกวัน เหมือนเป็นวิธีการปลุกตัวเองทุกเช้าให้มีแรง”

เป็นอีกครั้งที่คำตอบของสาวร่างเล็กตรงหน้าทำให้เราร้องว้าวด้วยความทึ่งอยู่ในใจ พร้อมอดไม่ได้ที่จะถามซ้ำอีกครั้ง ว่าเธอไม่เคยเลยสักครั้งเชียวหรือที่จะรู้สึกขี้เกียจหรือมีวันที่ตื่นเช้ามาแล้วอยากนอนอยู่บนเตียงเฉยๆ บ้าง เบเบ้ยิ้มกว้างขึ้นขณะเตรียมตัวลุกไปเข้าฉากถ่ายทำ เธอตอบด้วยเสียงสดใสว่า “เบเป็นคนทำอะไรแล้วต้องทำให้สุดค่ะ ตั้งแต่เราเริ่มออกกำลังกายมา เลยไม่มีสักวันที่รู้สึกท้อหรือขี้เกียจเลย กลัวทำได้ไม่ถึงเป้าหมายของตัวเองมากกว่า”

ขอขอบคุณสถานที่ : The Peninsula Bangkok (โรงแรม เพนนินซูลา กรุงเทพฯ)

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.